ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.24/1-1 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ไทยน้อย.  พระยาพหล.  พิมพ์ครั้งที่ ๑.  พระนคร : แพร่พิทยา, ๒๔๙๗.  ๔๔๓ หน้า.       พระยาพหลพลพยุหเสนา ได้รับยกย่องเป็น “เชษฐบุรุษ”ผู้นำการปฏิวัติจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตย มีบุคลิกที่เป็นกันเองคุยสนุก



ลำดวน สุขพันธ์.  ประวัติพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และบทความเรื่องอาณาจักรศรีวิชัย.  กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2520.          นำเสนอเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และความสำคัญของวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี  นอกจากนี้ท้ายเล่มยังนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องอาณาจักรศรีวิชัยด้วย


องค์ความรู้วิชาการ เรื่อง อาหารมงคลในพิธีแต่งงานของชาวบาบ๋าภูเก็ต องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง "เสี่ยหนา" หรือ ปิ่นโตจีน ของใช้ในงานมงคง องค์ความรู้วิชาการ เรื่อง อาหารมงคลในพิธีแต่งงานของชาวบาบ๋าภูเก็ต องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง "เสี่ยหนา" หรือ ปิ่นโตจีน ของใช้ในงานมงคง https://www.facebook.com/ThalangNationalMuseum/posts/3201720979914096


          เขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งอยู่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว และเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างปิดกั้นแม่น้ำพอง ตรงบริเวณที่เรียกว่า "พองหนีบ" ตำบลโคกสูง อำเภอน้ำพอง (ปัจจุบันเป็นอำเภออุบลรัตน์) จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่น ประมาณ 50 กิโลเมตร           ความเป็นมาของเขื่อนอุบลรัตน์ ระหว่างวันที่ 20 – 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 ผู้เชี่ยวชาญจาก 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนามใต้ โดยความสนับสนุนของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งเอเซียและตะวันออกไกล (ECAFE) ได้ประชุมหารือกันเกี่ยวกับการพัฒนาลุ่มน้ำโขงตอนล่างเพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง และการป้องกันอุทกภัย ที่ประชุมได้ให้ผู้แทนทุกฝ่ายเสนอให้รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศ ภายใต้ความอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ (United Nations) คณะกรรมการฯได้ลงมติว่าใน 4 ประเทศ ที่ร่วมงานกันนี้ จะดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำประเทศละ 2 สาขา ซึ่งสำหรับประเทศไทยเราได้เสนอโครงการน้ำพอง (ปัจจุบันคือ เขื่อนอุบลรัตน์) และโครงการน้ำพุง (ปัจจุบันคือเขื่อนน้ำพุง) เป็นสาขาของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำโขงตอนล่าง           ปี พ.ศ. 2502 คณะกรรมการประสานงานการสำรวจลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ได้ดำเนินการสำรวจลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง อีกหนึ่งปีต่อมาคณะกรรมการประสานงานการสำรวจลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ได้เสนอให้มีการพิจารณาโครงการน้ำพองเป็นอันดับแรก เพราะโครงการนี้จะให้ประโยชน์แก่การพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือนานัปการ           ปี พ.ศ. 2503 องค์การสหประชาชาติ ได้ทำการว่าจ้างบริษัท Rogers International Corporation จากสหรัฐอเมริกาให้มาดำเนินการสำรวจเบื้องต้นให้กับโครงการน้ำพอง โดยใช้เงินจากกองทุนพิเศษสหประชาชาติ (UN Special Fund) ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลได้นำรายงานการสำรวจเบื้องต้นเสนอต่อรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อขอกู้ยืมเงินมาเป็นค่าก่อสร้างโครงการ รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันได้ลงมติให้ความสนับสนุนโดยผ่านสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (K.F.W. หรือ Kreditanstall fur Wiederaufbau)           ปี พ.ศ. 2506 การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัท Salzgitter Industriebau GmbH. แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เป็นบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา เพื่อสำรวจรายละเอียดออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง โครงการพัฒนาแม่น้ำพอง           ปี พ.ศ. 2507 ได้เริ่มก่อสร้างโครงการโดยการกู้เงินจาก สถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (K.F.W.) การก่อสร้างได้แล้วเสร็จเมื่อปลายปี พ.ศ. 2508 และเริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2509 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี (ฐานันดรศักดิ์ในขณะนั้น) ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2509 ทรงพระราชทานชื่อเขื่อนนี้ว่า “เขื่อนอุบลรัตน์”           พระธรรมไตรโลกาจารย์ (รักษ์ เรวโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเมือง พร้อมญาติโยมจากจังหวัดหนองคาย เดินทางไปทอดผ้าป่าที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2507 ระหว่างทางได้แวะชมการก่อสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ จากภาพถ่ายส่วนบุคคลของพระธรรมไตรโลกาจารย์ชุดนี้ ทำให้เห็นภาพการก่อสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ ในปี พ.ศ.2507 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเริ่มการก่อสร้าง มีการใช้แรงงานคนและเครื่องจักรในการก่อสร้าง แรงงานคนจึงมีความสำคัญในการก่อสร้างเขื่อน--------------------------------------------------------------เรียบเรียงโดย นางสาวอุไรวรรณ แสงทอง นักจดหมายเหตุชำนาญการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี--------------------------------------------------------------ข้อมูลอ้างอิง หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี ภาพถ่ายส่วนบุคคล พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต) (2) ภ หจช อบ สบ 8.3/1 เว็บไซต์ http://urdam.egat.co.th/


          ก่อนเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารจะก้าวไกลอย่างปัจจุบัน การเขียนจดหมายส่งถึงกันถือว่าเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนึ่งที่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้ผู้รับได้ทราบ ซึ่งกิจการไปรษณีย์นั้นได้เริ่มต้นขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โดยได้มีการจัดตั้งกรมไปรษณีย์ขึ้นในประเทศ และได้มีการผลิต “แสตมป์ชุดโสฬส” เป็นแสตมป์ชุดแรกของประเทศ รวมไปถึงการจัดพิมพ์ไปรษณียบัตรครั้งแรก เพื่อรองรับกิจการไปรษณีย์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น            อีกสิ่งที่มีควบคู่กับการไปรษณีย์ นั่นคือ “ตู้ไปรษณีย์” ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการไปรษณีย์ไทย โดยตู้ไปรษณีย์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทยเป็นตู้ที่ได้รับมอบเป็นของขวัญจากประเทศเยอรมนี ในโอกาสที่ประเทศไทยเปิดให้บริการไปรษณีย์ขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2426            ในส่วนของจังหวัดยะลานั้น ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อำเภอเบตง ตั้งอยู่หัวมุมถนนสุขยางค์ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ลักษณะของตู้เป็นรูปทรงกลม และคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นรอบวงของตัวตู้ประมาณ 140 ซม. มีความสูงถึง 290 ซม. นับจากฐานขึ้นไป รวมความสูงทั้งหมดประมาณ 320 ซม. กล่าวคือ เนื่องจากในอดีตการเดินทางติดต่อสื่อสารระหว่างอำเภอเบตงกับอำเภออื่นๆ มีความยากลำบาก การส่งจดหมายจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด จนกระทั่งนายสงวน จิระจินดา นายกเทศมนตรีเบตงในขณะนั้น ซึ่งเคยเป็นนายไปรษณีย์เบตงมาก่อน มีความคิดที่จะสร้างตู้ไปรษณีย์ไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของอำเภอเบตง นอกจากจะเป็นตู้รับจดหมายแล้ว ยังมีการติดตั้งวิทยุกระจายเสียงไว้ส่วนบนของตู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารจากทางราชการด้วย ต่อมาทางเทศบาลเบตงจึงได้จำลองตู้ไปรษณีย์ขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 3.5 เท่า บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ โดยมีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และตู้ไปรษณีย์ทั้งสองแห่งยังคงสามารถใช้งานได้เหมือนกับตู้ไปรษณีย์ทั่วไปอีกด้วย-----------------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ยะลา https://www.facebook.com/751655098538170/posts/1316230012080673/ -----------------------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง : บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด. ประวัติกิจการไปรษณีย์ไทย (ออนไลน์). แหล่งที่มา http://www.thailandpost.co.th เทศบาลเมืองเบตง จังหวัดยะลา. ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (ออนไลน์). แหล่งที่มา http://betongcity.go.th/?p=5714 ปราณชลี. ไผ่งามนามเบตง 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง. 2560


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ได้ดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 นั่นก็คือ "โครงการปรับปรุงห้องนิทรรศการพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)" ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน คาดว่าจะสามารถเปิดให้เข้าชมได้ในเร็วๆนี้           นิทรรศการห้องที่ระลึกพระยาโบราณราชธานินทร์ ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในอาคารมหาดไทย เป็นนิทรรศการที่เผยแพร่ชีวประวัติและผลงานอันทรงคุณค่าของพระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ภายในห้องเป็นการจำลองการจัดแสดงห้องทำงานของพระยาโบราณราชธานินทร์ รวมไปถึงจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนตัวและโบราณวัตถุบางส่วนที่มาจากการเก็บสะสมของท่าน โดยวัตถุประสงค์ของนิทรรศการนี้คือเพื่อเป็นการระลึกถึงและเชิดชูเกียรติพระยาโบราณราชธานินทร์ ผู้มีคุณูปการต่อวงการประวัติศาสตร์ โบราณคดี และชาวพระนครศรีอยุธยา           การปรับปรุงนิทรรศการในครั้งนี้ ประกอบด้วย งานปรับปรุงป้ายนิทรรศการ ป้ายคำบรรยายวัตถุ ปรับปรุงแท่นจัดแสดงบางส่วน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนแผนผังการจัดแสดง เพื่อให้การนำเสนอข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน อีกทั้งยังเพื่อให้นิทรรศการมีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น




          กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชมนิทรรศการออนไลน์ เรื่อง “ลายพระราชหัตถ์ พระฉัฐราช” เผยแพร่พระราชนิพนธ์ฉบับลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน ๗๘ เรื่อง ในรูปแบบ e-Book ที่เว็บไซต์ หอสมุดแห่งชาติ          นายพนมบุตร จันทรโชติ รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากร โดยกลุ่มบริการทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้รวบรวมพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจัดแสดงเป็นนิทรรศการออนไลน์ เรื่อง “ลายพระราชหัตถ์ พระฉัฐราช” เนื้อหานิทรรศการแบ่งเป็น ๒ ส่วน ประกอบด้วย ข้อความที่โดดเด่นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย พร้อมเรื่องย่อของหนังสือลายพระราชหัตถ์ ซึ่งส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากหนังสือ งานละครของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม Introduction to the dramatic activities of His Majesty King Vajiravudh หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ค้นคว้าและเรียบเรียง และเนื้อหาต้นฉบับลายพระราชหัตถ์ในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) จำนวน ๗๘ เรื่อง เช่น วิธีใหม่สำหรับใช้สระและเขียนหนังสือไทย, พระร่วง, บทละครร้อง มัทนะพาธา หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบ ลครพูดคำฉันท์ ๕ องก์, ลครนอกเรื่องท้าวแสนปม (ต้นฝีพระหัดถ์), หัวใจนักรบ, บทลครพูดสลับลำเรื่อง “วิวาหพระสมุท” ฯลฯ          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ มีพระอัจฉริยภาพในด้านอักษรศาสตร์ ทรง พระราชนิพนธ์วรรณกรรมไว้เป็นจำนวนมาก รวมถึงทรงพระราชนิพนธ์บทความสำคัญ ๆ ลงในหนังสือพิมพ์ นับเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ทรงใช้หนังสือพิมพ์เป็นสื่อในด้านการให้ข่าวสาร แสดงความคิดเห็น และปลุกใจให้ประชาราษฎรรักชาติบ้านเมือง โดยทรงใช้พระนามแฝงหลายพระนาม เช่น ศรีอยุธยา รามจิตติ พันแหลม ทั้งนี้ ในวาระวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๒๓ คณะกรรมการรวบรวมและค้นคว้าเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ก.ร.ว.) ได้รวบรวมพระราชนิพนธ์ที่ได้ทรงไว้ตลอดพระชนม์ชีพพบว่ามีจำนวนมากกว่า ๑,๒๐๐ เรื่อง ซึ่งนอกจากจะเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางวรรณศิลป์แล้ว ยังเป็นสื่อในการพระราชทานความรู้เรื่องต่าง ๆ แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด          กรมศิลปากรมุ่งหวังให้นิทรรศการนี้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าชมในแง่ของการส่งเสริมการอ่าน และ ส่งเสริมคุณค่าวรรณกรรมไทย อีกทั้งเป็นการเผยแพร่พระราชนิพนธ์สู่สาธารณชนในวงกว้าง ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการออนไลน์ได้ที่ https://www.nlt.go.th/service/1008--ลายพระราชหัตถ์-พระฉัฐราช


ชื่อเรื่อง                     นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง และเรื่องสุวรรณภูมิผู้แต่ง                       พนมบุตร จันทรโชติผู้แต่งเพิ่ม                   ภัทราวรรณ ภาครส, วรางคณา เพ็ชร์อุดม.ประเภทวัสดุ/มีเดีย        หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                 978-974-417-870-1หมวดหมู่                   พิพิธภัณฑวิทยาเลขหมู่                      069.09593 พ187นสถานที่พิมพ์               กรุงเทพฯสำนักพิมพ์                 ศรีเมืองการพิมพ์ปีที่พิมพ์                    2550ลักษณะวัสดุ               146 หน้า : ภาพประกอบ ; 29 ซม.หัวเรื่อง                     พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทองภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก          เรื่องราวประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง การนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ภายในแบ่งออกเป็นห้องจัดแสดง ๑ บรรพชนคนอู่ทอง แสดงถึงพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทอง ห้องจัดแสดง ๒ อู่ทอง ศรีทวารวดี จัดแสดงเรื่องราวและความสำคัญของเมืองโบราณ อู่ทอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและศูนย์กลางพระพุทธศาสนา เรือนจำลองของลาวโซ่ง โบราณวัตถุชิ้นเยี่ยม พร้อมแผนที่ตั้งเมืองโบราณอู่ทอง และแผนที่โบราณสถานสำคัญในเมืองโบราณ อู่ทอง มีภาคภาษาอังกฤษประกอบ


ชื่อเรื่อง                                ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มหาชนก-วิธูรบัณฑิต) สพ.บ.                                  270/ง/10ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           54 หน้า กว้าง 4.6 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           ชาดก                                           เทศน์มหาชาติ                                           คาถาพัน บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมล้านนา ภาษาไทยล้านนา เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี                


เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๕ กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์สมุดภาพมรดกศิลปวัฒนธรรม “ปูชนียประติมา เทพ พระ เจ้า” (REVERED IMAGES DEVAS BUDDHA DEITIES) ครั้งแรกของการรวบรวมภาพประติมากรรมพระพุทธรูป เทวรูป และเทพเจ้า จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ พิมพ์ปกแข็งสี่สี ขนาด ๑๗.๖ x ๒๑.๖ เซนติเมตร ด้านในประกอบด้วยกระดาษถนอมสายตาบันทึกข้อความได้ พร้อมตารางนัดหมายตลอดทั้งปี จำนวน ๒๖๔ หน้า ราคา ๒๕๐ บาท            ผู้สนใจสามารถซื้อหนังสือได้ที่ร้านหนังสือกรมศิลปากร (อาคารเทเวศร์) โทรศัพท์ ๐ ๒๑๖๔ ๒๕๐๑ ต่อ ๑๐๐๔ (ในวันและเวลาราชการ) หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ https://bookshop.finearts.go.th สอบถามเพิ่มเติม facebook ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (ปุคฺคลปญฺญตฺติ-มหาปัฎฐาน)  ชบ.บ.48/1-6  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


black ribbon.