ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 168/2เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สถานีรถไฟสารภี สถานีรถไฟสารภี ตั้งอยู่ที่ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างสถานีรถไฟเชียงใหม่กับสถานีรถไฟป่าเส้า จังหวัดลำพูน ปัจจุบันสถานีรถไฟสารภี ให้บริการรถท้องถิ่น เที่ยวขึ้น ขบวน ๔๐๗ นครสวรรค์ - เชียงใหม่ และเที่ยวล่อง ขบวน ๔๐๘ เชียงใหม่ - นครสวรรค์ นอกจากนั้นเป็นรถผ่าน แต่เดิมสถานีรถไฟสารภี มีชื่อว่าสถานีป่ายางเลิ้ง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นายอำเภอสารภีได้ทำหนังสือติดต่อไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย ขอให้พิจารณาเปลี่ยนชื่อสถานีป่ายางเลิ้ง เป็นสถานีสารภี เนื่องจากชื่อสถานีป่ายางเลิ้งเป็นชื่อที่ไม่เหมาะสมและไม่ตรงกับความเป็นจริง ด้วยคำว่าป่ายางเลิ้งไม่มีชื่อหมู่บ้านและตำบลอยู่ในทำเนียบท้องที่อำเภอสารภี ทำให้ผู้โดยสารรถไฟไม่ได้รับความสะดวกหลายประการ เช่น ผู้โดยสารบางคนต้องการโดยสารรถไฟไปลงที่อำเภอสารภี แต่ไม่ทราบว่าจะลงที่สถานีใด ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรเปลี่ยนชื่อสถานีป่ายางเลิ้งเป็นสถานีสารภี อย่างไรก็ตาม กรมมหาดไทยได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวว่าสถานีป่ายางเลิ้งตั้งอยู่ในเขตการปกครองท้องที่หมู่บ้าน ตำบล หรือในเขตบริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอสารภี และให้พิจารณาตามหลักการตั้งชื่อสถานีรถไฟตามที่ตั้งตำบลหมู่บ้านหรือที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ หากสถานีแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตบริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอสารภี ก็ควรตั้งชื่อว่า “สถานีสารภี” หากไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตบริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ ก็ควรใช้ชื่อตำบลเรียกชื่อว่า “สถานียางเนิ้ง” หลังจากจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้ว ได้ทำหนังสือแจ้งกรมมหาดไทย เห็นสมควรในการเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟดังกล่าว เป็นสถานีสารภี เนื่องจากสถานีนี้ตั้งอยู่ตำบลยางเนิ้ง อันเป็นตำบลที่ตั้งที่ว่าการอำเภอสารภี ซึ่งถือว่าเหมาะสมและสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้โดยสารที่อยู่ห่างไกลได้ผู้เรียบเรียง : นางเกษราภรณ์ กุณรักษ์ นักจดหมายเหตุชำนาญการภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่อ้างอิง :๑. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่. เอกสารสำนักงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ หจช ชม ชม ๑.๒.๑/๕๓ เรื่องขอเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟป่ายางเลิ้ง เป็นสถานีสารภี (๑๑ เมษายน ๒๕๐๓ – ๕ มิถุนายน ๒๕๐๔)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 21/4ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 60 หน้า : กว้าง 5.2 ซม. ยาว 54.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 57/3ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 12 หน้า : กว้าง 4.8 ซม. ยาว 56.8 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อผู้แต่ง พระโหราธิบดี
ชื่อเรื่อง แบบเรียนภาษาไทยจินดามณี
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ -
สำนักพิมพ์ -
ปีที่พิมพ์ -
จำนวนหน้า ๑๓๔ หน้า
หมายเหตุ สด.๐๐๙ หนังสือสมุดไทยดำ อักษรไทยและอักษรขอม ภาษาไทยและภาษาบาลี เส้นหรดาล
(เนื้อหา) จินดามณีจัดเป็นแบบเรียนภาษาไทยเล่มแรกของสยามประเทศ แต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยพระมหาราชครู จุดประสงค์ในการแต่ง เพื่อให้กุลบุตรไทยได้เล่าเรียนหนังสือไทย อ่านออกเขียนได้ถูกต้องตลอดจนแต่งบทประพันธ์ต่างๆ ได้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรมศิลปากร เปิดรับสมัครอบรมศิลปะภาคฤดูร้อน ครั้งที่ 40 ประจำปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 โดยได้รับการตอบรับจากเยาวชนและประชาชนผู้สนใจเป็นอย่างมาก ขณะนี้เหลือเพียงทักษะการวาดการ์ตูน ป.1 – ป.3 (รอบเช้า) ที่ยังว่างอยู่ สามารถสมัครเรียนได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 หรือจนกว่าจะเต็ม
ทักษะการวาดการ์ตูน
ป.1 – ป.3 (รอบเช้า - อ.สุธีรา รุ่งเรืองเสาวภาคย์) เต็ม
ป.1 – ป.3 (รอบเช้า - อ.ดินหิน รักพงษ์อโศก) ว่าง 10 ที่
ป.1 – ป.3 (รอบบ่าย - อ.สุทธาสินีย์ สุวุฒโฑ) เต็ม
ป.4 – ป.6 (รอบเช้า - อ.ศันสนีย์ รุ่งเรืองสาคร) เต็ม
ป.4 – ป.6 (รอบบ่าย - อ.ภูเบศร์ สินอำพล) เต็ม
ทักษะการวาดสีน้ำ
ป.4 – ป.6 (รอบบ่าย - อ.ณรงค์เดช ศุขสายชล) เต็ม
ม.1 ขึ้นไป – บุคคลทั่วไป (รอบบ่าย - อ.พัชรินทร์ อนวัชประยูร) เต็ม
ทักษะการวาดเส้น
ม.1 ขึ้นไป – บุคคลทั่วไป (รอบเช้า - อ. อัจจิมา เจริญจิตร ตนานนท์) เต็ม
การรับสมัคร
สมัครและชำระค่าลงทะเบียนได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
** ไม่รับโอนเงิน ไม่รับสมัคร หรือรับจองทางออนไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น **
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
1. รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 1 ใบ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้เข้ารับการอบรม
3. ค่าลงทะเบียนคนละ 1,700 บาท ต่อคอร์ส
(รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในการอบรมแล้ว)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ฝ่ายวิชาการ โทร. 02 282 2639 หรือที่ Facebook: TheNationalGalleryThailand
เลขทะเบียน : นพ.บ.458/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4.5 x 52.5 ซ.ม. : ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 159 (163-173) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : ปฐมมูล--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
งาช้างประหลาด
พุทธศตวรรษที่ ๒๔
สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ “Museum Unveiling” เรื่องลึก เบื้องหลังพิพิธภัณฑ์ไทย ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
งาช้างประหลาดกิ่งนี้ มีผิวหยักเป็นปล้อง ๆ เกิดจากความผิดปกติทางธรรมชาติของช้าง ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะพิเศษของงาช้างที่พบได้ยาก และถูกนำมาจัดเก็บและแสดงในหอพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๕ จากบัญชีรายการโบราณวัตถุที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถาน พ.ศ. ๒๔๔๐ ระบุว่า รายการที่ ๒๗๘๖ ชื่อวัตถุ “งาช้างปล้อง” จำนวน ๑ กิ่ง
นอกจากนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังเก็บรวบรวมงาประหลาดแบบต่าง ๆ ไว้อีกหลายกิ่ง อาทิ งาช้างบิดเกลียวจำหลักพระพุทธรูปห้าพระองค์ งาช้างบิดแตกออกเป็นห้ากิ่งพันกัน งาช้างคุด โดยแนวคิดการรวบรวมวัตถุที่เป็นของประหลาดเหล่านี้ปรากฏชัดเจนใน ประกาศเรื่องให้เอาของต่าง ๆ มาตั้งหอมิวเซียม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ ความตอนหนึ่งกล่าวว่า
“...ผู้หนึ่งผู้ใดมีของประหลาด ที่จะเอามาตั้งในหอมิวเซียมนี้ ขอให้เอามา ณ วันพุธ เดือนสิบ แรมสามค่ำ จนถึง ณ วันอาทิตย์ เดือนสิบ แรมสิบสี่ค่ำ จะให้มีพนักงานรับแลลงเลขนำเบอร์ ทุก ๆ สิ่งของผู้ที่เอามาแล้วจะให้ตั๋วพิมพ์ใบเสร็จให้กับผู้ที่เอาของมาให้...”
ครั้นต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๗ นายแฮร์มูนนิค เดอ จองก์ห์ (H. Munniks de Jongh) ได้ส่งรูปงาช้างปล้องและจดหมายสอบถามเกี่ยวกับงาช้างปล้องในสยามมาถึงเจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการในขณะนั้น และกระทรวงเกษตราธิการได้สอบถามมายังราชบัณฑิตยสภา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีลายพระหัตถ์ตอบกลับลงวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ความตอนหนึ่งกล่าวว่า
“...ข้าพเจ้ามีความยินดีที่จะตอบได้ว่างาเปนปล้อง ๆ เช่นนี้เปนเอง ที่ในพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร กรุงเทพฯ นี้ก็มีงาเหมือนเช่นนั้นอยู่กิ่งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้ถ่ายรูปฉายาลักษณ์ส่งมายังเจ้าคุณพร้อมกับจดหมายฉะบับนี้เพื่อจะได้ส่งไปยังนายแฮร์มูนนิคเดอจองก์ห์เปนสำคัญ งาที่ผิดธรรมดานอกจากที่เปนปล้อง ๆ อย่างนี้ยังมีอีกหลายอย่าง บางทีกิ่งเปน ๓ กิ่งพันพันก็มี ดังได้ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยอีกแผ่น ๑ ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าเกิดแต่โรคของช้างบางตัวที่ทำให้งางอกวิปริตผิดธรรมดาไปเช่นนั้น...”
อ้างอิง
กรมศิลปากร. สมเด็จพระปิยมหราช พระผู้พระราชทานกำเนิดพิพิธภัณฑสถานเพื่อประชา. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๗.
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. (๔) ศธ.๒.๑.๑/๑๖๔. เอกสารกระทรวงศึกษาธิการ กรมศิลปากร เรื่อง ขอให้ช่วยพิจารณางาช้างซึ่งเปนปล้อง ๆ (๗ มี.ค. ๒๔๗๒ - ๓๐ ก.พ. ๒๔๗๔).
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ น.๔๙.๒/เอกสารกระทรวงนครบาล รัชกาลที่ ๕. เรื่อง บัญชีสิ่งของพิพิธภัณฑ์ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๐).