ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
จัดทำโดย : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ปีที่พิมพ์ :สถานที่พิมพ์ : เชัยงใหม่สำนักพิมพ์ : หจก. วนิดาการพิมพ์ เชียงใหม่ บรรณานิทัศน์หนังสือ พระบาทสมเด็จและพระราชกรณียกิจ อันเป็นการรวบรวมรายชื่อหนังสือที่กล่าวถึงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อสะดวกแก่ผู้สนใจค้นคว้าในเรื่องดังกล่าว
สารคดีเชิงข่าว “วังหน้าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ตอนที่ ๕ เตรียมปรับปรุงฉากในโรงละครแห่งชาติ ออกอากาศช่วงข่าวภาคค่ำ ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘
โรงละครแห่งชาติ เตรียมปรับปรุงฉากให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อสร้างอรรถรสความบันเทิงแก่ผู้ชม หลังได้งบประมาณจากโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล
http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/ayutthaya
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นหน่วยงานที่ดูแลรักษาโบราณสถานในพื้นที่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ คือ กรุงศรีอยุธยา ประกอบไปด้วยพื้นที่เกาะเมืองที่มีแม่น้ำล้อมรอบ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี รวมทั้งพื้นที่โดยรอบเกาะเมือง อันประกอบไปด้วยโบราณสถานประเภทพระราชวัง ศาสนสถาน สะพานโบราณ ย่านการค้าโบราณ รวมทั้งร่องรอยชุมชนชาวต่างชาติ โดยมีโบราณสถานไม่ต่ำกว่า 300 แห่ง
กรุงศรีอยุธยาเริ่มมีบทบาทตั้งแต่ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 จากหลักฐานระบุว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ หรือพระเจ้าอู่ทอง ได้สถาปนากรุงศรีอยุธยาใน พุทธศักราช 1893 ต่อมาอาณาจักรอยุธยาได้ขยายดินแดนออกไปตามลุ่มแม่น้ำต่างๆรวมทั้งดินแดนชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ มีกษัตริย์ปกครองทั้งหมด 34 พระองค์ จนกระทั้งสิ้นสุดลงจากการรุกรานโดยอาณาจักรข้างเคียงในปี พุทธศักราช 2310 ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าตากสินจะทรงเปลี่ยนศูนย์กลางเมืองใหม่ไปอยู่ที่กรุงธนบุรี ทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นอาณาจักรที่มีอายุยืนยาวถึง 417 ปี จนกระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ
ให้สงวนที่ดินภายในเกาะเมืองให้เป็นสาธารณะสมบัติ และทรงโปรดให้พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ดำเนินการขุดแต่งพื้นที่พระราชวังโบราณ ถือเป็นการเริ่มต้นการอนุรักษ์พื้นที่พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากรเริ่มเข้ามาสำรวจขึ้นทะเบียนโบราณสถานสำคัญของอยุธยาตั้งแต่ พุทธศักราช 2478 จนถึง พุทธศักราช 2499 จึงเริ่มบูรณะโบราณสถานสำคัญ เช่น วิหารพระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ และมีการจัดตั้งโครงการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ในปี พุทธศักราช 2525 เพื่อดูแลรักษาพื้นที่โบราณสถานพระนครศรีอยุธยาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
จนกระทั่ง วันที่ 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2434 พื้นที่โบราณสถานสำคัญของอยุธยา ได้ถูกประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกในชื่อ “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO)
ปัจจุบัน พื้นที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและโบราณสถานต่างๆ ในเขตเมืองอยุธยา ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรักษาพื้นที่
เว็ปไซต์หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี: www.finearts.go.th/kanchanaburilibrary
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ เป็นปีมหามงคลสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภุมิพลอดุลยเดช รัชการที่ ๙ ทรงปกครองแผ่นดินยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ปรากฎในประวัติศาสตร์ชาติไทย ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อครั้งดำรงตำ่แหน่งนายกรัฐมนตรีมีำดำริเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่พสกนิกรของพระองค์ท่านจะำได้แสดงถึงความจงรกภักดีต่อพระองค์ ด้วยการจัดสร้างอนุสรณ์สถาน เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพิธีรัชมังคลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๓๑ ซึ่งไม่มีสถานที่ใดที่จะเหมาะสมเท่ากับการจัดสร้างหอสมุดให้เป็นศูนย์กลางการรวบรวมเอกสาร ความรู้ ศิลปวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ได้ใช้เป็นแหล่งเสริมสร้างการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ตลอดจนเพื่อประโยชน์แก่สถาบันการศึกษาต่างๆ หน่วยราชการ และเอกชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี จึงหมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในดำเนินการ ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ในการจัดหาทุนก่อสร้างหอสมุดแห่งชาติประจำภาคขึ้น 2 แห่ง คือ ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ใช้ชื่อว่า "หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่" และ "หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี" และมอบให้กรมศิลปกรรับผิดชอบดำเนินการต่อไป
จากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไทยทั่วทุกสารทิศที่ได้ร่วมกันบริจากเงินเพื่อสมทบทุนเป็นค่าก็สร้างหอสมุดดังกล่าว ในอันที่จะตอบสนองพระกรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทยทำให้การก่อสร้างอาคารทั้ง ๒ แห่งดังกล่าว สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งมีเงินบริจากเหลืออยู่ ๑๓ ล้านพิเศษ ซึ่ง ฯพณฯ องคมนตรีและรัฐบุรุษ เห็นสมควรให้จัดตั้งหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกอีก ๑ แห่งทางภาคตะวันตก คือ ที่จังหวัดกาญจนบุรี
บทบาทหน้าที่
๑. เป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้าวิจัย โดยการให้บริการหนังสือ สิ่งพิมพ์ และโสตทัศนวัสดุต่างๆ
๒. อนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาติ โดยการเก็บสงวนรักษาและรวบรวมหนังสือ สิ่งพิมพ์ในท้องถิ่น และที่สำคัญคือ หนังสือไทยโบราณ ไว้ให้ครบถ้วน
๓. เป็นศุนย์เผยแพร่ข่าวสารทางวิชาการ และงานด้านบรรณารักษศาสตร์ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นนั้นๆ
๔. เป็นศูนย์ประสานงานสรนิเทศทางวิชาการแห่งชาติ
เชิญชวนประชาชนผู้สนใจศึกษาค้นคว้าข้อมูลได้ที่ หอสมุดปิยมหาราชรฦก ตั้งอยู่ที่อาคารถาวรวัตถุ ถนนหน้าพระธาตุ เขตพระนคร ซึ่งกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ปรับปรุงอาคารถาวรวัตถุ จัดตั้งเป็นหอสมุด “ปิยมหาราชรฦก” เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสร้างความเจริญนานัปการให้แก่ประเทศไทย และเป็นศูนย์ข้อมูลการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แบ่งเป็น ๓ ห้อง คือ ห้องให้บริการหนังสือใหม่ เป็นหนังสือเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จัดพิมพ์ขึ้นใหม่ ห้องบริการหนังสือหายาก รวมหนังสือที่จัดพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้แก่ พระราชนิพนธ์ที่จัดพิมพ์ครั้งแรก หนังสือของ หอพระสมุดวชิรญาณ ราชกิจจานุเบกษา สมุดไทย และเอกสารทรงบริหารราชการแผ่นดิน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เป็นต้น และ ห้องบริการระบบสืบค้นข้อมูลและสื่อโสตทัศน์ ให้บริการ D-Library การสืบค้นฐานข้อมูลห้องสมุดอัตโนมัติ และการสืบค้นฐานข้อมูลพระปิยมหาราชจากคอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูลและคอมพิวเตอร์ทัชสกรีน หอสมุด ปิยมหาราชรฦก เปิดให้บริการวันพุธ ถึงวันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๓๐ น.
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 เวลา 14.00 น. นางประนอม คลังทอง รองอธิบดีกรมศิลปากร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ โดยมีนายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งประชุมติดตามผลการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเชียงใหม่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ลำพูน และหอจดหมายเหตุแห่งชาติฯพะเยา
พบเครื่องถ้วยชามลายน้ำทอง มีพระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ที่กาน้ำ และจาน
ไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่เคยเห็นในหนังสือ รวมทั้งภาพใน Internet
ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ
พระชัยเมืองนครราชสีมา
สถานที่เก็บรักษา ห้องศิลปะอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งสมาธิราบบนฐานเตี้ย พระบาทขวาทับพระบาทซ้าย ครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิยาวสอดอยู่ใต้ชายรัดประคด พระพักตร์สี่เหลี่ยม พระเนตรเบิกกว้าง กรอบพระพักตร์มีไรพระศกสองเส้น ขมวดพระเกศาเล็ก พระรัศมีทำเป็นรูปคล้ายหม้อน้ำ แบบศิลปะที่เรียกกันว่า “พระพุทธรูปอู่ทอง ๒” มีจารึกอักษรขอม ภาษาบาลี รูปแบบอักษรประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ ที่องค์พระโดยรอบ
ด้านหน้า : ที่พระอังสกุฏด้านซ้ายจารึกตัวอักษร จ ที่พระนลาฏจารึกตัวอักษร ภ ที่พระศอจารึกตัวอักษร ก ที่พระอังสกุฎด้านขาวจารึกตัวอักษร ส
คำว่า จะ ภะ กะ สะ โบราณเรียกว่า คาถากาสลัก ในคัมภีร์วชิรสารัตถสังคหะ แต่งโดยท่านรัตนปัญญาเถระ ให้ความหมายไว้ว่ากำเนิดจากพระพุทธธรรม มงคลสูงสุด ๓๘ ประการ อักษรแต่ละตัวย่อจากพุทธสุภาษิต ดังนี้
จ ย่อมาจาก จช ทุชฺชนส˚สคฺค◦ จงหลีกเลี่ยงการคบคนพาล
ภ ย่อมาจาก ภช สาธุสมาคม◦ จงคบหาสมาคมกับคนดี
ก ย่อมาจาก กร ปุญฺญมโหรตฺต◦ จงทำความดีทุกวัน ทุกคืน ทุกลมหายใจ
ส ย่อมาจาก สร นิจฺจมนิจฺจต◦ จงระลึกถึงความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอนของสิ่งทั้งปวงตามธรรมชามติ
ที่พระอุระด้านซ้ายและขวา
แถวที่ ๑ จารึกอักษร ๖ ตัว คือ อุ ก ส ถ สา ร◦
แถวที่ ๒ จารึกอักษร ๗ ตัว คือ พ ก อุ ก ผ สา ร◦
แถวที่ ๓ จารึกอักษร ๓ ตัว คือ อิ สวา สุ
ย่อมาจาก อิติปิโส ภควา, สวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ หัวใจพระรัตนตรัย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
ด้านซ้าย : พระพาหาด้านซ้าย จารึกอักษร ๔ ตัว คือ น ม พ ท พระพาหาด้านขวา จารึกอักษร ๔ ตัว คือ จ พ ก ส
ด้านหลัง : ตามแนวสังฆาฏิตั้งแต่พระอังสกุฏด้านซ้ายลงมา จารึกอักษร ๕ ตัว คือ น โม พุทฺ ธา ย
คำว่า “นโม พุทฺธาย” นั้น เป็นคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ จารึกย่อนามพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ที่ทรงอุบัติในภัทรกัลป์นี้ คือ
น หมายถึง พระกกุสันโธ ใช้เขียนแทนอาโปธาตุ ธาตุน้ำ มีกำลัง ๑๒
โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทนปฐวีธาตุ ธาตุดิน มีกำลัง ๒๑
พุท หมายถึง พระกัสสปะ ใช้เขียนแทนเตโชธาตุ ธาตุไป มีกำลัง ๖
ธา หมายถึง พระสมณะโคดม ใช้เขียนแทน วาโยธาตุ ธาตุลม มีกำลัง ๗
ย หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย ใช้เขียนแทนอากาศธาตุ มีกำลัง ๑๐
เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ การที่ใช้นามของพระพุทธเจ้าเขียนเป็นพระคาถาในยันต์ของพระเกจิอาจารย์แต่ละองค์จึงนิยมคำว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” มาใช้เป็นพระคาถา และเรียกว่าคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ หรือแม่ธาตุใหญ่ มีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวงรวมทั้งมีความเชื่อสืบต่อกันว่า ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้วจะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล
พระชัยบางครั้งเขียนว่า “พระไชย” เป็นพระพุทธรูปสำคัญมาแต่บรรพกาล ปรากฏในพระราชพงศาวดารตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นามพระชัยมีความหมายว่า ชัยชนะ เนื่องด้วยแต่เดิมมีความมุ่งหมายเพื่ออัญเชิญไปในกองทัพยามออกศึกสงครามเพื่อชัยชนะ สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีความหมายว่า ปราบมารได้ชัยชนะ นอกจากนี้ใช้ตั้งในการพระราชพิธีต่างๆ เรียกว่าพระชัยพิธี สำหรับขจัดอุปสรรคอำนวยให้การพิธีสำเร็จผล
ห้องรับแขกร่วมสมัยคฤหาสน์กูเด็นจัดแสดงชุดรับแขกร่วมสมัย โดยจัดสร้างขึ้นใหม่ให้มีลักษณะสอดคล้องกับรูปแบบอาคาร
***บรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
ภาคศึกษา ๒ (ยะลา). พัฒนาการศึกษา ภาคศึกษา ๒ ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๐๒. พระนคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๐๒.