ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ

บทความทางวิชาการ " การบูรณะวิหารพระนาก วัดจักรวรรดิ์" วิหารพระนาก วัดจักรวรรดิ์ สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.๒๓๗๐ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เดิมเป็นวิหารหรือหอพระที่ประดิษฐานพระบางเมื่อครั้งที่เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้อัญเชิญมาจากนครหลวงเวียงจันทร์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๐๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้พระราชทานพระบางกลับไปประดิษฐานที่นครหลวงพระบาง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนาก จากหอพระในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกันมาประดิษฐานไว้ในวิหารแทน จึงเรียกวิหารหลังนี้ว่า วิหารพระนาก วิหารพระนากมีความพิเศษหลายประการที่พบไม่บ่อยนักในอาคารในรุ่นราวคราวเดียวกัน อาทิเช่น การตกแต่งผนังภายนอกด้วยงานจิตรกรรมลายแผงหรือลายแย่งแบบราชวัตร (ลายตาราง) ซึ่งมีลักษณะเป็นดอกพุดตานก้านแย่งจากดอกตูมออกไปทั้งสี่ทิศ ตัวลายสีเหลืองถมพื้นดำ คล้ายกับทำให้ดูเหมือนเป็นการตกแต่งด้วยลายทอง อย่างไรก็ตามการตกแต่งผนังภายนอกดังกล่าวนี้เป็นงานที่เขียนขึ้นใหม่ในยุคหลัง แต่ยังคงรูปแบบลวดลายตามอย่างของเดิม ซุ้มประตู-หน้าต่าง ปั้นปูนเป็นลายดอกพุดตานปิดทอง ตัวบานเขียนด้วยลายทองสอดสีรูปมังกร สิงโต และสัญลักษณ์มงคลในวัฒนธรรมจีน ซึ่งถือเป็นงานศิลปกรรมชิ้นสำคัญของวิหารแห่งนี้ การตกแต่งหน้าบันด้วยลายปูนปั้นประดับกระเบื้องเคลือบลายคราม แสดงเรื่องราวของแม่กาเผือกซึ่งเป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ในภัทรกัลป์ และยังเป็นตำนานที่มีอิทธิพลมากในแถบล้านช้างและล้านนา การทำช่องซุ้มประดับประทีป ซึ่งอาจพบเจอได้บ้างในวิหารที่อื่นๆ เช่น วัดไพชยนต์พลเสพย์ เป็นต้น แต่ช่องซุ้มประดับประทีปที่วิหารพระนากนี้ หากนับดูจะได้เท่ากับ ๒๔ ช่อง ซึ่งทำให้นึกไปถึงอดีตพุทธทั้ง ๒๔ พระองค์ การตกแต่งพนักบันไดด้านหน้าด้วยลายปูนปั้นประดับกระเบื้องเคลือบลายคราม เป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของพุทธประวัติตอนมารผจญ ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่ปรากฏการการนำเรื่องราวดังกล่าวมาแสดงภายนอกอาคาร นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการเขียนลายทองรูปดอกไม้ที่กรอบช่องเปิดพาไล (กรอบหน้าต่างแนวผนังรอบนอก) ซึ่งหลงเหลืออยู่ไม่มากนัก ที่สำคัญคาดว่าวิหารพระนาก หรือวิหารพระบางหรือหอพระบางเดิม อาจมีหน้าต่างตรงกรอบช่องเปิดพาไล (กรอบหน้าต่างแนวผนังรอบนอก) เนื่องจากพบว่าไม้กรอบพาไลบางส่วนมีร่องเดือย และร่องรางรับบาน อ้างอิง กรมศิลปากร. ศิลปวัฒนธรรมไทย เล่ม 4 : วัดสาคัญกรุงรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2525). 217-218 ปฐมพงษ์ สุขเล็ก. “พระบาง” จากลาวสู่สยาม มาเพราะ “การเมือง” ส่งกลับเพราะ “ความเชื่อ”, ใน ศิลปวัฒนธรรม, ฉบับมกราคม 2556. อมรรัตน์ จริงวาจา. จิตรกรรมลายแผงสมัยรัชกาลที่ 3 – รัชกาลที่ 4 : วิเคราะห์ที่มารูปแบบและพัฒนาการ, วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีการศึกษา 2560. http://gis.finearts.go.th/fineart/ วัดจักรวรรดิราชาวาส เรียบเรียง ธีระยุทธ์ สุวลักษณ์ นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการ กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน กองโบราณคดี เอื้อเฟื้อข้อมูล พงศธร เหียงแก้ว ศุภกิจจ์ เสถียรอินทร์ เรียบเรียง ธีระยุทธ์ สุวลักษณ์ นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการ กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน กองโบราณคดี




การรับมอบเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นการรับมอบเอกสารราชการหรือเอกสารส่วนบุคคล นักจดหมายเหตุจะต้องทำการตรวจเช็คเอกสาร ต้องดำเนินการตรวจสอบกับบัญชีขอสงวนเอกสารราชการให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามที่ขอสงวนไว้หรือบัญชีรับ-ส่งมอบเอกสารครบหรือไม่ ทำความสะอาดเอกสาร หากเอกสารที่อยู่ในแฟ้มดังภาพ จะต้องถอดเอกสารออกจากแฟ้ม และจัดทำใบกำกับเอกสารตามรายการที่ระบุไว้ และมัดปึกเอกสาร ทำใบกำกับปึกเอกสารให้เรียบร้อย โดยใบกำกับเอกสารจะระบุชื่อหน่วยงาน / บุคคล เจ้าของเอกสาร วันเดือนปีที่รับมอบเอกสาร ปริมาณเอกสารหรือจำนวนมัดเอกสาร จัดเก็บเข้าศูนย์เก็บเอกสาร เพื่อรอดำเนินการขั้นตอนต่อไป




ชื่อเรื่อง                     มหานิปาตวณฺณนา (เวสฺสนฺตรชาตก) ชาตกฎฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา (หิมพานต์-นครกัณฑ์)สพ.บ.                      421/2ขประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               34 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                     หิมพานต์                              ชาตกภาษา                       บาลี-ไทยอีสานบทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องรัก ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


      50Royalinmemory ๒๘ เมษายน ๒๔๐๖ (๑๕๙ ปีก่อน) - วันประสูติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ [พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น ๔ เจ้าฟ้าชั้นโท]         พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) กับพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย (พระนามเดิม : พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ) ดำรงพระอิสริยยศ “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ มีพระโอรส-ธิดา ๙ พระองค์ สิ้นพระชนม์วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๙๐ พระชันษา ๘๔ ปี ทรงเป็นต้นราชสกุล จิตรพงศ์ ณ อยุธยา (ดูเพิ่มเติมใน กรมศิลปากร, ราชสกุลวงศ์, พิมพ์ครั้งที่ ๑๔, (กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, ๒๕๕๔), ๗๓ - ๗๔.)         Cigarette Cards ชุดเจ้านายไทย (๑ สำรับ ประกอบด้วย พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระฉายาสาทิสลักษณ์ และรูปเขียนคล้ายพระรูปพระบรมวงศานุวงศ์บนแผ่นกระดาษ จำนวน ๕๐ รูป) ลำดับที่ ๑๙ โดยบริษัท ยาสูบซำมุ้ย จำกัด (SUMMUYE & CO) ผลิตราวปี พ.ศ. ๒๔๗๗ (หมายเลขทะเบียน ๒/๒๕๑๖/๑) มีประวัติระบุว่า คุณหลวงฉมาชำนิเขต มอบให้เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๑๖               (เผยแพร่โดย ศรัญ กลิ่นสุคนธ์ ภัณฑารักษ์ / เทคนิคภาพ อริย์ธัช นกงาม ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ กลุ่มทะเบียน คลังพิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร)


#มหามกุฎราชสันตติวงศ์ ๙ มิถุนายน ๒๔๒๕ วันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา มีพระนามลำลองว่าพระองค์หญิงกลาง เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ที่ประสูติแต่หม่อมราชวงศ์สว่าง จักรพันธุ์ ประสูติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๒๕ เมื่อประสูติทรงดำรงสกุลยศเป็นหม่อมเจ้า ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา เมื่อพุทธศักราช ๒๔๒๕ แล้วได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๔๔๓.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณาเป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีพระราชประสงค์ให้อภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เคยพระราชทานพระราชปรารภไว้ว่า "จะเลี้ยงหญิงกลางให้เป็นควีน" และได้ทรงขอพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา มาเลี้ยงดูใกล้ชิดพระองค์ ในพระอภิบาลของพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ อยู่เสมอ.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๔๖๗ สิริพระชันษา ๓๕ ปี.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณา นับเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ที่สืบสายจากพระบิดา.ภาพ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวิไลยลักขณาเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์


แนะนำหนังสือน่าอ่าน เรื่อง สารสกัดสมุนไพรชาวชอง แหล่งกำเนิด วิธีการ สรรพคุณ.สุรัสวดี สินวัต. สารสกัดสมุนไพรชาวชอง แหล่งกำเนิด วิธีการ สรรพคุณ. จันทบุรี: สำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, 2562. 20๔ หน้า ภาพประกอบสมุนไพรชาวชองนับว่ามีความสำคัญยิ่งต่อวัฒนธรรมสุขภาพที่ทำให้ชาวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดจันทบุรี มีสุขภาพดีมีอายุยาวสืบต่อเผ่าพันธุ์ และลูกหลานต่อเนื่องจากสมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน ความสำคัญของสมุนไพรนี้เป็นที่ยอมรับและได้รับการศึกษาจากนักวิชาการ นักวิจัยของสถาบันต่างๆ มีการนำไปผลิตเป็นยาทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบันมากมาย เนื้อหาด้านในประกอบด้วย ความรู้ความสำคัญเกี่ยวกับสมุนไพรชาวชองจังหวัดจันทบุรี ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสมุนไพร รูปแบบและวิธีการสกัดสมุนไพร การแปรรูปด้วยวิธีการสกัดสมุนไพร ของสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่น สมุนไพรทองพันชั่ง สมุนไพรปลาไหลเผือก สมุนไพรชุมเห็ดเทศ สมุนไพรพริกไทยดำ สมุนไพรเร่ว สมุนไพรไพล สมุนไพรสาบเสือ สมุนไพรเถาวัลย์เปรียง สมุนไพรกะบก สมุนไพรกะวาน เป็นต้นท615.321ส857ส(ห้องจันทบุรี)


ชื่อเรื่อง                               สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม(สงฺคิณี-มหาปัฏฐาน) สพ.บ.                                  อย.บ.3/4ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           48 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 55 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           ชาดก             บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา




อวิชฺชามาติกา (อวิชฺชามาติกา) ชบ.บ 111/1 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 157/5 เอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)


อริยสจฺจเทสน (อริยสฺจ) ชบ.บ 183/5เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


black ribbon.