ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง ตอน ตลาดวโรรสและความคึกคักในอดีต ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ (พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๓๙) ชุมชมบ้านช้างม่อย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ มีอาณาเขตตั้งแต่รอบข่วงเมรุ แนวกำแพงเมืองชั้นนอก คูคลองแม่ข่าถึงริมฝั่งแม่น้ำปิง คุ้มท่าเจดีย์กิ่วถึงท่าน้ำแพ ซึ่งเป็นท่าจอดเรือของเจ้าหลวงเชียงใหม่ เจ้านายสยาม พ่อค้า หมอศาสนา ผู้คนต่างบ้านต่างเมือง ทำให้ชุมชนขยายใหญ่ขึ้น เมื่อพระเจ้าอินทวิชยานนท์ถึงแก่พิราลัยในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ จึงเตรียมทำพิธีบริเวณข่วงเมรุ (ในอดีตเป็นสุสานของบรรดาเจ้านายในล้านนา) แต่มีบ้านของชาวบ้านรุกล้ำพื้นที่ ทำให้เจ้าราชวงศ์แก้วนวรัฐลงทุนซื้อบ้านที่รุกล้ำและจ่ายค่ารื้อถอนเกิดเป็นลานโล่ง ต่อมาเจ้าอุปราชแก้วนวรัฐ ได้ขายพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้เจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ และได้จัดดำเนินการในนาม “ตลาดวโรรส” ตามพระนามของเจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ ๘ เมื่อเจ้าทิพเนตร พระราชมารดาของเจ้าราชบุตรถึงแก่พิราลัย เจ้าราชบุตรประสงค์จะจัดพิธีทำศพให้สมพระเกียรติจึงนำตลาดไปจำนำกับขุนอนุสารสุนทรกิจและไม่สามารถไถ่ถอนได้ตามกำหนด ในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ ๕ เสด็จกลับมาประทับที่เมืองเชียงใหม่ชั่วคราว และได้อัญเชิญพระอัฐิเจดีย์หรือกู่ของเจ้านายบริเวณข่วงเมรุไปไว้ที่วัดสวนดอก เมื่องานฉลองพระอัฐิสิ้นสุดลง พระราชชายาต้องการพัฒนาให้ตลาดวโรรสเป็นแหล่งรายได้ของสายสกุล ณ เชียงใหม่ จึงได้ทูลขอรัชกาลที่ ๖ ให้กู้ยืมเงินจากพระคลังเพื่อซื้อตลาดมาเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนพระองค์ หลังจากนั้นได้มีพ่อค้าแม่ค้าหาบเปี๊ยดใส่สิ่งของหลายชนิด อาทิ อาหารพื้นเมือง ของป่า เครื่องนุ่มห่ม มาวางขายกันเนืองแน่น และได้ปรับปรุงตลาดเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาด จนทำให้ตลาดวโรรสและตลาดต้นลำไยเสียหายอย่างมาก เจ้าดารารัศมีจึงตัดสินใจขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดแก่ห้างหุ้นส่วนอนุสารเชียงใหม่ และ บริษัท อนุสาร จำกัด ของสกุลชุติมาและนิมมานเหมินท์ ต่อจากนั้นบริษัทในเครืออนุสารได้ก่อสร้างตลาดวโรรสและตลาดต้นลำไยให้สะดวกและทันสมัยมากขึ้น และยังคงเปิดดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน ผู้เรียบเรียง : นางสาวอริสรา คงประเสริฐ นักจดหมายเหตุภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่. ภาพส่วนบุคคล ชุดนายบุญเสริม สาตราภัย.อ้างอิง : ๑. เสรินทร์ จิรคุปต์. ๒๕๕๓. “ตลาดวโรรสในรอบทศวรรษ.” ใน สุภาภรณ์ อาภาวัชรตม์ และ ดวงจันทร์ อาภาวัชรุตม์ เจริญเมือง, เรื่องเล่าชาวกาด เล่ม ๗. เชียงใหม่ : มูลนิธิสถาบันพัฒนาเมือง (เชียงใหม่), ๑-๙. ๒. เนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว. ๒๕๖๐. เปิดแผนยึดล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ ๒. นนทบุรี : สำนักพิมพ์มติชน.


ติโลกนยวินิจฺฉย (ไตรโลกนยฺยวินิจฺฉย)  ชบ.บ.95ก/1-11  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


เลขทะเบียน : นพ.บ.298/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 4 x 59 ซ.ม. : ทองทึบ-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 123  (275-286) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : จิรธารกถา เทศนาแทนน้ำนมแม่--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม




สาเหตุหลักที่ประเทศไทยต้องมี พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เนื่องจากสหภาพยุโรป (European Union: EU) ได้ออก GDPR ( General Data Protection Regulation) เป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บังคับใช้เมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งนอกจากมีผลบังคับใช้แก่การส่งข้อมูลภายในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว ผู้ประกอบการในไทยที่ต้องติดต่อ รับส่งข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Cross-Border Data Transfer Issues)  ก็ต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพียงพอด้วย ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความน่าเชื่อถือในมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศ มีผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และการทำธุรกิจระหว่างประเทศ หากประเทศไทยไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ย่อมทำให้เสียโอกาสและความเชื่อมั่นจากกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป และอาจรวมไปถึงประชาคมโลกที่กำลังตื่นตัวเรื่อง Data Protection เพราะเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายล้านบัญชี เป็นต้น 


บทความวิชาการจดหมายเหตุเรื่อง ภาพเก่าเล่าอดีต : ละครพูดในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้แต่ง : บุศยารัตน์ คู่เทียม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจดหมายเหตุ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากรตีพิมพ์ลงนิตยสารศิลปากร ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๑ (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐)หน้า ๗๕-๙๑



-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : ก่อนสงครามโลก... ร้านสหกรณ์ขายอะไร ? -- ต้นปี 2484 ก่อนที่กองทัพญี่ปุ่นบุกเมืองไทย ร้านสหกรณ์สวรรคโลกสั่งซื้อสินค้ามาจำหน่ายหลายประเภท หากนึกภาพไม่ออกเอกสารต่อไปนี้คือหลักฐานประกอบ วันที่ 27 มีนาคม 2484 พนักงานสหกรณ์จังหวัดสุโขทัยเรียนผ่านผู้ช่วยอธิบดีสหกรณ์ เพื่อขอให้กองการค้าจัดหาเครื่องอุปโภคจำนวน 64 รายการ มาจำหน่ายที่ร้านสหกรณ์สวรรคโลก ซึ่งมีตั้งแต่เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง เครื่องครัว กระเป๋าสตางค์ อุปกรณ์การเกษตร อุปกรณ์งานช่าง กุญแจต่างๆ และไฟฉาย แต่สินค้าที่สะดุดตาอย่างหนึ่งก็คือ คอลเซทกับเชิ้ตโปโลชาย เป็นแฟชั่นทันสมัยของต่างประเทศ นั่นหมายความว่า ร้านสหกรณ์สวรรคโลกหรือในต่างจังหวัดไม่ได้ " บ้านนอก " อย่างจินตนาการทั่วไป กลับ " โมเดิร์น " ล้ำสมัยอย่างห้างในกรุงเทพฯ ที่สำคัญ ร้านยังสั่งยาสีฟันวิเศษนิยมด้วย ถามคนเฒ่าอายุ 80 ขึ้นไป น้อยคนจะไม่รู้จักผู้เขียน : นายธานินทร์ ทิพยางค์ ( นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา )เอกสารอ้างอิง : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา เอกสารสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุโขทัย สท 1.14.1/2 เรื่อง ร้านสหกรณ์เมืองสวรรคโลกจำกัดสินใช้ สั่งซื้อสินค้า [27 มี.ค. 2484 - 21 มิ.ย. 2489]#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ



          เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๙.๓๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา นายเฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้อำนวยการหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา สงขลา นางสาวพรสุรีย์ กอนันทา รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายกิจการองค์กร บริษัทเชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบูรณะโบราณสถานพระเจดีย์บนเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา          พระเจดีย์บนเขารูปช้าง เป็นเจดีย์ที่มีความสำคัญ คู่บ้าน คู่เมืองของจังหวัดสงขลา สร้างขึ้นโดยเจ้าพระยาวิเชียรคิรี (บุญสังข์) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจดีย์บนเขารูปช้างจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นโบราณสถานและยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณเขารูปช้างเองยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการทหารที่สำคัญตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากสามารถมองเห็นเมืองสงขลาและพื้นที่โดยรอบ จึงถูกใช้เป็นพื้นที่ตั้งค่ายสมัยศึกไทรบุรี เมื่อราว พ.ศ.๒๓๘๑ และสมัยสงครามเอเชียบูรพาเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ จากความสำคัญดังกล่าว กรมศิลปากรได้ขึ้นประกาศทะเบียนพระเจดีย์บนเขารูปช้างเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘ หน้า ๓๗๑๔          ด้วยคุณค่าและความสำคัญดังกล่าว จังหวัดสงขลาจึงมีแผนในการพัฒนาโบราณสถาน เจดีย์บนเขารูปช้าง ร่วมกับหน่วยงานและภาคเอกชน อาทิ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา ที่ทำการปกครอง อำเภอเมืองสงขลา เทศบาลเมืองเขารูปช้าง สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา บริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด เพื่อให้มีการบูรณะ ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ของโบราณสถานให้มีความมั่นคง แข็งแรงเสริมสร้างคุณค่าความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่และพัฒนาศูนย์รวมจิตใจของประชาชนให้เชื่อมโยงกับการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม โดยจังหวัดมอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำรายละเอียดผังรูปแบบรายการบูรณะเสริมความมั่นคงเจดีย์บนเขารูปช้างและจัดหางบประมาณดำเนินโครงการเป็นจำนวน ๓๔๐,๐๐๐ บาท (สามแสนสี่หมื่นบาทถ้วน) และจัดพิธีมอบงบประมาณสนับสนุนโครงการบูรณะเจดีย์บนเขารูปช้างระหว่าง นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร กับ นางสาวพรสุรีย์ กอนันทา รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายกิจการองค์กร บริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด โดยมีนางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ การตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของภาคส่วนต่าง ๆ อันนำไปสู่การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะก่อให้เกิดการอนุรักษ์และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมของชาติอย่างยั่งยืนสืบไป          ต่อมาเมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น อธิบดีกรมศิลปากร เดินทางเข้าชมนิทรรศการ “คุณ เรา เขาแดง : THE STORY OF KHAO DAENG” ณ บ้านเขียนเจริญ (ร้านน้ำชาฟุเจาเดิม) ถนนนางงาม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ในการนี้ อธิบดีกรมศิลปากรได้ให้คำแนะนำ และแนวทางเกี่ยวกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ ภารกิจของหน่วยงาน และการดำเนินงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานและองค์กรอื่น ๆ-----------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล fad11songkhla





          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ ปิดให้เข้าชมการจัดแสดง เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ ๒๑ มีนาคม - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ เนื่องจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ ตั้งอยู่ภายในบริเวณกรมศิลปากร ด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระธาตุ กรุงเทพมหานคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารกรมศิลปากรและพื้นที่โดยรอบ จึงไม่สะดวกในการเดินทางเข้าออก          ในโอกาสนี้ กรมศิลปากรจึงขอเชิญชวนประชาชน ท่องเที่ยวออนไลน์ ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พีระศรี อนุสรณ์ ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง สามารถเดินเที่ยวชมผ่านทางเว็บไซต์ https://smartmuseum.finearts.go.th หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น smartmuseum


ชื่อเรื่อง                     มหานิปาตวณฺณนา (เวสฺสนฺตรชาตก) ชาตกฎฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา (หิมพานต์-นครกัณฑ์)สพ.บ.                      421/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               62 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 56.2 ซม.หัวเรื่อง                     หิมพานต์                              ชาตกภาษา                       บาลี-ไทยอีสานบทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องรัก ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


black ribbon.