ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,825 รายการ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.14/1-4
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง : พระธรรมเทศนา ชื่อผู้แต่ง : อุบาลีคุณูปมาจารย์, เจ้าคุณพระ ปีที่พิมพ์ : 2504 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร.พ. ไทยพิทยา จำนวนหน้า : 540 สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร ท.จ., ท.ช. ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 17กรกฎาคม 2504 โดยมีเนื้อหาประกอบด้วย ชีวประวัติของ ท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร ธรรมเทศนาโดยเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ กฎหมายว่าด้วยครอบครัว และกฎหมายว่าด้วยมฤดก
พระมาลัย คือ พระอรหันต์ชาวลังกา ที่มีฤทธิ์ลงไปโปรดสัตว์ยังนรก ถามถึงบุรพกรรมต่าง ๆ ของสัตว์นรก นำมาบอกแก่ญาติพี่น้องให้ทำบุญแผ่ส่วนกุศลไปให้ และได้ขึ้นไปบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้สนทนากับพระอินทร์ ซึ่งบอกให้ทราบถึงอานิสงส์ ที่ผู้บำเพ็ญบุญจะได้ด้วยประการต่าง ๆ บนสวรรค์ พระมาลัยยังได้พบและสนทนากับพระศรีอริยเมตไตรย ถึงความสมบูรณ์พูนสุขในสมัยของพระองค์ และวิธีเกิดในพุทธกาลของพระองค์ด้วย เมื่อกลับมาสู่โลกมนุษย์แล้ว จึงได้นำความมาเทศนาต่อชาวบ้าน
พระมาลัยเป็นวรรณกรรมมุ่งสั่งสอนในทางโลก ให้คนเว้นจากบาปกรรม นำให้พ้นนรก และให้บำเพ็ญกุศลเพื่อเกิดในสวรรค์ ได้พบกับพระอินทร์ ได้บูชาพระเจดีย์จุฬามณี และได้เกิดทันศาสนาของพระศรีอาริย์ ทางศิลปกรรมถ่ายทอดออกมาเป็นภาพประกอบสมุดพระมาลัยกลอนสวด สมุดภาพไตรภูมิ ภาพพระบฏ จิตรกรรมฝาผนัง และประติมากรรมรูปเคารพ ปรากฏอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของไทย
หลักฐานทางศิลปกรรม พบว่ารูปพระมาลัยมักจะถือพัดใบตาล (ตาลปัตร) ไว้ในมือเป็นเครื่องหมายประจำพระองค์เสมอ หรือบางครั้งก็ทำเป็นพัดยศ ตามแบบพระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์ ถวายแก่พระมาลัยเป็นพิเศษ ทั้งนี้เนื่องจากพัดเป็นเครื่องหมายในการแสดงธรรม ใช้สวดธรรม และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา พระมาลัยเป็นพระอรหันต์ผู้โปรดสัตว์ในยมโลก เทวโลก และมนุษยโลก จึงถือพัดเครื่องหมายการแสดงธรรมเป็นสัญลักษณ์ ตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นธรรมเนียมนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน
เรียบเรียงโดย นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ) สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
ชื่อผู้แต่ง : วันธรรมศาสตร์สงขลา 2515
ชื่อเรื่อง : วันธรรมศาสตร์สงขลา 2515
ปีที่พิมพ์ : 2515
สถานที่พิมพ์ : สงขลา
โรงพิมพ์ : ไทยนำ
จำนวนหน้า ไม่มีเลขหน้า
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สมาคมธรรมศาสตร์ สงขลาได้จัดพิมพ์ขึ้น เพื่อเสนอต่อที่ประชุมชาวธรรมศาสตร์จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2514 วัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมความสัมพันธ์ ผดุงเกียรติ และช่วยสมาชิก ส่งเสริมวิทยากร บำเพ็ญสาะรณะประโยชน์ และส่งเสริมความเจริญแก่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อเรื่อง มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มโหสถ)สพ.บ. 408-1ขหมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง พุทธศาสนา ธรรมเทศนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 52 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (เตมิยะ-ภูริทัต)
สพ.บ. 411/ก/3
หมวดหมู่ พุทธศาสนา
ภาษา บาลี/ไทยล้านนา
หัวเรื่อง พุทธศาสนา นิทานชาดก
ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลาน
ลักษณะวัสดุ 50 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 58.8 ซม.
บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมล้านนา ธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ลานดิบ ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
#องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ #ลูกเป้ง. สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับสาระความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ค่ะ. ทุกคนเคยสงสัยหรือไม่คะ ว่าสมัยก่อนเมื่อมีการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต้องวัดน้ำหนักกัน คนสมัยก่อนเค้าทำกันอย่างไร ในเมื่ออดีตยังไม่มีการกำหนดหน่วยกิโลกรัมเป็นมาตรฐาน. การซื้อขายด้วยการชั่งในอดีตนั้น พบว่ามีการใช้ตราชั่งแบบตาเต็งหรือตาชู(ตาชั่งแบบสุเมเรียน) ในการใช้ตาชูจะต้องมีลูกชั่งซึ่งเป็นโลหะที่กำหนดน้ำหนักไว้เป็นมาตราฐานเพื่อนำมาชั่งน้ำหนักสิ่งของต่างๆ โดยในล้านนาจะเรียกลูกชั่งลักษณะนี้ว่า "ลูกเป้ง" ค่ะ . วันนี้เราลองมาทำความรู้จัก "ลูกเป้ง" ลูกชั่งของล้านนาด้วยกันนะคะ"""""""""""""""""""""""""""""""""""""". “ลูกเป้ง” หรือ “เป้ง” เป็นตัวถ่วงน้ำหนักที่ใช้กับเครื่องชั่งโบราณหรือตราชู คนโบราณเรียกชั่งชนิดนี้ว่า “ยอย” ด้านหนึ่งมีจานใส่ของ เรียกว่า ผางยอย . “ลูกเป้ง”ทำจากโลหะ ส่วนมากเป็นสำริดหรือทองเหลือง ‘เป้ง’มีขนาดแตกต่างกันออกไป ขนาดเล็กที่สุดอาจเท่าเมล็ดถั่วไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม . วิธีใช้ คือ วางของที่จะชั่ง เช่น ฝิ่น เงิน ทอง หรือสิ่งของที่ซื้อขายกันในตลาด เช่น พริก กระเทียม ยาสมุนไพร ไว้ที่จานใบหนึ่งของตราชู จากนั้นวาง ‘เป้ง’ ที่เป็นตัวถ่วงน้ำหนักไว้ที่จานอีกใบหนึ่งของตราชู วาง ‘เป้ง’ขนาดต่าง ๆ จนทำให้แขนของตราชูขนานกับพื้นทั้งสองข้างก็จะทราบว่าของที่ชั่งนั้นมีน้ำหนักเท่าใด. “ลูกเป้ง” นิยมทำเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น นก เป็ด หงส์ ช้าง สิงห์ และสัตว์ตามปีนักษัตร หรือทำเป็นลูกกลมๆ ไม่ตกแต่งลวดลาย ขาวมอญในพม่านิยมใช้ลูกชั่งรูปหงส์ เนื่องจากเป็นสัตว์ในวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับการตั้งเมืองหงสาวดี ‘เป้ง’บางตัวมีการเติมเนื้อตะกั่วเข้าไปเพื่อให้ได้น้ำหนักครบตามจำนวน. ความสำคัญของ “ลูกเป้ง” นั้นนอกจากจะเป็นเครื่องถ่วงน้ำหนักแล้ว คนล้านนายังใช้ลูกเป้งแทนความสำคัญอย่างอื่นได้อีก เช่น. ใช้ “ลูกเป้ง” แทนทรัพย์สินเช่นเดียวกับเงินตรา เช่น ใส่ใน ‘ขันตั้ง’ เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น พิธีสืบชะตาเมือง เป็นต้น นอกจากนี้ ชาวล้านนาจะใช้ “ลูกเป้งรูปนักษัตร” หรือ “เป้งสิบสองราศี” ใส่ขันตั้งไปด้วย เพราะเชื่อว่าจะเกิดสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น ฤทธิ์ของลูกเป้งตามแต่ละราศี จะสามารถปราบขึด(ความอัปมงคล)หรือเสนียดจัญไรให้แก่ผู้ใส่ได้เป็นอย่างดี และ “ลูกเป้ง” ยังหมายถึง ตัวนำโชค บางคนจึงพก “ลูกเป้ง” ไว้เป็นเครื่องรางติดตัวเพื่อคอยป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ. การเก็บลูกเป้ง ชาวล้านนาจะเก็บลูกเป้งไว้ใน ถุงผ้าขนาดเล็ก รูปทรงคล้ายย่ามที่ปากถุงมีห่วงเงินเล็ก ๆ หลายห่วงร้อยเชือกไว้ ส่วนปลายเชือกจะมีลูกปัด หรือลูกแก้วผูกอยู่ ใส่พกติดเอวโดยเหน็บกับเข็มขัด เรียกว่า “ถงเป้ง” หรือ “ถุงเป้ง” . ในอดีตนั้น “ลูกเป้ง”และ “ถุงเป้ง” มีความสัมพันธ์กับความเชื่อของคนล้านนาที่สอดคล้องกับคำทำนายหรือหนังสือพรหมชาติล้านนาหลายฉบับที่กล่าวถึง โฉลกในการพกลูกเป้งและการเลือกใช้ถุงสำหรับบรรจุทรัพย์ว่า ‘คนใดเกิดปีใดควรพกลูกเป้งกับถุงเป้งใด’ เพื่อให้เป็นมงคลกับตัว ดังนี้คนเกิดปีใจ้ (ชวด) ให้ใช้เป้งรูปหนู ใช้ถุงเป้งลายเหลืองคนเกิดปีเปล้า (ฉลู) ให้ใช้เป้งรูปวัว ถุงเป้งสองชั้น นอกขาวในเหลืองคนเกิดปียี (ขาล) ให้ใช้เป้งรูปเสือ ถุงเป้งสามชั้น ในเหลือง กลางขาว นอกดำคนเกิดปีเหม้า (เถาะ) ให้ใช้เป้งรูปกระต่าย ถุงเป้งสองชั้น นอกขาว ในเหลืองสายแดงคนเกิดปีสี (มะโรง) ให้ใช้เป้งรูปพญานาค ถุงเป้งสองชั้น ในแดง นอกดำคนเกิดปีใส้ (มะเส็ง) ให้ใช้เป้งรูปงู ถุงเป้งสองชั้น นอกเขียว ในขาวคนเกิดปีสะง้า (มะเมีย) ให้ใช้เป้งรูปม้า ถุงเป้งสามชั้น ในแดง กลางเหลือง นอกขาวคนเกิดปีเม็ด (มะแม) ให้ใช้เป้งรูปแพะ ถุงเป้งสองชั้น ในหม่น นอกขาวคนเกิดปีสัน (วอก) ให้ใช้เป้งรูปลิง ถุงเป้งสามชั้น นอกแดง กลางขาว ในเหลืองคนเกิดปีเร้า (ระกา) ให้ใช้เป้งรูปไก่ ถุงเป้งสองชั้น นอกหม่น ในขาว สายเหลืองคนเกิดปีเส็ด (จอ) ให้ใช้เป้งรูปหมา ถุงเป้งสองชั้น นอกเหลือง ในขาวคนเกิดปีไก๊ (กุน) ให้ใช้เป้งช้าง ถุงเป้งสองชั้น ในขาว นอกเหลือง สายเขียวหรือแดง""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""ที่มา : - นวรัตน์ เลขะกุล. (๒๕๔๗). เบี้ย บาท กษาปณ์ แบงค์ กรุงเทพฯ: สารคดี.- ระบบการชั่ง ล้านนา. (มปป). ธนาคารแห่งประเทศไทย. ค้นเมื่อ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔, จาก https://www.bot.or.th/.../BOT.../Northern/Pages/T-scale.aspx
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.44/1-1
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนี เผด็จมงคลสูตร)
ชบ.บ.88ก/1-2
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)