ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
บอร์ดคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม เตรียมส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ยื่นขอขึ้นทะเบียน
“แหล่งอนุสรณ์สถานเชียงใหม่ฯ” เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ ถึงศูนย์มรดกโลก 30 ม.ค. 69
ลุ้นขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งใหม่ แหล่งวัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช ก.ค. 69
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งอนุสรณ์สถานแหล่งต่าง ๆ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมของเชียงใหม่ นครหลวงของล้านนา หลังศูนย์มรดกโลกแจ้งผลการตรวจพิจารณาทางเทคนิค (Technical Review) และข้อแนะนำต่อร่างเอกสารฯ เตรียมเสนอเอกสารไปยังศูนย์มรดกโลกภายในวันที่ 30 มกราคม 2569
นางสาวซาบีดา กล่าวว่า ตามที่คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาร่างเอกสารการนำเสนอการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งอนุสรณ์สถานและภูมิทัศน์วัฒนธรรมเชียงใหม่ นครหลวงล้านนา ซึ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมแบบต่อเนื่อง ประกอบด้วยพื้นที่นำเสนอขอขึ้นทะเบียน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนที่ 1 ตัวเมืองเชียงใหม่และโบราณสถานสำคัญ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ คูเมืองกำแพงมืองเชียงใหม่ วัดเชียงมั่น วัดเจดีย์หลวง วัดพระสิงห์ วัดสวนดอก ส่วนที่ 2 ได้แก่ โบราณสถานวัดอุโมงค์ฯ และวัดพระธาตุดอยสุเทพ และส่วนที่ 3 ได้แก่ วัดเจ็ดยอด โดยได้ปรับแก้ไขตามข้อคิดเห็น (Technical Review) ของศูนย์มรดกโลก และข้อแนะนำต่อร่างเอกสารฯ จำนวน 11 ประเด็น ก่อนนำเสนอเอกสารไปยังศูนย์มรดกโลกในรอบวันที่ 30 มกราคม 2569
นางสาวซาบีดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้รายงานความคืบหน้าการประเมินขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของศูนย์มรดกโลก เพื่อจัดทำรายงานไปยังศูนย์มรดกโลก และประกอบการพิจารณาบรรจุการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 48 ในเดือนกรกฎาคม 2569 ณ สาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้คาดว่าแหล่งวัดพระมหาธาตุฯ มีโอกาสได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทยในการประชุมฯ ครั้งนี้
สำหรับความคืบหน้าการประเมินขั้นต้นของแหล่งพระธาตุพนม กลุ่มอาคารประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวเนื่อง ศูนย์มรดกโลกได้แจ้งผลการตรวจสอบทางเทคนิคว่าเอกสารขอรับการประเมินขั้นต้นของแหล่งพระธาตุพนมฯ มีความถูกต้องตามข้อกำหนด และได้นำส่งให้กับองค์กรที่ปรึกษาเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาการประเมินขั้นต้นแล้ว คาดว่าจะสามารถส่งร่างเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Draft Nomination) ไปยังศูนย์มรดกโลกได้ตั้งแต่รอบวันที่ 30 กันยายน 2570 และส่งเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ไปยังศูนย์มรดกโลกได้ตั้งแต่รอบวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2571 เป็นต้นไป
ประวัติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี เดิมเป็นพิพิธภัณฑ์ของ วัดโบสถ์ก่อตั้งโดยอดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ พระเทพสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี – อุทัยธานี ฝ่ายธรรมยุต ในขณะที่เป็น พระครูวิสุทธิธรรม ได้รวบรวมจัดเก็บรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่มีคุณค่า ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๘๓ โดยดำเนินงานในรูปของคณะกรรมการ มีอดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์เป็นประธานบริหารงาน
ในพ.ศ. ๒๔๙๖ พิพิธภัณฑสถานแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งเป็นสาขาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประจำอำเภออินทร์บุรี ต่อมาพ.ศ. ๒๕๐๔ คณะกรรมการพิพิธภัณฑสถานได้พิจารณาเห็นว่าอาคาร ไม้หลังเก่าไม่เพียงพอสำหรับจัดเก็บรักษาโบราณวัตถุที่มีจำนวนมากขึ้น จึงได้รับบริจาคเงินก่อสร้างอาคารหลังใหม่จาก นางเพิ่ม ดุริยางกูร และตั้งชื่ออาคารว่า ตึกเพิ่ม ดุริยางกูร และปรับปรุงศาลาการเปรียญของวัดหลังเดิมคือ ศาลาศักดิ์บุรินทร์ เป็นอาคารจัดแสดงอีกหลังหนึ่ง
ต่อมาในพ.ศ. ๒๕๑๔ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เมื่อครั้งมีสมศักดิ์เป็นพระราชเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ได้ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนกรมศิลปากรในการดำเนินงานปรับปรุงการจัดแสดงให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และต่อมาในพ.ศ. ๒๕๑๖ สาขาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี
พิพิธิภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง ขอนแก่น: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/khonkaen
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น
เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2510 เพื่อเป็นสถานที่รวบรวม สงวนรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ต่อมา พ.ศ. 2511 - 2512 ได้รับงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์และก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2515 ดำเนินการจัดแสดงแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2515
ต่อมา พ.ศ. 2535 กรมศิลปากรมีนโยบายที่จะพัฒนาและปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานและห้องประชุมเป็นเงิน 3,000,000.- บาท และ พ.ศ. 2536 จัดสรรงบประมาณ 985,300.- บาท จัดซื้อวัสดุและครุภัณฑ์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดแสดงนิทรรศการถาวรภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนในท้องถิ่นตามแนวทางการพัฒนากิจการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมัยใหม่ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของกรมศิลปากร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น จึงนับเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญอีกแห่งหนึ่งในท้องถิ่นสำหรับผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรื่องราวทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมเพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมให้ยังคงอยู่ต่อไป
วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๖.๔๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ทอดพระเนตรโบราณสถาน พร้อมเสวยพระกระยาหารค่ำและทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์จากกรมศิลปากร ณ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี
ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ และจะเสด็จฯ ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทอดพระเนตรโบราณสถาน พร้อมเสวยพระกระยาหารค่ำและทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์ นั้น
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้เตรียมความพร้อมในการรับเสด็จฯ โดยหัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี จะถวายการนำชม ส่วนการแสดงนาฏศิลป์ทางสำนักการสังคีต จะจัดแสดงระบำโบราณคดี ๒ ชุด ได้แก่ ชุด ระบำศรีชัยสิงห์ และชุดระบำทวารวดี ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากรได้เตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ เรียบร้อยแล้ว
อบรมผู้ใช้งานระบบสัมมนาออนไลน์ ในวันที่ 26 มีนาคม 2556
ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 โดยเจ้าหน้าที่บริษัท เอ็มเวิร์ค กรุ๊ป จำกัด
สถานที่ : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ
ติดต่อ : เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ 02-2222222
โคลงกวีโบราณ เป็นหนังสือประชุมโคลงกวีโบราณที่แต่งขึ้นตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และเป็นที่ยอมรับนับถือกันในหมู่กวีแต่ครั้งโบราณว่าเป็นโคลงกวีชั้นดี โคลงโบราณที่รวบรวมพิมพ์ไว้ในเล่มนี้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวว่า เข้าใจว่าพระยาตรังรวบรวมถวายกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ เมื่อครั้งกลับเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ...
ชื่อผู้แต่ง อำไพ นิยมาคม
ชื่อเรื่อง จำเรียงถ้อยร้อยคำอันล้ำหวาน
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ส่งเสริมอาชีพ
ปีที่พิมพ์ 2509 จำนวน 25 หน้า
หมายเหตุ หนังสือที่ระลึกงานศพ น.ส.อำไพ นิยมาคม
หนังสือที่ระลึกงานศพเล่มนี้ เป็นการรวบรวมคำประพันธ์ร้อยกรองสดุดีพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถประกอบด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ที่ น.ส.อำไพ นิยมาคม สะสมเอาไว้หลายอริยบท
หมวดหมู่ นิทานพื้นเมืองภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง นิทานพื้นเมือง นิทาน -- ไทยประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 46 หน้า : กว้าง 67.5 ซม. ยาว 60 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
สาระสังเขป : เนื่อเรื่องแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนต้นเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา อีกตอนว่าด้วยพระราชวังหลวงผู้แต่ง : โบราณราชธานินทร์, พระยาโรงพิมพ์ : โสภณพิพรรฒธนากรปีที่พิมพ์ : 2469ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.32บ.1945จบเลขหมู่ : 913.593 อ914บ
เลขทะเบียน : นพ.บ.26/11ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 54 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 13 (138-151) ผูก 10หัวเรื่อง : ธรรมบท --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.46/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4.6 x 51.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 28 (282-294) ผูก 6หัวเรื่อง : ธรรมบท --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม