ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ

ชื่อเรื่อง : ตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์ และประชุมบทเพลงไทยเดิม ภาคหนึ่ง ภาคสอง และภาคสาม ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา ปีที่พิมพ์ : 2507 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เกษมสัมพันธ์การพิมพ์ จำนวนหน้า : 74 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเรื่องตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์นี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงนิพนธ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2471 ได้มีชาวต่างชาติขออนุญาตนำไปแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส และภาษาดัช เมื่อทรงเห็นว่ามีผู้นิยมมากจึงทรงชำระเรื่อง และทำรูปเล่มสมบูรณ์ เมี่อ พ.ศ.2472 เนื้อหากล่าวถึง เรื่องตำนานเครื่องมโหรี เครื่องตำนานกลองแขก เรื่องตำนานปี่ซอและคน เครื่องมโหรีและเครื่องปี่พาทย์ของไทย เป็นต้น เนื้อหาส่วนถัดมาเป็นเรื่องประชุมบทเพลงไทยเดิม รวบรวมบทลำนำเนื้อร้องของเพลงไทยต่าง ๆ แบ่งเป็น 3 ภาค 65 บท


ชื่อเรื่อง : เมืองน่าน โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปะ ผู้แต่ง : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2537 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ชวนพิมพ์


ชื่อเรื่อง : นครศรีธรรมราชในอดีต   ผู้แต่ง : นครศรีธรรมราช   ปีที่พิมพ์ : ๒๕๒๕   สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์ : กรุงสยามการพิมพ์                  จุดมุ่งหมายของหนังสือ " นครศรีธรรมราชในอดีต" เล่มนี้ นอกจากจะเป็นบันทึกเหตุการณ์หรืออนุทินกิจกรรมในครั้งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ร่วมเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีอายุได้สองปีแล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้านต่างๆของนครศรีธรรมราช เช่น เศรษฐกิจ สังคม และการปกครองในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมบทความจากนักประวัติศาสตร์ไทยหลายท่่าน ทั้งที่เรียบเรียงขึ้นใหม่ หรือเมื่อครั้งประชุมสัมมนาวิชาการเรื่อง "ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมนครศรีธรรมราช"


ชื่อเรื่อง                     พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้แต่ง                       กรมศิลปากรประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   บรรณานุกรมเลขหมู่                      013.351 ศ528พ สถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์คุรุสภาพระสุเมรุปีที่พิมพ์                    2513ลักษณะวัสดุ               86 หน้า หัวเรื่อง                     บรรณานุกรม                   ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกรวบรวมจัดทำบรรณานุกรมพระราชนิพนธ์ เท่าที่สามารถคันคว้ารบรวมได้ในระยะเวลาอันจำกัด


่ชื่อผู้แต่ง  : -ชื่อเรื่อง : จารึกอาณาจักรน่านเจ้า พ.ศ.๑๓๙๐ครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่่-สถานที่พิมพ์ : พระนครสำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์สำนักทำเนียบรัฐมนตรีปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๐         จารึกอาณาจักรน่านเจ้า ได้จารึกด้วยอักษรจีน โดยพระราชโองการของพระเจ้าโกะล่อฝง เมื่อ พ.ศ.๑๓๙๐มีคำจารึกในหลักศิลาทั้งสองด้าน ได้ประดิษฐ์ไว้ที่ประตูเมือง ไทเซงโห ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจารึกอาณาจักรน่านเจ้าในสมัยนั้น จารึกนี้เป็นจารึกหลักเดียวที่กล่าวถึงเรื่องราวของอาณาจักรน่านเจ้า ในรัชสมัยของพระเจ้าโกะล่อฝง



ผู้แต่ง : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่  1 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2506 หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ อำมาตย์ตรี พระธราธรพิทักษ์ (อั๋น กนิษฐะเสน)             เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงนิทานทองอิน ภาคที่ 2 ประกอบด้วยเรื่อง ผู้ร้ายฆ่าคนที่บางขุนพรหม นายจรูญเศรษฐี ระเด่นลันได และเรื่องสร้อยคอร้อยชั่ง




ที่มาของโครงการ           ผลจากการดำเนินงาน “โครงการสำรวจและปรับปรุงฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง”  ในปีงบประมาณ  พ.ศ. ๒๕๖๓ ของสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลาที่ผ่านมา พบว่าบริเวณอำเภอห้วยยอดเป็นแหล่งพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ โดยพบแหล่งโบราณคดีมากกว่า ๓๐ แหล่งและพบความต่อเนื่องของหลักฐาน  ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ เรื่อยมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๘   ซึ่งจากการดำเนินงานครั้งนั้น พบหลักฐานทางโบราณคดีที่น่าสนใจบริเวณ “กลุ่มแหล่งโบราณคดีเขานุ้ย - เขาคุรำ –  เขาหัวพาน” ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง  พบหลักฐานทางโบราณคดีเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ชิ้นส่วนทองคำ ลูกเต๋าทำจากงาช้าง ลูกปัดทำจากหิน แก้ว ทอง ชิ้นส่วนเครื่องมือโลหะ เบ็ด เมล็ดข้าว ภาชนะดินเผาสามขา ชิ้นส่วนภาชนะดินเผารูปทรงต่างๆ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันทางชุมชนได้ร่วมกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านนาเปขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่พบโดยชาวบ้านไว้ โดยในปีพ.ศ. ๒๕๖๓ ทางสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา   ได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเข้าไปสนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการโบราณคดีโดยการจัดทำป้ายนิทรรศการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์บ้านนาเป            ดังนั้น เพื่อเป็นการเติมเต็มองค์ความรู้ทางด้านโบราณคดี และเป็นการอนุรักษ์ พัฒนาแหล่งโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น  โดยได้รับการสนับสนุนจากท่านประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากรและท่านอรุณศักดิ์  กิ่งมณี รองอธิบดีกรมศิลปากร อนุมัติงบโครงการบูรณะโบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วนกรมศิลปากร ดำเนินการขุดค้นแหล่งโบราณคดีเขาคุรำโดยทำการศึกษาและเก็บข้อมูลทางด้านโบราณคดีอย่างเป็นระบบ ซึ่งผลที่ได้จากการศึกษา นอกจากจะเป็นประโยชน์ในวงการวิชาการแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดในการหาแนวทางในการอนุรักษ์ พัฒนา และการบริหารจัดการแหล่งโบราณคดีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน            กิจกรรมของโครงการ           ๑. ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีที่แหล่งโบราณคดีเขาคุรำ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ในวันที่ ๑๔ มกราคม - ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๔             ๒. จัดทำฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่พบภาชนะดินเผาสามขาในภาคใต้           ทั้งนี้ ทางสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา ต้องขอขอบพระคุณ พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโมหรือพระครูรัตนสิกขการ เจ้าอาวาสวัดในเตา ลุงไพโรจน์ จงจิตร์ อดีตกำนันตำบลเขากอบ กำนันดำรงศักดิ์ วรรณบวร กำนันตำบลเขากอบ ผู้ใหญ่สุริยนต์ ทองศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๒ สจ.กิตติเดช วรรรณบวร หน่วยงานอบต.เขากอบ และชาวบ้านชุมชนบ้านนาเปทุกท่านที่สนับสนุนการดำเนินงานของสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา ทั้งนี้ ทางสำนัก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินงานในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการช่วยกันอนุรักษ์รักษามรดกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน 



ชื่อผู้แต่ง            - ชื่อเรื่อง             พระคุณของแม่ ครั้งที่พิมพ์          - สถานที่พิมพ์        นครหลวง สำนักพิมพ์          โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์             ๒๕๑๕ จำนวนหน้า         ๑๗๒ หน้า หมายเหตุ           ในการฌาปนกิจศพ นางมะลิ  อุปกลิ่น ณ เมรุวัดเกาะจาก ปากพนัง นครศรีธรรมราช ๒๒ เมษายน ๒๕๑๕


     พระพิมพ์ดินเผาภาพพระพุทธรูปปางแสดงธรรม       พบที่เจดีย์หมายเลข ๒ เมืองโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี       จัดแสดง ณ ห้องอู่ทองศรีทวารวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง      พระพิมพ์รูปทรงโค้งมน ทำเป็นภาพพระพุทธรูปยืนตริภังค์ (ยืนเอียงสะโพก) อุษณีษะเป็นต่อมนูนสูง เม็ดพระศกใหญ่ พระพักตร์รูปวงรี พระขนงเป็นเส้นต่อกัน และพระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกใหญ่ พระโอษฐ์หนา พระกรรณยาวจรดพระอังสา มีประภามณฑลเป็นวงโค้งรอบพระเศียร ครองจีวรห่มเฉียง บางแนบพระวรกาย เห็นขอบสบงบริเวณบั้นพระองค์ ชายสบงยาวจรดข้อพระบาท ปรากฏชายจีวรเป็นวงโค้งด้านหน้า พระหัตถ์ขวายกขึ้นระดับพระอังสา แสดงวิตรรกมุทรา (ปางแสดงธรรม) พระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย      การยืนตริภังค์ของพระพิมพ์องค์นี้ แสดงถึงอิทธิพลศิลปะอินเดียแบบคุปตะ แต่รูปแบบศิลปกรรมโดยรวม เป็นลักษณะศิลปะทวารวดีแล้ว จึงกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔ (ประมาณ ๑,๒๐๐ – ๑,๓๐๐ ปีมาแล้ว) ภายในเมืองโบราณอู่ทอง นอกจากที่เจดีย์หมายเลข ๒ แล้วยังพบชิ้นส่วนพระพิมพ์รูปแบบเดียวกันนี้ ที่เจดีย์หมายเลข ๓ อีกด้วย อนึ่ง ในสมัยทวารวดีการสร้างพระพุทธรูปยืนตริภังค์ และแสดงวิตรรกมุทราโดยพระหัตถ์ขวาข้างเดียว ส่วนพระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย หรือยกขึ้นยึดชายจีวรในระดับบั้นพระองค์ มักพบในพระพิมพ์และพระพุทธรูปสำริดขนาดเล็ก ส่วนพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สร้างจากหินมักสร้างเป็นพระพุทธรูปยืนตรงแบบสมภังค์ และแสดงวิตรรกมุทราทั้งสองพระหัตถ์ ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะที่เกิดขึ้นในวัฒนธรรมทวารวดีมากกว่า   เอกสารอ้างอิง กรมศิลปากร. โบราณคดีเมืองอู่ทอง. สหมิตรพริ้นติ้ง : นนทบุรี, ๒๕๔๕. ศักดิ์ชัย สายสิงห์. ศิลปะทวารวดี : วัฒนธรรมทางศาสนายุคแรกเริ่มในดินแดนไทย. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ,  ๒๕๖๒.


ฉันท์และกาพย์พรรณนาอานิสงค์ ศีล และการเจริญภาวนาเมตตายุคพระศรีอาริย์ ชบ.ส. ๑๗ เจ้าอาวาสวัดต้นสน ต.บางปลาสร้อย เขต ๑ อ.เมือง จ.ฃลบุรี มอบให้หอสมุด ๒๐ ก.ค. ๒๕๓๕ เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.19/1-6 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


black ribbon.