ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรื่อง : กล้วยไม้ของ...พ่อ
ผู้เขียน : -
สำนักพิมพ์ : ม.ป.ท.
ปีพิมพ์ : ม.ป.พ.
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ : -
เลขเรียกหนังสือ : ๖๓๕.๙๓๔๔ ก๒๘๘ฮ
ประเภทหนังสือ : หนังสือทั่วไป
ห้องบริการ : ห้องหนังสือทั่วไป ๑สาระสังเขป : กล้วยไม้ของ...พ่อ เป็นหนังสือที่จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในงานพิธีฌาปนกิจศพของคุณพ่อฮุยควน แซ่เล้า ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ความสนใจกล้วยไม้ ทั้งในแง่มุมของศาสตร์และศิลป์ที่ใช้เวลามากกว่า ๔๐ ปี ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกล้วยไม้อย่างจริงจัง อดทน มุมานะและตั้งใจจริง ด้วยเจตนารมณ์ที่จะถ่ายทอดและนำเสนอเรื่องราวของกล้วยไม้ที่ท่านได้สร้างพันธุ์ใหม่ๆ มากมายหลายพันธุ์ และส่งเข้าประกวดได้รับรางวัลมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการนำเสนอรายละเอียดชื่อพันธุ์ของกล้วยไม้แคทลียาพันธุ์ต่างๆ และมีบทกลอนเกี่ยวกับดอกกล้วยไม้นั้นๆ อย่างสั้นๆ พร้อมภาพสีประกอบจำนวนกว่า ๑๐๐ ภาพ ซึ่งภาพดอกกล้วยไม้ที่นำมาแสดงในหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของผลงานที่ท่านสร้างสรรค์ ด้วยความรู้ความสามารถและจินตนาการ อีกทั้งยังมีเรื่องกล้วยไม้ไทยในเวทีโลก สถานการณ์กล้วยไม้ไทย แหล่งผลิต พันธุ์กล้วยไม้ เนื้อที่เก็บเกี่ยวและผลผลิต การใช้ภายในประเทศ การส่งออก การปลูกเลี้ยงแคทลียา ลักษณะธรรมชาติและการเติบโต การดูแลรักษา โดยทางผู้รวบรวมและจัดพิมพ์มุ่งหวังเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจจะเพาะเลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกหรือเป็นอาชีพต่อไป
ชื่อผู้แต่ง ปรุงศรี วัลลิโภดมชื่อเรื่อง ความรักของแม่ในวรรณคดีครั้งที่พิมพ์ -สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ กรุงเทพการพิมพ์ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๗จำนวนหน้า ๑๒๖ หน้าหมายเหตุ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ทันตแพทย์หญิง ทองเออบ (กาฬดิษย์) ต.ม. , จ.ช. ความรักของแม่ในวรรณคดี ซึ่ง นางปรุงศรี วัลลิโภดม วิทยกรโท กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ ได้คัดเลือกและรวบรวมขึ้นจากวรรณคดีสำคัญสมัยต่างๆ รวมทั้งสิ้น ๒๔ เรื่อง ในสังคมของไทยนับแต่โบราณกาล ได้รับนับถือและยกย่องสรรเสริญว่า ความรักของมารดาต่อบุตรนั้นเป็นความรักอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้ ด้วยมารดาเป็นผู้ให้ชีวิตนับตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนกระทั้งคลอดก็ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดทุกขเวทนา ครั้งแล้วต้องเลี้ยงรักษาและอบรมสั่งสอนบุตรกระทั่งเติบใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างมารดากับบุตรจึงกลายเป็นวัฒนธรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่แสดง
1. ตำรายาเกร็ด เช่น ยาแก้ไข้จับ, ยาเลือด, ยาแก้กล่อนแห้ง, แก้จุกเสียด แก้พันระดึก, แก้ลมสารพัดฯลฯ 2.เวทย์มนต์คาถา อักษารขอม ภาษบาลี เป็นคาถาที่ทำให้หญิงรัก
ผู้แต่ง : มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ
ปีที่พิมพ์ : 2510
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : กรมยุทธศึกษาทหารบก
กรมศิลปกร กระทรวงวัฒนธรรม
จัดพิมพ์เผยแพร่ ครั้งที่ ๓ (แก้ไขเพิ่มเติม)
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 1-21. พระนคร : กรมศิลปากร, 2509.
สามก๊กเป็นวรรณคดีประเภทความเรียงที่สำคัญเรื่องหนึ่งของไทย เป็นความเรียงที่ไพเราะงดงามสละสลวย และได้รสทางวรรคดีเป็นอย่างดี มีลักษณะพิเศษเฉพาะจนกระทั่งกลายเป็นแบบฉับบในการแปลหนังสือพงศาวดารและบันเทิงคดีของจีนเรื่องอื่น ๆ ในยุคต่อ ๆ มา
ประติมากรรมดินเผารูปหงส์พบจากการขุดแต่งโบราณสถานวัดช้างรอบ เขตอรัญญิก นอกเมืองกำแพงเพชรทางด้านเหนือ ใช้ประดับอยู่ที่ส่วนฐานกลมเหนือฐานแปดเหลี่ยมบนชั้นลานประทักษิณของเจดีย์ประธานวัดช้างรอบ ปัจจุบันได้หลุดร่วงไปเกือบหมด หงส์บางส่วนที่หลุดร่วงได้ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร หงส์ที่ประดับบนโบราณสถานวัดช้างรอบแต่ละตัวที่พบมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือ เป็นรูปหงส์ด้านข้าง ยืนเรียงรายเป็นแถว ส่วนหัวมีหงอนเป็นลายกระหนก คอยาว หางเป็นรูปลายกระหนก ลักษณะเลียนแบบตามธรรมชาติ แต่มีการประดิษฐ์ลวดลายให้สวยงามมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะส่วนหัว คอ และหาง ซึ่งอาจเทียบได้กับรูปหงส์ปูนปั้นที่ประดับบนชั้นเชิงบาตรของปรางค์วัดจุฬามณี เมืองพิษณุโลก กำหนดอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑ หงส์ถือเป็นสัตว์ชั้นสูงที่ปรากฏในคติความเชื่อทั้งในศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนา ชาวฮินดูถือว่าหงส์เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเป็นพาหนะของพระพรหมซึ่งเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญของศาสนาฮินดู ส่วนในทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าหงส์เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ นอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกว่าเป็นเจ้าแห่งนกทั้งปวง เป็นผู้พิทักษ์รักษาท้องฟ้า และเป็นพาหนะที่นำวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร เอกสารอ้างอิง กรมศิลปากร. นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร. กรุงเทพฯ : รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๕๗.
ผู้แต่ง : -
ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2502
หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางพวงเพ็ชร เอี่ยมสุกล
โรงโบราณศึกษา กล่าวถึงวิธีการสอนและการศึกษาเล่าเรียนในสมัยโบราณ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นข้อใหญ่ ๆ 8 ข้อ เรียกว่ามาติกา มาติกาต่าง ๆ เหล่านี้ว่าด้วยเรื่อง ตำบที่เล่าเรียน สถานที่โรงเรียน จำนวนนักเรียนและครู เวลาเรียนและหยุด เครื่องเล่าเรียน วิชาหนังสือ วิชาเลข และข้อบังคับการเรียน ส่วนเรื่องวิธีสอนหนังสือไทย กล่าวถึงวิธีสอนและวิธีเรียนหนังสือในสมัยก่อน
ชื่อเรื่อง : พระประวัติประกอบพระรูป พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
ชื่อผู้แต่ง : -
ปีที่พิมพ์ : 2496
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์พระจันทร์
จำนวนหน้า : 144 หน้า
สาระสังเขป : พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ พระนามเดิมคือหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร เป็นพระโอรสรพระองค์ที่ 3 ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถและหม่อมเจ้าหญิงอัปษรสมาน กิติยากร ประสูติเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2440 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2496 สิริรวมพระชนมายุ 55 ปี พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสรรรูปภาพที่ทรงถ่ายและรูปภาพจากผู้อื่นถ่ายพร้อมคำบรรยายประกอบ เพื่อจัดพิมพ์พระราชทานสมนาคุณแด่พระบรมวงศานุวงศ์ คณะทูตานุทูต ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ตลอดจนคหบดีที่มาช่วยงานพระราชทานเพลิงพระศพ
หลักฐานศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในภาคใต้ของประเทศไทย ตอน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในภาคใต้ พบหลักฐาน ๒ ลิทธิหลัก คือ ๑. ไวษณพนิกาย นับถือพระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นเทพเจ้าสูงสุด ๒. ไศวนิกาย นับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพเจ้าสูงสุด รวมทั้งยังพบลัทธิคาณปัตยะ (คาณปัถยัม) ซึ่งนับถือพระคเณศเป็นเทพองค์สำคัญที่สุด และลัทธิเสาระ ซึ่งนับถือพระสุริยะเป็นเทพเจ้าสูงสุด อีกด้วย - ไวษณพนิกาย (Vaishnavism) ชื่อลัทธิดัดแปลงมาจากชื่อพระวิษณุซึ่งเดิมเป็นชื่อเทพแห่งสวรรค์ในศาสนายุคพระเวท (เทพแห่งพระอาทิตย์) คำว่าไวษณพปรากฏในคัมภีร์มหาภารตะ หมายถึง ชื่อที่รู้จักกันในนามต่างๆ คือ สูริ สุหฤต ภควตะ สัตตวตะ ปัญจกาลวิธ เอกานติกะ ตันมายะ และปาญจราตริกะ แต่ที่นิยมใช้คือ ภควตา เดิมราว พ.ศ. ๓๐๐ ศาสนาภควตาเริ่มเป็นที่สนใจของประชาชนแต่ยังไม่กว้างอยู่ในเมืองมถุราและเมืองใกล้เคียงต่อมาเริ่มแผ่ขยายไปทางทิศตะวันตกและทางเหนือของเดดข่าน ราว พ.ศ.๔๐๐ ต่อมามีหลักฐานจารึกหลายแห่งที่มีอายุก่อนคริสตกาลบรรยายความเกี่ยวข้องระหว่างวสุเทวะ ครุฑ กฤษณะ นารายณะ และก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ กล่าวได้ว่าศาสนาภควตาวิวัฒนาการจากลัทธิเล็กๆ ที่นับถือในกลุ่มท้องถิ่นมาสู่ลัทธิใหญ่และกลายเป็นลัทธิสำคัญของศาสนาฮินดู ภาพ : พระวิษณุ อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ เดิมอยู่ที่หอพระนารายณ์ ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช - ไศวนิกาย (Saivism) มีประวัติเก่าแก่กว่าไวษณพนิกาย อาจเก่าแก่ลงไปถึงอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ โดยพบตราประทับมีรูปเทพนั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางสัตว์ป่า ซึ่งจอห์น มาร์แชลสันนิษฐานว่าเป็นต้นแบบของพระศิวะ รวมทั้งมีการพบลึงค์หินซึ่งในสมัยประวัติศาสตร์ลึงค์มีความสัมพันธ์กับการบูชาพระศิวะโดยกลายเป็นสัญลักษณ์ของพระศิวะ ในรามายณะมีข้อความหลายตอนที่กล่าวถึงพระศิวะในชื่อต่างๆ เช่น ศิติกัณฐ์ มหาเทวะ รุทร ปศุปติ ศังการะ อิศานะ เป็นต้น ไศวนิกายแผ่ขยายไปและเป็นที่รู้จักดีในอินเดียใต้ ภาพ : ศิวลึงค์ อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ได้จากบ้านนายพริ่ง อาจหาร หมู่ ๗ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๙ ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องศาสนาพราพมณ์-ฮินดู พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช - ลัทธิคาณปัตยะ (คาณปัถยัม) นับถือพระคเณศ หรือ พิฆเนศวร์ ซึ่งเป็นเทพแห่งอุปสรรคและสิ่งกีดขวางทั้งปวง สามารถกีดขวางมนุษย์ เทวดา และมารร้ายต่างๆ ได้ และในขณะเดียวกันก็สามารถกำจัดเครื่องกีดขวางทั้งปวงได้ กำเนิดของพระคเณศมีบอกไว้ในคัมภีร์แตกต่างกันไป คัมภีร์ที่นิยมได้แก่ ลิงคปุราณะ ศิวปุราณะ มัสยาปุราณะ วราหปุราณะ และสกัณฑปุราณะ - ลัทธิเสาระ นับถือพระสุริยะเป็นเทพเจ้าสูงสุด แม้ว่าการบูชาเทพแห่งแสงอาทิตย์จะปรากฏในอินเดียตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เทพสุริยะยังไม่ได้รับการยกย่องมากนัก จนกระทั่งได้รับอิทธิพลจากอิหร่านในสมัยราชวงศ์กุษาณะ (พุทธศตวรรษที่ ๔-๗) โดยปุราณะกล่าวว่าลัทธินี้เข้ามาโดยนักบวชชาวอิหร่าน (ชาวซิเถียน) ซึ่งนักบวชเหล่านี้จะมีสายรัดเอวที่เรียกว่า อวยังคะ หมายถึงเข็มขัดศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาผู้นับถือพระอาทิตย์ (โซโรอัสเตรียน) มีความหมายเท่ากับสายธุรำหรือสายยัชโญปวีตของพราหมณ์ ถือได้ลัทธิเสาระเป็นลัทธิที่รุ่งเรืองมากในอินเดียสมัยหลังคุปตะ (ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔)---------------------------------------------------- เรียบเรียงข้อมูล : น.ส.สุขกมล วงศ์สวรรค์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช---------------------------------------------------- อ้างอิง : - ผาสุข อินทราวุธ. รูปเคารพในศาสนาฮินดู. นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์, ๒๕๒๒. - ผาสุข อินทราวุธ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์. “พระสุริยะในภาคใต้”, สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๖. กรุงเทพฯ : สถาบันทักษิณคดีศึกษา. ๒๕๒๙.