ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,643 รายการ

วันศุกร์ที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านตางมาง ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๓๙ คน คุณครูและผู้ปกครอง ๔๓ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นางถนอม หลวงกลาง นางศรีสุดา ศรีสด พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม



กรมศิลปากร ร่วมกับมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ขอเชิญคุณครูที่สอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป สมัครเข้าร่วมกิจกรรม Goal Together เรียนรู้มรดกวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ “รุ่งอรุณอารยธรรมไทย รุ่งวิไลอารยธรรมโลก : ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร” เพื่อเรียนรู้เรื่องราวพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนเมืองสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ไทย อันมีคุณค่าความสำคัญหนึ่งในอารยธรรมของโลก ผ่านร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของเมืองมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร    ถ่ายทอดองค์ความรู้โดยคณะวิทยากรของกรมศิลปากร ประกอบด้วย กองโบราณคดี สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ และสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2568 ณ จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดสุโขทัย   รายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ > https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScGHTqW3OadsHflo_P2v3Z4GmP_7FE7nnIOzuM7vHuHBmYlYQ/viewform ตั้งแต่วันนี้ - 16 พฤศจิกายน 2568 สอบถามเพิ่มเติม 098-249-9143 (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 – 17.30 น.) Line id @syf2546   ประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกทาง www.suthiratfoundation.or.th วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568



ที่ประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ มอบกรมศิลปากรดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศฯ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม ๒๕๖๙        วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ โดยมีนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมศิลปากร และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม ณ ตึกบัญชาการ ๑ ทำเนียบรัฐบาล        นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบแผนการดำเนินงาน ดังนี้        ๑. แผนการดำเนินงานการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานดำเนินการ ดำเนินงานออกแบบและประมาณราคาค่าก่อสร้าง รวมทั้งงานออกแบบภูมิทัศน์และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การดำเนินงานออกแบบอาคารพระเมรุมาศและอาคารประกอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๙ และจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ๒๕๖๙        ๒. แผนการดำเนินงานการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกรมสรรพาวุธทหารบก กรมอู่ทหารเรือ กระทรวงกลาโหม ดำเนินงานบูรณะราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบทุกองค์ ทั้งนี้จากการสำรวจเบื้องต้น สภาพปัจจุบันของราชรถ ราชยาน มีสีหมองคล้ำ มีคราบสกปรกฝังลึก ทองที่ปิดหลุดลอก ชิ้นส่วนประดับตกแต่งชำรุด ซึ่งจะดำเนินงานบูรณะตามลำดับ ได้แก่ งานซ่อมสงวนรักษาโครงสร้างช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน โดยกรมสรรพาวุธทหารบก  งานทำความสะอาดพื้นผิวราชรถ ราชยาน ด้วยกระบวนการงานทางวิทยาศาสตร์ โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร งานบูรณะซ่อมแซมงานตกแต่งศิลปกรรมและประณีตศิลป์ โดย สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร งานจัดทำเชือกลากราชรถ โดยกองเรือพระราชพิธี กองทัพเรือ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยคาดว่างานทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ๒๕๖๙           โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ เป็นไปอย่างถูกต้องตามโบราณราชประเพณี สวยงามและสมพระเกียรติยศทุกประการ


วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ประธานตรวจการจ้าง พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้ควบคุมงาน ลงพื้นที่ตรวจรับงานโครงการขุดแต่งปราสาทหนองตาเปล่ง ตำบลช่อผกา อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ (งวดที่1 และงวดที่2)


          วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ นายกิตติพงษ์ สนเล็ก ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๘ ขอนแก่น พร้อมด้วยนางสาวทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อชี้แจงและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาประตูแห่งกาลเวลา           ในการนี้ นายกิตติพงษ์ สนเล็ก ได้ร่วมบรรยายถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งโบราณคดีภาพสลักและภาพเขียนสี ณ สำนักสงฆ์ภูผาขาม ตำบลเหล่าโพนค้อ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งหารือแนวทางการดำเนินการศึกษาวิจัย พัฒนา และต่อยอดคุณค่าของแหล่งโบราณคดีในพื้นที่ ร่วมกับรองผู้ว่าจังหวัดสกลนคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อุทยานแห่งชาติภูผายนต์ องค์กรภาคธุรกิจและภาคประชาชนในจังหวัดสกลนคร



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ ๒๙ ตุลาคม ถึง ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๘ มีผู้เข้าชมทั้งสิ้น ๑๕๕ คน


รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือน ตุลาคม ๒๕๖๘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์




สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบ ในพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง        วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เวลา ๐๘.๐๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร  และคณะกรรมการ เฝ้า ฯ รับเสด็จ         ในการนี้ เสด็จฯ เข้าภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะพระพุทธสิหิงค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธสิหิงค์ จากนั้นเสด็จ ฯ ไปยังมณฑลพิธี ด้านหน้าโรงราชรถ ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป และปักธูปหางที่เครื่องบวงสรวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา และอัญเชิญดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทอดพระเนตรการแสดงรำบวงสรวง ๑ ชุด บรรเลงเพลงสาธุการ โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร เสด็จ ฯ ไปยังมณฑลพิธี ทรงสุหร่ายที่เครื่องมือช่าง ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง ทรงคล้องมาลัยที่พระมหาพิชัยราชรถ พระยานมาศสามลำคาน จำนวน ๒ องค์ พระเวชยันตราชรถและราชรถน้อย จำนวน ๓ องค์ ตามลำดับ และทอดพระเนตรพระราชรถ พระยานมาศ แล้วจึงเสด็จ ฯ กลับ         ตามที่นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ  งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังนั้น เพื่อให้การบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศทุกประการ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ จึงมอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ตามโบราณราชประเพณีไทย และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่ราชรถ ราชยานทั้งหลายได้สร้างขึ้นแต่ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และได้ใช้สืบเนื่องกันมาในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและพระศพตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์          กรมศิลปากร กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ จะดำเนินงานบูรณะราชรถ ๕ องค์ ประกอบด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย ๓ องค์ เกรินบันไดนาค ๒ เกริน พระยานมาศสามลำคาน ๒ องค์ พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ โดยกรมศิลปากรจะดำเนินงานบูรณะ ซ่อมแซม และอนุรักษ์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ งานตกแต่ง และงานประดับส่วนต่าง ๆ ที่เป็นงานประณีตศิลปกรรม กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ จะดำเนินการศึกษา ตรวจสอบสภาพโครงสร้างของราชรถ ระบบกลไก การเคลื่อนที่ และการชักลาก ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ทั้งนี้ เพื่อให้งดงามและสมพระเกียรติ 


หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ จัดแสดงหนังสือพระราชประวัติและหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ณ โถงกลาง ชั้น ๑ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปกรรม “เพราะรัก” โดย เกษมศักดิ์ ตรานุชรัตน์ และ ราษี ศรบรรจง โดยได้รวบรวมผลงานจิตรกรรมที่เป็นดังบันทึกแห่งชีวิต ถ่ายทอดการมองโลกและความงามผ่านสายตาของสองหัวใจที่เคยเดินเคียงกัน ผลงานของทั้งคู่สะท้อนความเข้าใจใน “ชีวิต” และ “ความรัก” ในหลากหลายมิติ รักที่งดงามแต่ไม่สมบูรณ์ รักที่สูญเสียแต่ยังคงอยู่ และรักที่กลายเป็นแรงผลักดันให้ศิลปะดำเนินต่อไปแม้ในความเงียบงัน “เพราะรัก” ไม่ใช่เพียงนิทรรศการจัดแสดงผลงานจิตรกรรมของสองศิลปิน หากแต่เป็นบทสนทนาทางใจที่ดำเนินอยู่ผ่านสี เส้น และแสงเงา บทสนทนาที่เริ่มต้นจากความผูกพันและมิตรภาพ จนกลายเป็นการเดินทางทางศิลปะที่ร่วมกันสร้างและสืบต่อด้วย “รัก” นิทรรศการนี้คือพื้นที่แห่งการรำลึกและเฉลิมฉลอง “ความรัก” ที่ยังคงดำรงอยู่ ทั้งในความทรงจำและบนผืนผ้าใบ เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่แปรความคิดถึงให้กลายเป็นแสงแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อยืนยันว่า “ศิลปะที่เกิดจากรัก”จะไม่มีวันจางหายไปตามกาลเวลา ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการศิลปกรรม “เพราะรัก” ได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จัดแสดงระหว่างวันที่ 6 – 28 พฤศจิกายน 2568 เปิดให้เข้าชมวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ และอังคาร) อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 240 บาท โดยมีพิธีเปิดนิทรรศการ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป  ------------------------------------------------------------------ The Art Exhibition “For Love” By Kasemsak Tranucharat & Rasee Sornbanjong   “For Love” is not merely an exhibition of paintings by two artists, but a heartfelt dialogue expressed through color, line, and light — a conversation that began with friendship and affection, and grew into a shared artistic journey sustained by love. This exhibition brings together a collection of paintings that serve as visual journals of life, portraying the world and its beauty through the eyes of two hearts that once walked side by side. Each work reflects their profound understanding of “life” and “love” — love that is beautiful yet imperfect, love that endures loss, and love that continues to inspire creation even in silence. “For Love” is thus both a space of remembrance and a celebration of enduring affection — a tribute to love that lives on, both in memory and on canvas. It marks a final journey transformed by longing into light and inspiration, affirming that “art born of love” will never fade with time. The National Gallery, Chao Fa Road 6-28 November 2025 Open Wednesday–Sunday, 9:00 A.M.–4:00 P.M. (Closed on Monday and Tuesday) Admission: Thai Citizens 30 THB | Foreign Visitors 240 THB Opening Ceremony: November 7, 2025, from 5:00 P.M. onwards  


black ribbon.