ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
ชื่อเรื่อง สุภาษิตสอนสตรีผู้แต่ง สุนทรโวหาร (ภู่), พระ,2329-2398ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ คติชนวิทยา นิทานพื้นเมืองเลขหมู่ 398.9 ส798สตสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ กรุงเทพการพิมพ์ปีที่พิมพ์ 2510ลักษณะวัสดุ 30 หน้า หัวเรื่อง สุภาษิตและคำพังเพย ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก เนื้อหาภายในประกอบด้วยสุภาษิตสอนสตรีสามัญทั่วไป สุนทรภู่แต่งเมื่อราวระหว่าง พ.ศ.2380 จน พ.ศ. 2383
ชื่อผู้แต่ง กรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง อตีตังสญาณหรือเครื่องวิทยาการกำหนดรู้เรื่องในอดีต
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ ศิวพร
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๑
จำนวนหน้า ๔๐ หน้า
หมายเหตุ -
อตีตังสญาณ ตามความหมายในพระพุทธศาสนา หมายถึง ญาณ คือ ความหยั่งรู้เรื่องราวในอดีต เป็นความรู้อย่างหนึ่งของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวก แต่ ความหมายในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี คือ เป็นความรู้ถอยหลังเข้าไปในอดีตกาล โดยนักประวัติศาสตร์และโบราณคดีแต่ก่อนได้อาศัยจดหมายเหตุ เอกสาร พงศาวดาร ตำนานและจารึก ตลอดจนหลักฐานทางโบราณวัตถุและโบราณสถาน
สัตตัปปกรณาภิธรรม สหัสสนัย อภิธัมมัตถสังคหะ ชบ.ส. ๑๓
เจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
มอบให้หอสมุด ๑๘ ก.ค. ๒๕๓๕
เอกสารโบราณ (สมุดไทย)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.19/1-2
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อผู้แต่ง สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง ครบรอบ ๑๐ ปี สธวท ๒๕๑๘
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์ กรุงสยามการพิมพ์
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๘
จำนวนหน้า ๑๕๘ หน้า
เอกสารเล่มนี้จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อให้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของสตรีไทย
ทั้งในระดับผู้บริหาร และผู้ใช้พลังงาน ด้วยความหวังว่า เราจะสามารถช่วยให้สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ดีขึ้นสำหรับสมาชิก ทุกเพศ ทุกวัย ในสังคมของไทยเรา เอกสารนี่จะ “สะท้อนภาพสตรีไทย” ในบทบาท สภาพ สถานภาพ และทัศนคติ ของสตีไทยที่ทำงานในเขต กทม. พ.ศ.๒๕๑๘
+++ ธรรมาสน์เสาเดียว : การผสมผสานความเชื่อพุทธและผี +++
----- ธรรมาสน์ คือ ที่นั่งแสดงธรรมสำหรับพระสงฆ์ ในภาคอีสานสามารถพบเห็นได้ทั้งธรรมาสน์ไม้และธรรมาสน์ปูน ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะธรรมาสน์ไม้อีสาน ที่จำแนกออกได้เป็น ๓ ประเภทหลักๆ ได้แก่
๑) หอธรรมาสน์ ลักษณะเป็นธรรมาสน์ที่มีฐานสูงและมียอดเป็นชั้น
๒) ธรรมาสน์ตั่ง ลักษณะคล้ายเก้าอี้ทรงสี่เหลี่ยม มีพนักพิงด้านหลัง ไม่มีหลังคา
๓) ธรรมาสน์เตียง ลักษณะคล้ายเก้าอี้ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีพนักพิง ไม่มีหลังคา
----- ธรรมาสน์เสาเดียว จัดอยู่ในกลุ่มของหอธรรมาสน์ มีลักษณะเด่น คือ ส่วนฐานของธรรมาสน์จะมีเสาเดียว และมีคันทวยหรือแขนนาง รองรับน้ำหนักจากตัวเรือนธรรมาสน์ลงสู่เสา ส่วนตัวเรือนและส่วนยอดของธรรมาสน์ จะมีความคล้ายคลึงกับหอธรรมาสน์ที่พบได้ทั่วไปในภาคอีสาน เช่น ส่วนตัวเรือนมักนิยมสร้างในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส และได้รับการประดับตกแต่งให้สวยงามด้วยการทาสี เขียนภาพจิตรกรรม ที่ส่วนใหญ่สะท้อนความเชื่อทางพุทธศาสนา วิถีชีวิต และนิทานพื้นบ้าน ผสมผสานงานแกะสลักหรืองานฉลุไม้ โดยนิยมสลักรูปดอกไม้ ใบไม้ และลวดลายตามธรรมชาติ นอกจากความสวยงามแล้ว เจตนาก็เพื่อทำช่องให้อากาศถ่ายเท และเป็นการอำพรางอิริยาบทของพระสงฆ์ขณะนั่งเทศน์บนธรรมาสน์ ตัวเรือนมีทั้งแบบผนังโปร่งและผนังทึบ ส่วนยอดพบทั้งหลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงจัตุรมุข (ทรงจั่วซ้อนชั้น) และหลังคาทรงมณฑป (ทรงปราสาท) ซึ่งจำนวนชั้นหลังคาที่ซ้อนก็ขึ้นอยู่กับช่างฝีมือผู้สร้าง ธรรมาสน์เสาเดียวถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่พบเฉพาะในกลุ่มผู้ไท เช่นที่วัดโพธิ์ชัย บ้านหนองห้าง วัดศรีภูขันธ์ บ้านโคกโก่ง วัดหอคำ บ้านคำกั้ง วัดจุมจังเหนือ บ้านจุมจัง วัดบ้านหนองบัวทอง บ้านหนองบัวทอง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และ วัดพิจิตรสังฆาราม อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร
----- การสร้างธรรมาสน์นอกจากความเชื่อทั่วไปเรื่องบุญกุศลที่ทำให้ผู้สร้างได้รับอานิสงส์ เกิดในชาติหน้าจะพบแต่ความสุขความเจริญ เมื่อตายไปก็ได้เสวยทิพยสมบัติเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า ชาวผู้ไทยังมีความเชื่อเกี่ยวกับอานิสงส์ของการสร้างธรรมาสน์เสาเดียว ว่าจะส่งผลให้ในชาตินี้ผู้คนจะให้ความเคารพนับถือ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับความเชื่อเรื่อง “หลักบ้าน” ที่ในภาคอีสานนิยมตั้งไว้กลางหมู่บ้านเพื่อเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของการยึดเหนียวจิตใจ และทำให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ตามคติความเชื่อเรื่องการนับถือผีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
----- ธรรมาสน์เสาเดียวมักสร้างไว้ในหอแจก (ศาลาการเปรียญ) ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับให้คนในชุมชนมารวมตัวเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การฟังเทศน์ในงานบุญเดือนสี่ (บุญผะเหวด หรือ บุญพระเวส) หรืองานบุญกฐินที่องค์มหากฐินจะถูกตั้งอยู่บนธรรมาสน์ ทำให้ธรรมาสน์กลายเป็นสิ่งที่สื่อถึงการรวมตัวกันอย่างสงบสุขของคนในชุมชน
----- จากความเลื่อมใสศรัทธาของชาวผู้ไทที่มีต่อพุทธศาสนา ทำให้เกิดการผสมผสานทางคติความเชื่อเรื่องการนับถือผีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเรื่อง “หลักบ้าน” ผนวกรวมกับคติความเชื่อทางพุทธศาสนา ก่อให้เกิดสัญลักษณ์ทางคติความเชื่อเรื่องศูนย์รวมจิตใจ ที่คลี่คลายกลายมาเป็น “ธรรมมาสน์เสาเดียว” สะท้อนให้เห็นถึงการรวมทั้งพุทธและผีเข้าไว้ด้วยกันของชาวผู้ไท
-----------------------------------------------------------------------
++ อ้างอิงจาก ++
--- คำพันธ์ ยะปะตัง. ธรรมาสน์เสาเดียว : รูปแบบโครงสร้างและคติความเชื่อของชาวผู้ไท อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๕.
--- ทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์, “ธรรมาสน์ไม้อีสาน” ใน เอกสารประกอบการนำเสนอผลงานทางวิชาการของ กรมศิลปากร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ วิจัย วิจักขณ์, วันที่ ๒๒ - ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๒, ณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร, หน้า ๑๗๐ - ๑๗๕.
ข้อมูล : นางสาวศุภภัสสร หิรัญเตียรณกุล นักโบราณคดีชำนาญการ