ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

            สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการเสวนาทางวิชาการ ทศวรรษแห่งการค้นพบใหม่ เนื่องในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พ.ศ. ๒๕๖๗ หัวข้อ “๑๐ สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ” พร้อมกับ Mini Exhibition และลุ้นรับของที่ระลึกจากสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วิทยากรโดย นางสาวโสภิต ปัญญาขันธ์ นายอริย์ธัช  นกงาม นายศรัญ  กลิ่นสุคนธ์ นางสาวพลอยไพลิน ปุราทะกา ดำเนินรายการโดย นายณัฐชัย ลลิตพิพัฒน์           ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานรับฟังการเสวนาโดยแสกน QR Code หรือลิงค์แบบฟอร์ม : https://forms.gle/7iBrr6qqwqtdkbGB9


            สืบเนื่องจากที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้กำหนดจัดกิจกรรมเสวนาทางวิชาการเนื่องในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๗ หัวข้อ “๑๐ สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ” พร้อมกับนำโบราณวัตถุเหล่านั้นไปจัด Mini Exhibition ขอเชิญชวนทุกท่านมาทายของชิ้นที่สอง ที่จะนำไปจัดแสดงในนิทรรศการดังกล่าว โดยมีของรางวัลมาสุ่มแจก เพียงทำตามกติการ่วมสนุก ดังนี้            ๑. กดไลก์เพจ Central Storage of National Museums : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ            ๒. กดไลก์และแชร์โพสต์นี้  https://www.facebook.com/centralstorageofnationalmuseums/posts/pfbid022tY7cfBxJGCT1EqeGTJ5AP2Ac3bzE9bkKrr2bVs7o1hMj1XHUAgLDqCxMcs9LJYJl บนหน้า Facebook ของท่าน โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #๑๐สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ                     ๓. ตอบคำถามใต้โพสต์นี้ว่า "เงาที่ท่านเห็น เห็นโบราณวัตถุชิ้นใด" พร้อมคำอธิบายประกอบ            ผู้สนใจร่วมกิจกรรม สามารถตอบคำถามได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๒.๐๐ น. ทั้งนี้ ท่านใดตอบได้ครบถ้วนและถูกใจทีมงานที่สุดรับรางวัลไปเลย ๑ รางวัล แต่หากพลาดรางวัลรอบนี้ สามารถติดตามเพจ Central Storage of National Museums : คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป  





ชื่อเรื่อง                                เทวทูตสุตฺต (เทวทูตสูตร) สพ.บ.                                  436/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           46 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 40 ซม.หัวเรื่อง                                 พระสูตร บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ทองทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


         พระเจดีย์จุฬามณี         ลักษณะ : เจดีย์ทรงเครื่องตั้งอยู่บนฐานไพทีแปดเหลี่ยมมีพนักราวลูกกรงล้อมรอบประดับเสาเม็ด เว้นช่องเปิด 4 ด้าน ส่วนฐานรองรับองค์ระฆังเป็นฐานหน้ากระดาน และฐานสิงห์ย่อมุมไม้สิบสอง ต่อด้วยชั้นเชิงบาตร และฐานบัวคลุ่มรองรับองค์ระฆัง ประดับด้วยทับทรวงและสังวาล ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ก้านฉัตร บัวฝาละมี บัวคลุ่มเถา ปลียอดและลูกแก้ว เจดีย์ถอดประกอบได้ 3 ส่วน คือ ส่วนฐานไพที องค์ระฆัง และส่วนก้านฉัตร ฐานหน้ากระดานด้านหนึ่งลงรักปิดทองเป็นแผ่นหนา สำหรับจารอักษรไทย ภาษาไทยระบุปีที่สร้าง วัตถุประสงค์การสร้าง แต่ชำรุดแตกกะเทาะ ใจความสำคัญหายไป แต่สามารถกำหนดอายุจากรูปแบบศิลปกรรมได้ว่าเป็นงานช่างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 ที่สืบทอดมาจากสมัยอยุธยาตอนปลาย มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและลวดลายตกแต่งให้งดงามวิจิตรยิ่งขึ้น         คติการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีมีมาช้านานแล้ว ด้วยเชื่อว่าเป็นสถานที่บรรจุพระเกศโมลีและพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพุทธล้วนปรารถนาจะได้ขึ้นไปสักการะบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้น ผู้มีกำลังทรัพย์จึงนิยมสร้างเจดีย์จำลองอุทิศถวายเป็นพุทธบูชาแทนเจดีย์จุฬามณี ถือว่าเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ส่วนผู้มีกำลังทรัพย์น้อย หากปรารถนาจะได้สักการะพระเจดีย์จุฬามณี ให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนสิ้นลม ญาติจะแต่งกรวยดอกไม้ธูปเทียนใส่ในมือผู้ตายไว้ เพื่อนำไปนมัสการพระเจดีย์จุฬามณีเมื่อล่วงลับไปแล้ว         ขนาด : กว้าง 44.5 เซนติเมตร ยาว 47 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 94 เซนติเมตร         ชนิด : โลหะผสม ลงรักปิดทอง         อายุ/สมัย : รัตนโกสินทร์พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 - 220 ปีมาแล้ว)         ประวัติ/ตำนาน : คุณทิพย์สุดา ลัดพลี และนางสาวพลิพร ลัดพลี ทายาทของศาสตราจารย์ธรรมนูญ ลัดพลี มอบให้กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2553   แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=53057   ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th




ชื่อเรื่อง : หนังสือค่าวซอเรื่องธัมม์พุทธเสนะกะ  ผู้แต่ง : บุญลือ ประทุมรัตน์ปีที่พิมพ์ : ๒๔๘๑สถานที่พิมพ์ :  เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เจริญเมืองจำนวนหน้า : ๒๑๐ หน้าเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้ชื่อ พุทธเสนะกะ  พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อักษร ที่โรงพิมพ์เจริญเมือง ถนนเจริญเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ นายบุญลือ ประทุมรัตน์ ผู้แต่ง อักษรล้านนา ภาษาล้านนา พุทธเสนะกะเล่มนี้ มี ๑๕ บท เนื้อเรื่องโดยย่อว่า “เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนตระหนี่มาก เขามี ลูกสาว ๑๒ คน เขาคิดว่าลูกทั้ง ๑๒ คนนำมาซึ่งความยากจนจึงนำไปปล่อยไว้ในป่า นางยักษ์ผ่านมาเห็นจึงได้พาไปอยู่ด้วยและก็ได้ให้เด็กหญิงทั้ง ๑๒ คนช่วยเหลือทำงานต่าง ๆ เวลาผ่านไปเด็กโตขึ้นทราบว่าคนที่รับเลี้ยงดูเป็นยักษ์จึงได้พากันหนี เร่ร่อนไปจนไปพบเสนาอำมาตย์ซึ่งกำลังตามสตรีผู้มีบุญไปเป็นมเหสีของพระราชา นางยักษ์แปลงร่างเป็นสตรีรูปงามและกลายเป็นมเหสีเอก นาง ๑๒ เป็นสนม นางยักษ์ออกอุบายควักลูกตานาง ๑๒ และขังไว้ที่ถ้ำ นาง ๑๒ ได้ให้กำเนิดลูก คนที่ ๑-๑๑ ถูกนางยักษ์กิน เหลือคนสุดท้ายคือ พุทธเสนะกะ ลูกของน้องคนสุดท้อง พุทธเสนกะเล่นสกากับพระบิดาเป็นที่โปรดปราน นางยักษ์ออกอุบายให้พุทธเสนกะไปเมืองยักษ์เพื่อจะให้ลูกเลี้ยงจับกิน แต่พระฤาษีแผลงสารให้แต่งงานกัน พุทธเสนกะขโมยของวิเศษและตาของป้าและแม่ ลูกสาวยักษ์อกแตกตาย พุทธเสนะกะฆ่ายักษ์ และช่วยป้ากับแม่เรียบร้อยแล้วจึงกลับไปหาภรรยา แต่พบว่านางได้ตายเสียแล้วจึงตรอมใจตายตาม  ตัวอย่างข้อความ คำปรารภ ท่านนักอ่านทั้งหลาย หนังสือซึ่งท่านถืออยู่ในมือของท่านเดี๋ยวนี้ เป็นหนังสือที่ได้แต่งขึ้นมาใหม่ๆ อีก เรื่องหนึ่ง การที่โรงพิมพ์พยายามนักหนาเอาคัมภีร์ที่เป็นแก่นของพระธรรมมาแต่งเป็นกลอนซอนี้ ก็เพราะอยากหื้อท่านผู้ที่สดับพระธรรมได้สดับในเวลาว่าง เมื่อตนบ่มีโอกาสได้สดับในวิหาร เพราะเหตุว่าคนเราย่อมมีอาชีพแตกต่างหัน หาเวลาว่างได้ยากนัก เมื่อมีติดตัวนำไปสู่ที่ใดแล้วต้องการฟังเมื่อใดก็ได้ แต่หื้อถือเสียเป็นดั่งได้สดับพระธรรมอันนี้เรื่องนี้ เรื่องพุทธเสนะกะนี้ เป็นพระธรรมที่หายากอยู่เล่มหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็บ่หนีจากการค้นคว้าได้ จิ่งได้ถูกน้ำเอามาแปลแลแต่งเป็นกลอนคร่าวซอขึ้น การที่ได้นำมาตกแต่งหื้อมีสำนวนโวหารอันไพเราะเช่นนี้ขึ้นแล้วก็กระทำหื้อพระธรรมมีน้ำหนักขึ้นอีก ซึ่งกระทำหื้อเกิดความเลื่อมใสต่อพระธรรมมากขึ้นไป ก็เท่าเป็นการเผยแผ่พระศาสนาไปอีกเหมือนกัน ท่านที่สนใจในเรื่องพระธรรมควรหามาไว้อ่านเพื่อประดับความรู้ในส่วนวิณญานของท่านหื้อเจริญมากขึ้นไป การอ่านมากเท่าใดก็ยิ่งนำความรู้มาสู่ตัวท่านมากขึ้นทุกที นายเมืองใจ ไชยนิลพันธ์ ๕๑ วังสิงห์คำ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๑ เลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๖๑๘ เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๒๗หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗




ชื่อเรื่อง : เบ็ญจภาคี  หัวเรื่อง : พระเครื่อง คำค้น : พระเครื่อง รายละเอียด : อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางศิริ ดิษยทัต ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พุทธศักราช 2516 ผู้แต่ง : ไพบูลย์ ดิษยทัต แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ : โรงพิมพ์เอเชีย ปีที่พิมพ์ : 2516 วันที่เผยแพร่ : 29 มกราคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ :  - รูปแบบ : PDF ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับพระเครื่อง ในชุดเบ็ญจภาคี ซึ่งมีรายละเอียดครบถ้วน เลขทะเบียน : น. 32 บ. 2958 จบ. เลขหมู่ : 294.312             พ978พศ  


ชื่อผู้แต่ง                     หอสมุดแห่งชาติ ชื่อเรื่อง                      จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14 ครั้งที่พิมพ์                  พิมพ์ครั้งที่ 1 สถานที่พิมพ์                กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์                  ภาพพิมพ์ ปีที่พิมพ์                     2529 จำนวนหน้า                 311 หน้า : ภาพประกอบ ISBN                         974-7920-74-3 เลขเรียกหนังสือ            417 ศ587จ ล.1 เลขทะเบียนหนังสือ        012595 หมายเหตุ                    -           จารึกในประเทศไทย เล่ม 1 อักษรปัลลวะ หลังปัลลวะ พุทธศตวรรษที่ 12-14 มีเนื้อหาสาระในทางวิชาการอันสำคัญเป็นหลักฐานทางเอกสารในรูปลายลักษณ์อักษรซึ่งบ่งบอกถึงเรื่องราวของบรรพชนเป็นกระจกเงาที่ส่องสะท้อนให้เห็นอารยธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตนับพันปีล่วงมา  จารึกเป็นหลักฐานที่สามารถนำไปใช้ประกอบในวิชการด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปกรรม อารยธรรมและวัฒนธรรมของไทยในยุคสมัยต่าง ๆ  จึงเป็นมรดกวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์และเผยแพร่ให้กว้างขวาง


ชื่อผู้แต่ง         - ชื่อเรื่อง           ศตวรรษ ๒๐ ฉบับพิเศษ (ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๙ ,๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๗) พิมพ์ครั้งที่       - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์ฟาร์อีสต์เพรสส์ ปีที่พิมพ์          ๒๕๑๗ จำนวนหน้า      ๖๔ หน้า รายละเอียด                   ศตวรรษ ๒๐ ฉบับพิเศษ ฉบับนี้ มีบทความพิเศษ รายงานข่าวด่วนพิเศษเนื่องในวันพระราชพิธีเพลิงศพวีรชน วันที่ ๑๔ ตุลาคม ณ ท้องพระสุเมรุ สนามหลวง บทความเกี่ยวกับวิกฤติการณ์น้ำมัน “สงครามน้ำมัน เมื่อไหร่?” และ “สนามหลวง-โฉมหน้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย”  



black ribbon.