ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 121/3
หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 36 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 56.5 ซม.
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง นิทานงัวน้อย (นิทานงัวน้อย)ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 12 หน้า : กว้าง 5.4 ซม. ยาว 57.4 ซม.หัวเรื่อง นิทานภาษา ไทยอีสานบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาไทยอีสาน ฉบับลานดิบ ได้รับมอบจากนางสุดา วงษ์พันธุ์
หมูชะมวง เมนูพื้นบ้านรสเปรี้ยว อร่อยไม่เหมือนใคร
จังหวัดจันทบุรี ไม่ได้มีดีแค่ผลไม้ชื่อดังอย่างทุเรียน มังคุด หรือเงาะเท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารพื้นบ้านที่หลากหลาย และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ อาหารของชาวจันทบุรีหลายเมนูได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมท้องถิ่น และการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ง่ายในพื้นที่ ทั้งอาหารทะเลสดๆ และสมุนไพรหรือพืชพื้นบ้านต่างๆ หนึ่งในเมนูพื้นบ้านที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ หมูชะมวง อาหารรสเปรี้ยวกลมกล่อมที่ไม่เหมือนใครและเป็นเอกลักษณ์ของจันทบุรี
ใบชะมวงเป็นพืชที่คนจันทบุรี ระยอง และตราด นิยมนำมาใช้ทำอาหาร คนท้องถิ่นจะรู้ดีว่ารสเปรี้ยวจากใบชะมวงไม่เหมือนรสเปรี้ยวจากมะนาวหรือมะขาม แต่จะเป็นรสเปรี้ยวแบบนุ่มๆ ชวนให้กินแล้วไม่เลี่ยน เมื่อเอามาต้มกับหมูสามชั้นและหมูเนื้อแดง จะได้รสชาติหวาน มัน และเปรี้ยวเข้มข้นพอดี แม้หน้าตาจะคล้ายแกง แต่คนในภาคตะวันออกมักเรียกเมนูนี้ว่าต้ม แทนที่จะเรียกว่าแกง เพราะไม่ได้ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดจัดเหมือนแกงทั่วไป สมัยก่อนหมูชะมวงมักจะทำในงานบุญ งานบวช หรืองานแต่ง เพราะต้องใช้เวลาเตรียมและคนช่วยกันเยอะๆ แต่ทุกวันนี้เริ่มมีคนทำขายตามร้านอาหารบ้าง และมีการทำเป็นหมูชะมวงกระป๋องเพื่อให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ง่ายขึ้น
วิธีทำหมูชะมวงก็ไม่ซับซ้อนมาก เริ่มจากโขลกหรือปั่นเครื่องปรุงพวก ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม และกะปิให้ละเอียด จากนั้นนำไปผัดจนหอม แล้วจึงใส่หมูลงไปผัด เติมเครื่องปรุงรสอย่างน้ำปลา น้ำตาลทรายแดง ซีอิ๊ว และเต้าเจี้ยว ใส่ใบชะมวง เติมน้ำพอท่วมแล้วเคี่ยวไฟอ่อนๆ จนหมูนุ่มและน้ำแกงเข้มข้น เวลากินจะได้รสชาติเปรี้ยวจากใบชะมวง ผสมความหวาน และความมันของหมู เข้ากันอย่างลงตัวหมูชะมวงเป็นอาหารที่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่กินได้ รสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป แต่กลมกล่อมแบบที่หลายคนกินแล้วติดใจ หากใครมีโอกาสไปเที่ยวจันทบุรี อย่าลืมแวะชิมสักครั้ง รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำให้คุณประทับใจและอยากกลับมาชิมอีกแน่นอน
หากสนใจหนังสือเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ใบชะมวง คัดสวย. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2568, จาก https://freshket.co/
product/detail/ใบชะมวง-คัดสวย/b680a1ac-7e82-4716-9c12-549bef89b735
สุขทุกวันจันทบุรี. ที่นี่ ที่จันท์..อาหารถิ่นจันทบูร. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.blockdit.com/posts/5ef713f0dc436c0c6fda78f5
อร่าม อรรถเจดีย์. พืชพื้นบ้าน-อาหารจันทบูร. จันทบุรี: โรงพิมพ์ต้นฉบับ, 2550.
“TOP 5 CHAN FOOD เมนูอาหารยอดนิยม”. About Chan. ฉบับพิเศษ 33 (ธันวาคม 2558 – มกราคม 2559): 30-31.
เรียบเรียงโดย นางสาวทิพวรรณ จันทร์ปัญญา บรรณารักษ์ปฏิบัติการ
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี กรมศิลปากร
นานาคติพจน์. พระนคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2498 คณะศิษยานุศิษย์พิมพ์แจกเป็นธรรมบรรณาการในงานฉลองสมณศักดิ์สัญญาบัตรและพัดยศของพระครูโอภาสสมณาการ (ไล้ โอภาโส)เจ้าอาวาสวัดไทยวิวัฒนาราม เจ้าคณะธรรมยุต อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นคติพจน์ของพระครโอภาสสมณาจาร วัดไทยวิวัฒนารามกาญจนบุรี เนื้อหาเป็นร้อยกรอง จำนวน 42 เรื่อง
เลขทะเบียน : นพ.บ.697/10ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 4.5 x 55 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 220 (227-242) ผูก 10 (2568)หัวเรื่อง : ขฺทกนิกายฎฺฐกถา--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.770/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 20 หน้า ; 4.5 x 56 ซ.ม. : ทองทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 238 (417-423) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : ฉลองธุงฝ้าย--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘ ผู้ออกแบบ นายปริญญา บุญฤทธิ์ นายช่างศิลปกรรมปฏิบัติงาน สังกัด กลุ่มงานศิลปประยุกต์ กลุ่มศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
---------------------------------------------
ความหมายของตราสัญลักษณ์
- แบบตราสัญลักษณ์ ประกอบด้วย อักษรพระปรมาภิไธย อ.ป.ร. อันหมายถึง อานันทมหิดล ปรมราชาธิราช พื้นอักษรสีทอง ภายในกรอบวงกลมพื้นสีแดงอันเป็นสีของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมรมราชสมภพ
- ภายในกรอบประดับเพชร ๑๒ ดวง หมายถึง ทรงดำรงสิริราชสมบัติ ๑๒ ปี พื้นหลังสีน้ำเงินเป็นสีของชัตติยกษัตริย์ เบื้องบนประดิษฐานพระมหาพิชัยมงกุฎประกอบด้วยเลข ๘ อันเป็นเลขมหามงคลประจำรัชกาล
- เบื้องหลังพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แสดงถึงพระบรมราชอิสริยยศของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ขนาบด้วยสัปตปฏล
- เบื้องล่างมีเลข ๑๐๐ หมายถึง วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี แพรแถบขอบขลิบทองพื้นสีหงขาด (ชมพู) ปลายแถบเป็นรูปเศียรพระโค สื่อถึงปีฉลูนักษัตรอันเป็นปีพระบรมราชสมภพ มีข้อความว่า "เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี" เบื้องล่างสุดมีข้อความว่า "๒๐ กันยายน ๒๕๖๘"
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง "สิปปภัณฑ์ สร้างสรรค์ สืบศิลป์ทวารวดี" พร้อมร่วมกิจกรรมเพื่อรับของที่ระลึก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร
นิทรรศการจัดแสดงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีต้นแบบและแรงบันดาลใจมาจากโบราณวัตถุสมัยทวารวดีที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เช่น ของเล่นนักโบราณคดีสมัครเล่น ที่มีต้นแบบและแรงบันดาลใจจากประติมากรรมรูปสัตว์ ชุดเครื่องประดับเซรามิก มีแรงบันดาลใจจากลูกปัดหินและลูกปัดแก้วต่าง ๆ พระพิมพ์เนื้อโลหะและดินเผาซุ้มสลักไม้ฉลุโปร่ง มีต้นแบบและแรงบันดาลใจจากพระพิมพ์ดินเผาภาพพระพุทธรูปปางสมาธิแวดล้อมด้วยเครี่องสูง จากโบราณสถานพุหางนาคหมายเลข ๒ เมืองโบราณอู่ทอง
ทั้งนี้ ผู้เข้าชมนิทรรศการสามารถร่วมกิจกรรมตามหาตราประทับภายในห้องจัดแสดง เมื่อประทับตราครบ ๔ แบบ นำมาแลกรับโปสการ์ดที่ระลึกได้ ๑ ใบ (มีจำนวนจำกัด) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ พบกับกิจกรรมเสกสรรค์ ปั้นแต่ง โดยปั้นดินญี่เป็นรูปสัตว์ หน้าคน และอื่นๆ ตามจินตนาการ หรือระบายสีตุ๊กตา ปูนปลาสเตอร์ พิเศษสุด ๆ สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังจะได้รับของที่ระลึกแบบสุ่มอีก ๑ ชิ้น (มีจำนวนจำกัด)
อัตราค่าเข้าชมชาวไทย ๓๐ บาท และชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๕๕๕ ๑๐๒๑ Facebook : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง https://www.facebook.com/Uthongmuseum/
ประกาศสำนักบริหารกลาง เรื่อง การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อการจ้างบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา จำนวน ๑ อัตรา
http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/muangsing
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําแควน้อย ในเขตตําบลเมืองสิงห์ อําเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ทั้งหมด 641 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา ประกอบด้วยเมืองสิงห์และปราสาทเมืองสิงห์เมืองสิงห์เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ําแควน้อย อันเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงทําให้มีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และมีพัฒนาการทางด้านวัฒนธรรมต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ ดังปรากฏพบหลักฐานทางด้านโบราณคดีจํานวนมาก ทั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนให้เห็นอารยธรรมช่วงหนึ่งของมนุษย์ซึ่งเคยมีบทบาทในดินแดนแถบจังหวัดกาญจนบุรีคือ โครงกระดูกมนุษย์และเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัย ก่อนประวัติศาสตร์ กําหนดอายุได้ประมาณ 2,000 ปีมาแล้วที่พบบริเวณทางทิศใต้ ของเมืองสิงห์ที่ติดกับแม่น้ําแควน้อยและหลักฐานในสมัยประวัติศาสตร์ อันเป็นช่วงเวลาที่มีการสร้างเมืองสิงห์ เช่น การมีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือการสร้างศาสนสถานคือ ปราสาทเมืองสิงห์ไว้กลางเมือง หรือการพบประติมากรรมหลายรูปแบบอันเป็นศิลปะแบบขอมสมัยบายน จากคุณค่าและความสําคัญดังกล่าว กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเมืองสิงห์และปราสาทเมืองสิงห์ให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม พุทธศักราช 2478 ทั้งนี้ได้ดําเนินการพัฒนาเมืองสิงห์และปราสาทเมืองสิงห์ตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2517 - 2519 ต่อมาจึงจัดทําเป็นโครงการพัฒนาโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์และเสนอให้บรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พุทธศักราช 2520 - 2524) และในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พุทธศักราช 2525 - 2529) จึงเปลี่ยนชื่อเป็นโครงการอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์และทําการขุดแต่งและบูรณะจนแล้วเสร็จ พร้อมกับเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2530 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินมาเป็นประธานในพิธีเปิด
เว็ปไซต์หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ: www.finearts.go.th/suphanburilibrary
ประวัติความเป็นมา
“ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี “ กาญจนาภิเษก ” เมื่อ พ.ศ. 2539 พร้อมให้เชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ประดิษฐานบนอาคารหอสมุดฯ ตามหนังสือสำนักราชเลขาธิการที่ รล 0003 / 5808 ลงวันที่ 8 เมษายน 2540
หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ สังกัดสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ให้บริการการศึกษาค้นคว้าวิจัย ของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียงโดยได้รับการสนับสนุนจาก ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรีและนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของไทย โดยได้จัดสรรงบประมาณตามโครงการพัฒนาจังหวัดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2538 และ 2540 เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างอาคารและปรับปรุงพื้นที่ จำนวน 21,114,000.- บาท (ยี่สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสี่พันบาทถ้วน) สำหรับก่อสร้างอาคารและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ
หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2540 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ ที่ 1 กันยายน 2546 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธี
ภารกิจหน่วยงาน
1. บริหารจัดการด้านการสำรวจ จัดหา รวบรวม และจัดเก็บทรัพยากรสารนิเทศทุกสาขาวิชา เพื่อเป็นคลังสิ่งพิมพ์ในภูมิภาค
2. ศึกษาค้นคว้า และดำเนินการวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ เพื่อใช้เป็นคู่มือในการให้คำปรึกษา แนะนำการปฏิบัติงานห้องสมุดได้อย่างมีมาตรฐาน
3. พัฒนาระบบการสืบค้นสารนิเทศที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองการศึกษาค้นคว้าวิจัยและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนทุกเพศ และวัย ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
4. ให้บริการสารนิเทศ และส่งเสริมการอ่าน การศึกษาค้นคว้าวิจัยแก่ประชาชนทุกเพศ และวัย เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต และการศึกษาตามอัธยาศัย
5. ประสานงานกับสำนักหอสมุดแห่งชาติในการสำรวจ รวบรวมเอกสารโบราณ หนังสือหายาก และคัมภีร์ใบลาน เพื่อการสงวนรักษามรดกทรัพย์สินภูมิปัญญาของภูมิภาค
6. ประสานงานกับสำนักหอสมุดแห่งชาติในการเผยแพร่ และกำหนดเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ ( ISBN ) และเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร ( ISSN )
7. ให้คำปรึกษา แนะนำ ฝึกอบรมทางวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ แก่บุคลากรห้องสมุด และหน่วยงานต่าง ๆ ในภูมิภาค
พบเครื่องถ้วยชามลายน้ำทอง มีพระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ที่กาน้ำ และจาน ไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่เคยเห็นในหนังสือ รวมทั้งภาพใน Internet ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ