ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,823 รายการ

ชื่อเรื่อง : จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนิรเลียบมณฑลฝ่ายเหนือพระพุทธศักราช 2469 ชื่อผู้แต่ง : -ปีที่พิมพ์ : 2474 สถานที่พิมพ์ :-สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรณธนากร จำนวนหน้า : 542 หน้า สาระสังเขป : จดหมายเหตุรวบรวมเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ และมณฑลพายัพ เมื่อปี ๒๔๖๙ ทั้งเหตุการณ์เตรียมการก่อนเสด็จ และพฤติการเวลาเสด็จ


          ตู้และหีบพระธรรม เป็นเครื่องใช้สอยจำพวกหนึ่ง ที่สร้างขึ้นอุทิศไว้ในพระพุทธศาสนา มีรูปทรง และประโยชน์ใช้สอยแตกต่างกันไปเป็นหลายประเภท ตามวิถีของพระสงฆ์สาวก ซึ่งเป็นผู้ศึกษาและเผยแผ่พระธรรม ภายในวัดวาอารามต่าง ๆ จึงมีหอพระไตรปิฎก เก็บรักษาพระธรรม คัมภีร์ ใส่ในตู้หรือหีบพระธรรม รักษาไว้เป็นส่วนของวัด และใช้ในพิธีกรรมอันปฏิบัติอยู่หมู่สงฆ์ รวมถึงประเพณี พิธีกรรมอันเนื่องกับฆราวาส จำแนกได้เป็นหลายประเภท เช่น ตู้พระธรรม ตู้พระไตรปิฎก หีบพระธรรม หีบหนังสือสวด หีบหนังสือเทศน์ เป็นต้น ------------------------------------------------------เรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ------------------------------------------------------


     ต้นไม้แก้วมีฐานเป็นชามอยู่ในครอบแก้วสูง ๕๑ เซนติเมตร       เป็นเครื่องแก้วฝีมือช่างไทย ฝีพระหัตถ์หม่อมเจ้าดำรง ปราโมช (ท่านปั๋ง) ทรงทำถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ในรัชกาลที่ ๖ ปัจจุบันจัดแสดงในพระที่นั่งวสันตพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร      ราวปลายรัชกาลที่ ๔ - ต้นรัชกาลที่ ๕ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนวรจักรธรานุภาพ (ต้นราชสกุลปราโมช) ซึ่งกำกับกรมช่างหุงกระจก ทรงทดลองวิธีการหุงกระจกแบบใหม่ๆ จนสามารถทำแก้วสีต่าง ๆ ได้ และทรงทำเป็นรูปดอกไม้ผลไม้ที่มีความงามไม่แพ้ฝีมือช่างตะวันตก สำหรับหม่อมเจ้าดำรง ปราโมชทรงเป็นโปลิโอทำให้ท่านทรงเดินไม่ได้แต่ทรงพระเยาว์ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงต้องประทับอยู่กับเสด็จพ่อท่านตลอดเวลาที่ทรงงานช่างต่างๆ หม่อมเจ้าดำรงจึงได้วิชาการช่างที่ต้องใช้ฝีมือจากเสด็จกรมขุนวรจักรธรานุภาพมากที่สุด นอกจากการเป่าแก้วแล้ว ท่านฝีมือมือในการกลึงตลับงาช้างเป็นรูปต่างๆ ด้วยฝีมือในการช่างนี้เองหม่อมเจ้าดำรง ปราโมช จึงได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาเงิน (เข็มศิลปวิทยา) เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๒      สำหรับท่านที่สนใจต้นไม้แก้วฝีมือช่างไทย ยังสามารถชมต้นไม้แก้วใหญ่ซึ่งเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยป้ายระบุว่าเป็นเครื่องประดับพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และอีกคู่หนึ่งของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีขนาดเล็กกว่า ปัจจุบันจัดแสดงในหอสมุดดำรงราชานุภาพ ถนนหลานหลวง





          ถนนเจริญกรุง นับเป็นถนนสายแรกของกรุงเทพฯ ซึ่งก่อสร้างเพื่อใช้ในการสัญจรภายในเขต ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่าง พ.ศ.๒๔๐๔ – ๒๔๐๗ มีนายเฮนรี อลาบาสเตอร์ เป็นผู้สำรวจและเขียนแบบถนน เจ้าพระยาทบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กองควบคุมการก่อสร้างถนนเจริญกรุงช่วงคูเมืองตอนในถึงถนนตก เจ้าพระยายมราช(ครุฑ) เป็นแม่กองในการก่อสร้างถนนเจริญกรุงตอนใน ระหว่างวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามถึงสะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็กบน)           ถนนเจริญกรุงมีระยะความยาวของเส้นทางเริ่มตั้งแต่สนามไชยถึงถนนตก ยาว ๘,๕๗๕ เมตร ถนนสายดังกล่าวเป็นที่รู้จักในชื่อสามัญว่า “ถนนใหม่(New Road)” ในพระราชปรารถเรื่องถนนเจริญกรุง ในรัชชกาลที่ ๔* กล่าวถึงว่า “...ชาวต่างประเทศเข้าชื่อกันขอให้ทำขึ้น เพื่อจะใช้ม้า ใช้รถให้สบาย ให้ถูกลมเย็นเส้นสายเหยียดยืดสบายดี...” โดยสร้างเป็นถนนถมดินและทรายอัดแน่น ปูพื้นผิวถนนด้วยอิฐ ผิวการจราจรแบ่งเป็นสองแนว ครั้นเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดใช้งานเมื่อพ.ศ.๒๔๐๗ กลับปรากฏว่า “...คนใช้ม้าทั้งไทย ทั้งชาวนอกประเทศกี่คน ใช้รถอยู่กี่เล่ม ใช้ก็ไม่เต็มสนน ใช้อยู่แต่ข้างหนึ่ง ก็ส่วนสนนอีกข้างหนึ่ง ก็ทิ้งตั้งเปล่าอยู่ ไม่มีใครเดินม้าเดินรถ เดินเท้า...ครึ่งหนึ่งของสนน เพราะไม่มีคนเดิน คนใช้ก็ยับไปเสียก่อน หากว่าปีนี้ ไม่มีฝน ถ้าฝนชุกก็เห็นจะยับไปมาก ฤาหญ้าก็จะขึ้นรกอยู่ค่างหนทาง...”           ความกังวลพระทัยนั้น เป็นผลต่อมาเมื่อถนนเจริญกรุงชำรุดลง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศแผ่พระราชกุศลซ่อมแซมถนน ต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชสำนักฝ่ายหน้า ฝ่ายในส่วนพระบรมมหาราชวังและพระราชวังบวรสถานมงคล ที่ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดในจำนวนปีมะเส็งนพศกแบริจากทรัพย์นั้นเพื่อการซ่อมแซมถนนทั่วพระนคร          ต่อมาเมื่อบ้านเมืองมีความเจริญมากขึ้น ถนนเจริญกรุงจึงเป็นเส้นทางสำคัญสายหนึ่งที่เชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนในออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยในสมัยหลังได้มีการขยายผิวการจราจรและเทคอนกรีตและลาดยางพื้นผิวการจราจรเพื่อการงานเป็นเส้นทางคมนาคมสืบมาถึงปัจจุบัน ถนนเจริญกรุง ค.ศ. 1896ถนนเจริญกรุง พ.ศ. ๒๔๐๗-----------------------------------------------------------------------เรียบเรียง : เมธินี จิระวัฒนา นักโบราณคดี ชำนาญการ กองโบราณคดี -----------------------------------------------------------------------*อ้างอิงจาก กรมศิลปากร. ทำเนียบนามภาค ๔ ถนนในจังหวัดพระนครและธนบุรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ตีพิมพ์พระราชทานในงานเมรุ มหาอำอาตย์นายก เจ้าพระยายมราช(ปั้น สุขุม) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๒ ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส (พระนคร : โรงพิมพ์บำรุงธรรม, ๒๔๘๒) หน้า ๖๓ – ๖๖)



พระพิมพ์ดินเผาภาพพระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม พบจากเจดีย์หมายเลข ๙ เมืองโบราณอู่ทอง จัดแสดง ณ ห้องอู่ทองศรีทวารวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง          พระพิมพ์ดินเผาขนาด กว้าง ๖ เซนติเมตร สูง ๙ เซนติเมตร ภาพพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มวงโค้ง พระพักตร์กลม พระกรรณยาว มีประภามณฑลรอบพระเศียร ครองจีวรห่มคลุม จีวรเรียบไม่มีริ้วบางแนบพระวรกาย ปรากฏขอบจีวรบริเวณพระศอ จีวรพาดผ่านข้อพระกรทั้งสองข้าง แล้วทิ้งชายลงเป็นวงโค้งเบื้องหน้า ขอบสบงและชายจีวรยาวถึงข้อพระบาท พระกรทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระแสดงวิตรรกะมุทรา (ปางแสดงธรรม) ยืนในท่าสมภังค์ (ยืนตรง) บนฐานกลมประดับด้วยกลีบบัว ซุ้มด้านในประดับด้วยเสากลม ด้านนอกประดับด้วยเสาสี่เหลี่ยม ปลายกรอบซุ้มมีการตกแต่งลวดลาย ส่วนฐานยกเก็จคล้ายกับรูปแบบที่พบบนฐานของสถาปัตยกรรมทวารวดี          สุนทรียภาพโดยรวมของพระพิมพ์องค์นี้ ได้แก่ การครองจีวรห่มคลุม จีวรเรียบบางแนบพระวรกาย การยืนในท่าสมภังค์ (ยืนตรง) และแสดงวิตรรกะมุทราสองพระหัตถ์ (ปางแสดงธรรม) เป็นรูปแบบเฉพาะที่นิยมในพระพุทธรูปยืนสมัยทวารวดี ซึ่งพบทั้งพระพุทธรูปและพระพิมพ์ตามเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดี ส่วนลักษณะฐานพระพุทธรูปที่มีการยกเก็จ สันนิษฐานว่ารับอิทธิพลมาจากส่วนฐานยกเก็จของพระพุทธรูปอินเดียแบบปาละ และอาจมีความเกี่ยวข้องกับซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปที่ประดับอยู่บนผนังของสถาปัตยกรรม ประเภทเจดีย์และวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี ก็เป็นได้ จึงกำหนดอายุพระพิมพ์องค์นี้ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ – ๑๕ หรือประมาณ ๑,๑๐๐ – ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว          จากการขุดแต่งโบราณสถานหมายเลข ๙ เมืองโบราณอู่ทอง ยังมีการค้นพบพระพิมพ์ดินเผาซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างจากแม่พิมพ์รูปแบบเดียวกัน แต่มีสภาพไม่สมบูรณ์อีกจำนวนหนึ่ง พระพิมพ์เหล่านี้น่าจะสร้างขึ้นตามคติความเชื่อเรื่องการสร้างพระพิมพ์จำนวนมากเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา หรือเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามคติความเชื่อเรื่องการสร้างบุญกุศลก็เป็นได้-------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง-------------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง เชษฐ์ ติงสัญชลี. ศิลปะไทย ภายใต้แรงบันดาลใจจากศิลปะอินเดียแบบปาละ. นนทบุรี : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด, ๒๕๕๘. ธนกฤต ลออสุวรรณ. “การศึกษาคติความเชื่อของชุมชนโบราณสมัยทวารวดีในลุ่มแม่น้ำแม่กลองและท่า จีน: กรณีศึกษาจากพระพิมพ์ดินเผา”. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา โบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๖.


ชื่อเรื่อง                                อุณฺหิสวิชย (อุณหิสวิไชย) สพ.บ.                                  241/1ขประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           20 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 58 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           ชาดก                                           เทศน์มหาชาติ                                           คาถาพัน บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                     นารายณ์สิบปาง  ปางที่ 7ผู้แต่ง                       พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   วรรณกรรม วรรณคดีเลขหมู่                      895.9115สถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์พานิชกิจปีที่พิมพ์                    2496ลักษณะวัสดุ               210 หน้า หัวเรื่อง                     กวีนิพนธ์ไทยภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกนารายณ์สิบปาง เล่มนี้กล่าวถึงปางที่ 7 รามจันทราวตาร       


ชื่อเรื่อง                                สตฺตปฺปกรณาภธมฺม (สังคิณี-ยมก) สพ.บ.                                  375/6ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           72 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                 ธรรมเทศนา บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทย เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคาต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี




สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)  ชบ.บ.38/1-4  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ปญฺจพุทฺธา (ปญฺจพุทฺธา)  ชบ.บ.76/1-1ก  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สงฺคีติกถา (ปถม-ปญฺจมสงฺคายนา)  ชบ.บ.101/1-1  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


black ribbon.