ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ
เมืองโบราณโนนเมือง แหล่งเรียนรู้ทางโบราณคดี ที่บอกเล่าเรื่องราวการดำรงชีวิต ของคนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มน้ำเชิญ เมื่อราว 2,500 ปีมาแล้ว ข้อมูลเพิ่มเติมจิ้มได้เลยค่ะ https://bit.ly/3M9fgIP #ขอนแก่น #ชุมแพ #สำนักศิลปากรที่8ขอนแก่น #รีวิวชุมแพ #รีวิวขอนแก่น ⋯⋯✧⋯✦⋯⋯✧✦✧⋯⋯✦⋯✧⋯⋯สอบถามหรือแจ้งข้อมูลโบราณสถาน 043-242129 Line: finearts8kk E-mail: fad9kk@hotmail.comพื้นที่ในความรับผิดชอบขอนแก่น บึงกาฬ เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี
ชอง หรือ คนชอง (ช์อง) แปลว่า “คน” เป็นชื่อของกลุ่มชนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ชาวชองอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่มีปรากฏหลักฐานซึ่งได้กล่าวถึงคนชองไว้ในนิราศเมืองแกลงของสุนทรภู่ แต่งเมื่อ พ.ศ. 2350 และจดหมายเหตุของรัชกาลที่ 5 ครั้งเสด็จประพาสจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีปรากฏในเอกสารของชาวต่างชาติ ได้แก่ ปาลเลอกัวซ์ (Pallegoix, 1853) ใช้ว่า Xong และครอฟอร์ด (Crawford, 1856) ใช้ว่า Chong และพจนานุกรมภาษาสยามของหมอบรัดเลย์ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกใน พ.ศ. 2416 ยังให้นิยามของคำว่า ชอง เอาไว้ด้วย ทั้งหมดนี้น่าจะมีที่มาจาก “ชอง” เดียวกันทั้งสิ้น
ชาวชองเป็นกลุ่มชนที่จัดอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตร - เอเชียติค (Austro - Asiatic) กลุ่มย่อยตระกูลมอญ - เขมร (Mon - Khamer) มีลักษณะรูปร่างสันทัด ผิวค่อนข้างดำ เส้นผมหยิกขอด รูปหน้าค่อนข้างเหลี่ยม คางและขากรรไกรค่อนข้างกว้าง จมูกไม่โด่งแต่ก็ไม่แบนราบ ริมฝีปากและสันคิ้วค่อนข้างหนา มีตาโต โดยทั่วไปมีนิสัยโอบอ้อมอารี ใจดี รักสงบ ซื่อสัตย์ และรักพวกพ้อง วิถีชีวิตแต่เดิมมีความเป็นอยู่อย่างลักษณะ คนป่า ยังชีพด้วยการหาของป่า ล่าสัตว์ มีการทำนาปลูกข้าวเพียงเพื่อการดำรงชีพเท่านั้น ชาวชองจะเลือกตั้งถิ่นฐานเพื่อสร้างหมู่บ้านอยู่อาศัยบริเวณป่าเขา การปลูกสร้างบ้านเรือนใช้สถาปัตยกรรมแบบเรือนเครื่องปลูก มีระบบครอบครัว ค่านิยม ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมที่เป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง เช่น ประเพณีและพิธีกรรมการนับถือผีบรรพบุรุษที่เรียกว่าการเล่น “ผีหิ้ง และผีโรง” ประเพณีการแต่งงาน การปกครอง การจัดระบบระเบียบของสังคม ตลอดจนกฎเกณฑ์การควบคุมความประพฤติของชนในกลุ่ม มีภาษาพูดเป็นของตนเอง แต่ไม่มีตัวอักษรหรือภาษาเขียน ดังนั้นชาวชองจึงไม่ได้บันทึกประวัติศาสตร์และความเป็นมาของตนเองไว้เลย ได้แต่ใช้วิธีการบอกเล่าและปฏิบัติสืบต่อกันมาเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อชาวชองได้เป็นคนไทยตามพระราชบัญญัติของทางราชการ จึงหันมาพูดภาษาไทย และนับถือพุทธศาสนาตามแบบอย่างคนไทย วิถีชีวิตของชาวชองเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทสังคมและสภาพแวดล้อมปัจจุบัน มีการปรับตัวและรับเอาวัฒนธรรม รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิต เช่น เครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน เครื่องมือการประกอบอาชีพ อาหาร ยารักษาโรค เครื่องมือการสื่อสาร ตลอดจนการจัดระเบียบการปกครองตามรูปแบบของทางราชการ และการพัฒนาหมู่บ้านตามระบบสังคมอุตสาหกรรม
ล้วนส่งผลกระทบให้วิถีชีวิตและสังคมของชาวชองเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ชาวชองอาศัยอยู่กันมากในแถบตอนเหนือของจังหวัดจันทบุรี บริเวณอำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันการใช้ภาษาชอง ตลอดจนวัฒนธรรมของชาวชองอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญหายเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียภูมิปัญญาท้องถิ่นและองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตามชาวชองได้มีความพยายามฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมของตนเองตั้งแต่
พ.ศ. 2545 โดยได้มีการสร้างระบบตัวเขียนภาษาชองด้วยตัวอักษรไทย และการสร้างวรรณกรรมหนังสืออ่านภาษาชองระดับต่าง ๆ มีการสอนภาษาชองเป็นหลักสูตรท้องถิ่นในโรงเรียน และมีการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมชองสำหรับเป็นแหล่งข้อมูล ทั้งนี้ภาครัฐและเอกชนได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูและเผยแพร่วัฒนธรรมชองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้คงอยู่ได้สืบต่อไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
กิตติพันธ์ ทิพย์สกุลชัย. 108 ปี ของดีมะขาม. กรุงเทพฯ: ศรีปัญญา, 2550.
“ชาวชอง ชาติพันธุ์จันทบุรี ภาษาและวัฒนธรรมที่กำลังสาบสูญ.” การันต์. 2, 6 (28 เมษายน 2558): หน้า 4-7. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566, จาก: https://issuu.com/satchukornkeiokun/docs
มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม. ชนเผ่าพื้นเมืองชอง. เชียงใหม่: มูลนิธิชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อการศึกษาและสิ่งแวดล้อม, ม.ป.ป.
ศูนย์ภูมิวัฒนธรรมชอง. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566, จาก: https:// chong.thaiipportal.info
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. ภาพถ่ายชอง. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566, จาก: https://culturio.sac.or.th/content/998
สุจิตต์ วงษ์เทศ. คนชองกลายตนเป็นไทย ฝั่งทะเลภาคตะวันออก. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566, จาก: https://www.matichonweekly.com/column/article_232480#google_vignette
เรียบเรียง: นางสาวปริศนา ตุ้มชัยพร บรรณารักษ์ชำนาญการ
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านกาลเวลา จากวังหน้า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” วิทยากร นางสาวธิดากานต์ พักตร์จันทร์ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม และนางสาวกมลรัตน์ ชวนสบาย ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
โบราณสถานเขาน้ำร้อน
ตั้งอยู่ที่ บ้านวัดแก้ว หมู่ที่ ๒ ถนนสันตินิมิต ตำบลเลม็ด อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โบราณสถานแห่งนี้น่าจะเป็นศาสนสถานบนภูเขาที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโบราณสถานในเมืองไชยา ช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เช่น วัดเวียง วัดหลง วัดแก้ว ซึ่งตั้งเรียงตามแนวเหนือใต้ โดยด้านทิศใต้สุดของโบราณสถานทั้งสามแห่ง คือ บริเวณเขาน้ำร้อน
ภูเขาน้ำร้อน เป็นภูเขาลูกโดดขนาดย่อม ตั้งอยู่บนที่ราบน้ำท่วมถึง ยอดเขามีความสูงราว ๕๐ เมตร จากระดับน้ำทะเล บนภูเขามีป่าไม้หนาแน่นเป็นลักษณะของป่าโปร่ง ด้านทิศตะวันออกมีถนนลาดยางแยกจากทางหลวงหมายเลข ๔๐๑๑ ตัดผ่านริมถนน ด้านตรงข้ามภูเขาเป็นที่ตั้งบ้านเรือนของราษฎร ด้านทิศตะวันตกของภูเขามีถ้ำและซอกผาขนาดย่อม โดยปากถ้ำมีความสูงจากพื้นราบไม่มากนัก บริเวณหน้าถ้ำมีบ่อน้ำ จากคำบอกเล่าเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำพุร้อน
บริเวณยอดเขาทางทิศตะวันตก พบเนินโบราณสถานมีลักษณะเป็นเนินดินขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดของภูเขา ที่เป็นพื้นที่แคบ ๆ บริเวณเนินดินพบเศษอิฐกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีต้นไม้ขนาดย่อมขึ้นปกคลุม โดยรากไม้ได้ชอนไชลงไปภายในเนินโบราณสถาน เนื่องจากมีการพังทลายอย่างมากจึงไม่ทราบรูปทรงที่ชัดเจนของโบราณสถาน
บนภูเขามีการปรับถมพื้นที่ และมีการสร้างศาลามีลักษณะเป็นอาคารโถงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง มีจารึกว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๓ และบริเวณท้ายอาคารประดิษฐานพระพุทธรูป
บริเวณอาคารบนยอดเขา มีการใช้ประกอบพิธีทางศาสนาและพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวบ้านในบางครั้งบางคราว บริเวณเชิงเขามีการสร้างบันไดขึ้นไปยังโบราณสถานบนยอดเขา และมีการสร้างศาลาที่พักคนเดินทางติดกับบริเวณถนนสาธารณะ มีการจัดเป็นสวนย่อม
อายุสมัย : สมัยศรีวิชัย สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์
โบราณสถานเขาน้ำร้อน ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๓ หน้า ๑๕๓๒
วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๔๗๙ และประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๑๗ ง หน้า ๑๒ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ เนื้อที่ประมาณ ๒๔ ไร่ ๓ งาน
จัดทำโดย
นางสาวเพ็ญณิกา เตี้ยพานิช นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาขาวิชาการจัดการทางวัฒนธรรม
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
พระพุทธรูปพระพุทธเจ้า
ชนิด : โลหะ ลงรักปิดทอง
ขนาด : ตักกว้าง 26.1 เซนติเมตร สูง 21.1เซนติเมตร สูงฐาน 31.5 เซนติเมตร
ลักษณะ : ตอนทรมานพระกาย ประทับบนฐานสี่เหลี่ยม ฐานหน้าจารึก เขียนด้วยรักสีดำว่า "พุทธศักราชล่วงได้ 2499 อิ่ม เป็นทายกมีจิตศัทรธาสาธารณะ พร้อมสร้างพระทุพกิริยา กับทั้งปัญจวัคคีภิกขุ ขอให้สำเร็จ แก่นิพพาน ปัจจโยโหตุ" ประเภทการได้มา
สภาพ : สภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
สถานที่จัดแสดง : ห้องจัดแสดงอัฐบริขาร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/inburi/360/model/01/
ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/inburi
วารสารเครือข่ายกรมศิลปากรเป็นวารสารรายไตรมาสออกทุก ๓ เดือน
เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงแสงเสียงงานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย ปี2567 ทาง thaiticketmajor
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขอเชิญชวนซื้อบัตรเข้าชมการแสดงแสงเสียง ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2567 จัดขึ้นในวันที่ 8 - 15 พฤศจิกายน 2567 ทุกวันเวลา 19:00 น.-19:45 น. และเพิ่มรอบวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 20.30 น ณ บริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย บัตรราคา 1,200 / 900 / 500 บาท สามารถซื้อบัตรได้แล้วตั้งแต่บัดนี้ ทาง thaiticketmajor ช่องทางจำหน่ายบัตร https://www.thaiticketmajor.com/performance/gaan-sadaeng-sang-siang-ngaan-loi-gra-tong-pao-tiian-len-fai-jang-wat-su-koh-tai-2567
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล (คฤหาสน์กูเด็น) จังหวัดสตูล ขอเชิญร่วมงาน “Kuden Night at the Museum ปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 10 - 11 มกราคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น. ชมนิทรรศการมีชีวิตภายในพิพิธภัณฑ์ นิทรรศการเคบายาและรองเท้าลูกปัด การสาธิตการตีกริช และนิทรรศการศาสตราวุธ การแสดงดนตรีจากเยาวชนในจังหวัดสตูล และร่วมแต่งชุดเคบายา ลุ้นรับรางวัล ชมฟรีตลอดงาน
กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล หรือคฤหาสน์กูเด็น ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ยกระดับแหล่งท่องเที่ยว โบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของกรมศิลปากร เป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ช่วยสร้างรายได้ สร้างอาชีพและสนับสนุนการ ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในระดับจังหวัด ให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางเมืองและเป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมเมืองสตูล จึงกำหนดจัดโครงการ Kuden Night at the Museum ประจำปีงบประมาณ 2568 เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน ระหว่างวันที่ 10 – 11 มกราคม 2568 ระหว่างเวลา 16.00 – 22.00 น. โดยงดเว้นค่าเข้าชม และมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ ชมนิทรรศการมีชีวิตภายในพิพิธภัณฑ์ นิทรรศการเคบายาและรองเท้าลูกปัดจากชมรมเปอร์รานากัล สตูล สาธิตการตีกริชและนิทรรศการศาตราวุธ กิจกรรมส่งเสริมหนูน้อยนักอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ รวมถึงการจำหน่ายอาหารและสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสตูล พร้อมทั้งมีการแสดงบนเวทีจากสถาบันการศึกษาในจังหวัดสตูล ซึ่งมีผู้ประกอบการร้านค้าในจังหวัดสตูลเข้าร่วม จำนวน 30 ร้าน คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5,000 คน
ขอเชิญร่วมสัมผัสบรรยากาศความงดงามของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล (คฤหาสน์กูเด็น) ยามค่ำคืน แต่งกายด้วยชุดพื้นถิ่น ชุดเคบายา ชุดไทย เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและลุ้นรับรางวัลภายในงาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล โทร. 0 7472 3140 หรือสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ก เพจ : Satun National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สตูล
หอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชมภาพยนตร์เพื่อการอนุรักษ์ ย้อนรำลึกหนังดังในอดีต ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากหอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) ทุกวันศุกร์ เวลา 13.30 น. ณ ห้องจัดแสดง ชั้น 2 หอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 (จำกัดจำนวน 100 ที่นั่ง) สำหรับในวันศุกร์ ที่ 31 มกราคม 2568 จัดฉายภาพยนตร์ เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” (ปี พ.ศ. 2498)
ผู้กำกับ : มารุต (ทวี ณ บางช้าง)
ผู้อำนวยการสร้าง : รัตน์ เปสตันยี
บริษัทสร้าง : หนุมานภาพยนตร์
บทภาพยนตร์ : ทวี ณ บางช้าง และวิจิตร คุณาวุฒิ
ผู้กำกับภาพ : รัตน์ เปสตันยี
บันทึกเสียง : ปง อัศวินิกุล
ลำดับภาพ : จุรัย เกษมสุวรรณ
นักแสดง : ชนะ ศรีอุบล, งามตา ศุภพงศ์, เฮม สุขเกษม และประจวบ ฤกษ์ยามดี
ความยาว : 107 นาที
อนุรักษ์ภาพยนตร์โดย : หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2280 9828 - 32 สามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ของหอสมุดแห่งชาติ ได้ทาง Facebook : National Library of Thailand
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 64/5หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 26 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 55.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อผู้แต่ง มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระ
ชื่อเรื่อง Letters to The Butterflies ของ Carlton H. Terris
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ 1
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย
ปีที่พิมพ์ 2523
จำนวนหน้า 36 หน้า : ภาพประกอบ
ISBN 974-7440-33-4
เลขเรียกหนังสือ 914.36 ม113จก ฉ.4
เลขทะเบียนหนังสือ 021742
หมายเหตุ - เรื่อง “Letters to The Butterflies” นี้ แบ่งเป็นสองตอน ตอนแรกเป็นจดหมายจากออสเตรีย 5 ฉบับ ทรงเรียกว่า “Steamer Letters” ตอนหลังเป็นจดหมายอีก 5 ฉบับ ทรงเรียกว่า “Humgarian Letters.” หนังสือเล่มนี้จะได้ทราบว่าเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ใดบ้าง ทรงพบผู้ใด และว่าวิเทโศบายของพระองค์เป็นเช่นไร รวมทั้งทราบด้วยว่า ได้ทรงทดลองการปกครองตามแนวประชาธิปไตยตามกรุงปารีส โดยทรงตั้ง “สาธารณรัฐใหม่” ขึ้น ก่อน ดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยของพระองค์ที่พระราชวังดุสิตถึง 16 ปี
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 86/2หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 30 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 54.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง : วินิศวานิชคำฉันท์
หัวเรื่อง : กวีนิพนธ์ไทย
ฉันท์
หนังสืออนุสรณ์งานศพ
คำค้น : คำฉันท์
เวนิชวาณิช
รายละเอียด : พิมพ์แจกในการพระกฐินพระราชทาน มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ ณ วัดเศวตรฉัตร์ พระพุทธศักราช 2466
ผู้แต่ง : ธรรมาภิมณฑ์, หลวง, 2401-2471
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ สำนักพิมพ์/ โรงพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
ปีที่พิมพ์ : 2466
วันที่เผยแพร่ : 1 สิงหาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF.
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หลวงธรรมาภิมณฑ์แต่งทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยแต่งเป็นฉันท์ ใช้เนื้อเรื่องจากละครพูดเรื่อง เมอชันต์ ออฟ เวนิส (The Merchant of Venice) ของวิลเลียม เชกสเปียร์
เลขทะเบียน : น. 34 บ. 6417 จบ. (ร)
เลขหมู่ : ห
895.9114
ห313ว