ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ

ชื่อเรื่อง : ประเพณีเกี่ยวกับชีวิตชื่อผู้แต่ง : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2509สถานที่พิมพ์ : ฉะเชิงเทรา สำนักพิมพ์ : วัดประตูน้ำท่าไข่ จำนวนหน้า : 114 หน้า สาระสังเขป : เป็นหนังสืออนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายทองคำ วรรณยิ่ง ณ เมรุวัดประตูน้ำท่าไข่ อำเมือเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2509 และในหนังสือเล่มนี้ได้พิมพ์หนังสือเรื่องประเพณีเกี่ยวกับชีวิต ของกรมศิลปากรไว้ด้วย




แนวคิดและความเข้าใจในกระบวนการทางโบราณคดี และการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ กับประเด็นการศึกษาเรื่อง "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส กับแนวคิดและกระบวนการศึกษาทางโบราณคดีสยาม" ตอนที่ 1 โดย นายธีรศักดิ์ ธนูศิลป์ นักโบราณคดีชำนาญการ กองโบราณคดี


องค์ความรู้ เรื่อง เรื่องเล่าจากคลังโบราณวัตถุ : โบราณวัตถุจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ค้นคว้า/เรียบเรียงโดย นางสาวชุติณัฐ ช่วยชีพ ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช


ประชุมบทเพลงไทยเดิม ภาค 1. พระนคร : กรมศิลปากร, 2491.       รวบรวมบทลำนำเนื้อร้องของเพลงไทยต่าง ๆ รวม 22 บท


ทราบกันหรือไม่ว่า.... ที่เมืองโบราณศรีเทพยังมีการพบแนวกำแพงโบราณบนคันดินคูเมืองด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเมืองโบราณในยุคทวารวดีที่เดียวที่ยังหลงเหลือหลักฐานอยู่      ------------------------------------------------ ที่มาของข้อมูล : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ https://www.facebook.com/335850859778277/posts/pfbid02MmYMRfu5csDbpwEfXA319YPFVX7HZVWUuwXstE99tJRPz3icRsMvQKfh7nzCLoZGl/?d=n  



ถนนเจริญราษฎร์จากเส้นทางการค้าทางน้ำสู่ชุมชนการค้าย่านวัดเกต เส้นทางถนนที่ผ่านไปบริเวณชุมชนวัดเกต ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ในอดีตคือที่พักของพ่อค้าทางเรือ ทำให้บริเวณนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ปรากฎในจารึกวัดเกต พ.ศ. ๒๑๒๑ และ พ.ศ. ๒๑๒๔ ได้ปรากฏภาพการตั้งชุมชนในช่วงการเข้าปกครองเชียงใหม่โดยพม่า ว่ามีการบูรณะพระเกสธาตุเจดีย์หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่โดยเจ้าพม่าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ขณะนั้น และยุคการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของพ่อค้าชาวจีนที่ได้ก่อร่างสร้างชุมชนมาจนปัจจุบัน          ชุมชมวัดเกตกลายเป็นศูนย์กลางการค้าทางเรือช่วงปลายรัชกาลที่ ๓ ท่าวัดเกต ริมแม่น้ำปิงคือหมุดหมายของกลุ่มพ่อค้าชาวจีนที่นำสินค้าจากกรุงเทพฯ และปากน้ำโพ มาจำหน่ายและเปิดร้านรวงตลอดถนนเจริญราษฎร์ กลุ่มคนอังกฤษเข้ามาตั้งบริษัทบอร์เนียวค้าไม้สัก กลุ่มมิชชันนารีเข้ามาจัดตั้งโรงเรียนปริ้นส์รอแยลวิทยาลัย โรงเรียนดาราวิทยาลัย และโรงพยาบาลแมคคอมิค ซึ่งขณะนั้นยังมีการทำไร่ทำนาอยู่บริเวณหลังวัดเกต ภาพความเจริญครั้งอดีตของชุมชนวัดเกต บนถนนเจริญราษฎร์ ยังคงปรากฏอาคารร้านค้า บ้านเรือนที่มีอายุราว ๑๐๐ ปี ก่อสร้างด้วยไม้สัก บ้างก่ออิฐถือปูน ที่ปรับเปลี่ยนไปเป็นร้านอาหาร ที่พัก แกลเลอรีแสดงงานศิลปะ ร้านค้างาน handmade อีกทั้งมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่ตกทอดจากบรรพบุรุษของคนในชุมชน ซึ่งช่วยบอกเล่าเรื่องราวครั้งอดีตได้เป็นอย่างดี        นอกจากสิ่งก่อสร้างที่ปรากฏภาพความมั่งคั่งของความเจริญทางการค้าในอดีต ตลอดถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยประเพณีวัฒนธรรม อาหารการกิน ความเป็นมิตรของผู้คน อันเป็นความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และสัมผัสได้ง่ายเพียงแค่ก้าวเดินไปบนเส้นทางถนนสายนี้ ผู้เรียบเรียง : นายวีระยุทธ ไตรสูงเนิน นักจดหมายเหตุชำนาญการ ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่. ภาพส่วนบุคคล ชุด นายบุญเสริม สาตราภัย.#ถนนเจริญราษฎร์เชียงใหม่#เอกสารจดหมายเหตุ#หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเชียงใหม่#สำนักศิลปากรที่๗ข้อมูลอ้างอิงบุญเสริม สาตราภัย. ๒๕๕๔. เชียงใหม่ในความทรงจำ. เชียงใหม่ : โรงพิมพ์แสงศิลป์.สมโชติ  อ๋องสกุล. ๒๕๖๒. ชุมชนรอบวัดในเชียงใหม่ : ประวัติศาสตร์ชุมชน โดยศูนย์ล้านนาศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่ : บริษัท วิทอินดีไซตน์ จำกัด.อนุ เนินหาด, พ.ต.ท. ๒๕๔๔. สังคมเมืองเชียงใหม่ “รุ่น ๓”. เชียงใหม่ : นนทบุรีการพิมพ์


#ของเด่นของดีพระนครคีรีเมืองพริบพรี ตอนที่ ๕      โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นสำคัญของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรีที่จะนำเสนอในครั้งนี้ ก็คือ กระปุกน้ำมันทาผิว ยี่ห้อ Holloway's Ointment ถูกคิดค้นและผลิตโดย Thomas Holloway ตั้งแต่ปี ๑๘๓๗ เป็นยารักษาโรคทั่วไปที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น สำหรับโรคหลายชนิด เช่น โรคเกาต์ โรคไขข้อ แผลพุพอง เจ็บหน้าอก และปวดหัว      กระปุกทำจากกระเบื้อง พร้อมจานรองลายดอกไม้ติดกับโถ ขนาดของกระปุกสูง ๕.๕ ซม. กว้าง ๙.๘ ซม. ขนาดจานรอง สูง ๒ ซม. กว้าง ๑๔ ซม.      ภาพเครื่องหมายการค้า เป็นภาพไฮเจีย เทพีแห่งสุขภาพอนามัย ความสะอาด และสุขลักษณะ ที่มีหน้าที่ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ลักษณะคือ ผู้หญิงกำลังถือถ้วยยาที่มีงูกำลังพันอยู่ ที่บริเวณด้านซ้ายของเทพีปรากฏเด็กที่กำลังถือป้ายไม้กระดาน


ความรู้เกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง ตอนที่ 3 เรื่อง “ตำนานและนิทานเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง” หอสมุดเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา ขอนำเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับประเพณีวันลอยกระทง จากหนังสือเรื่อง "ประเพณีลอยกระทง" โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีเรื่องราวที่เป็นตำนานลอยกระทงที่น่าสนใจ 4 เรื่อง ทั้งเกี่ยวเนื่องในศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์ รวมถึงตำนานพื้นถิ่นที่น่าสน เพื่อความเพลิดเพลินในการอ่านและเป็นความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประเพณีอันดีงามของไทย



          วัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี หรือเดิมเรียกว่า วัดหน้าพระธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๗ ถนนเขางู ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองราชบุรีตั้งอยู่บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง  วัดมหาธาตุ พบหลักฐานที่น่าสนใจ และสร้างความประหลาดใจต่อผู้ที่พบเห็น คือ บริเวณด้านหน้าองค์พระปรางค์มีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน จำนวน ๕ หลังวิหารทั้ง ๕ หลัง ประกอบด้วย           ๑. วิหารหลวง ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระปรางค์ วางตัวในแนวแกนทิศตะวันออก - ตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ๒ องค์ คือ พระมงคลบุรี และพระศรีนัคร์ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแกนด้านในทำจากหินทรายสีแดง ขนาดเท่ากันวางตัวในแกนทิศตะวันออก - ตะวันตก เช่นเดียวกับตัวอาคาร           ๒. วิหารราย ๒ หลัง ตั้งอยู่ขนาบกับวิหารหลวงทั้งสองด้าน วางตัวแนวแกนทิศตะวันออก – ตะวันตก เช่นเดียวกับวิหารหลวง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ในขนาดที่ต่างกัน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานด้านหน้า พระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานด้านหลัง หันพระพักตร์ทางทิศตะวันออก - ตะวันตก ตามแนวแกนวิหาร             ๓. วิหารราย ๒ หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าถัดออกไปจากวิหารรายในข้อ ๒ วางตัวแนวแกนทิศเหนือ – ใต้ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งหันพระปฤษฎางค์ (หลัง) ชนกัน ในขนาดที่ต่างกัน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานด้านหน้า พระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานด้านหลัง หันพระพักตร์ทางทิศเหนือ - ใต้ ตามแนวแกนวิหาร             พระพุทธรูปเหล่านี้ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างแน่ชัด แต่ด้วยรูปแบบทางศิลปะของพระพุทธรูปทั้งหมดในวิหารแต่ละหลัง มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๒ พระพุทธรูปเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากวัดร้างที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงวัดมหาธาตุ เช่น วัดลั่นทมที่อยู่ทางทิศใต้ วัดอุทัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วัดโพธิ์เขียวหรือวัดเพรงที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เป็นต้น การประดิษฐานให้พระพุทธรูปสององค์ให้นั่งหันหลังชนกันนั้น ก็ไม่ปรากฏมูลเหตุแน่ชัด อาจจะเป็นความตั้งใจที่ต้องการให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองบ้านเมืองทั้งสี่ทิศ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่บ้านเมืองมีศึกสงครามอยู่บ่อยครั้งก็เป็นได้ -------------------------------------------------------------- ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี https://www.facebook.com/ilove.ratchaburi.national.museum/posts/pfbid02Ncda16WY8AwtmWLF3omd2XLc2Zn1eGsQZLDSJp4HqjsCzf6xZWVXfdkXmXXgM6Vxl*เผยแพร่ข้อมูลทางเว็บไซต์ โดยกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร


องค์ความรู้ สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี เรื่อง “วัดทุ่งศรีเมือง” ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ผู้เรียบเรียง: นายกฤษณพงศ์ พูนสวัสดิ์ นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี


ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           42/1ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              88 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 54 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


แนะนำ E-book หนังสือหายาก เรื่อง ยอดขุนศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำรง ปานสิงห์, พลตรี. ยอดขุนศึกในสงครามโลกครั้งที่2. พระนคร: โรงพิมพ์ อุดม, 2492.       ถูกใจ       แสดงความคิดเห็น     แชร์    


black ribbon.