...

19 ธันวาคม วันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
19 ธันวาคม วันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
 
     พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระประวัติ  ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม ๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ นับเป็นพระองค์แรกที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวง
 
     การศึกษา ทรงเข้าเป็นนักเรียนในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เมื่อมีพระชันษาได้ ๑๓ พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ต่อจากนั้นทรงศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทหารเรือ โรงเรียนปืนใหญ่ และโรงเรียนตอร์ปิโด จนได้เลื่อนยศเป็นเรือเอก รวมเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ในราชนาวีอังกฤษ ๖ ปีเศษ

     เมื่อทรงดำรงตำแหน่ง “เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ” ทรงแก้ไข ปรับปรุงการศึกษาระเบียบการในโรงเรียนนายเรือทุกอย่าง ทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายวิชาการ ให้รัดกุมทัดเทียมอารยประเทศ พระองค์ทรงพยายามทุกวิถีทางที่จะปรับปรุงกิจการด้านนี้ให้ก้าวหน้า จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๕ ขอพระราชทานที่ เพื่อตั้งเป็นโรงเรียนนายเรือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินบริเวณพระราชวังเดิมให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๔๙ ทำให้กิจการทหารเรือมีรากฐานมั่งคงนับแต่นั้น และกองทัพเรือได้ยึดถือเอาวันดังกล่าวของทุกปีเป็นวัน “กองทัพเรือ”

     ด้านการแพทย์แผนโบราณ ในขณะที่เสด็จในกรมฯ ได้ทรงออกจากประจำการชั่วคราว ระหว่างปี ๒๔๕๔ – ๒๔๕๙ ทรงเขียนตำรายาแผนโบราณลงในสมุดข่อยด้วย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เองโดยทรงตั้งชื่อตำรายาเล่มนี้ว่า “พระคัมภีร์อติสาระวรรค โบราณะกรรม และปัจจุบันนะกรรม” ซึ่งสมุดเล่มดังกล่าวปัจจุบันได้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือสมุทรปราการ ด้านการรักษาพยาบาล พระองค์ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่คนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนจีน จนกระทั่งชาวจีนย่านสำเพ็งซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณเรียกพระองค์ท่านว่า “เตี่ย” ซึ่งต่อมาทหารเรือได้เรียกพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” ขณะที่คนไข้ชาวไทยมักเรียกพระองค์ว่า “หมอพร”

     หลังจากทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือได้ไม่นาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้กราบถวายบังคมลาเพื่อเสด็จออกไปรักษาพระองค์ ณ มณฑลสุราษฎร์ เป็นเวลา ๑ เดือน เนื่องจากประชวรด้วยโรคประจำพระองค์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้ประทับพักรักษาพระองค์อยู่ที่ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร มณฑลสุราษฎร์ ระหว่างนั้นทรงประชวรด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่ พระอาการได้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ เวลา ๑๑ นาฬิกา ๔๐ นาที สิริพระชันษา ๔๒ พรรษา ๕ เดือน มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง

     ชาวชุมพรมีความเชื่อมั่นว่า พระวิญญาณของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงสถิตอยู่ ณ จังหวัดชุมพร ยามใดที่จังหวัดชุมพรประสบภัยพิบัติ พระวิญญาณของพระองค์จะทรงปกป้องคุ้มครองและขจัดปัดเป่าให้ผ่านพ้นไป พระองค์ทรงเป็นปูชนียบุคคลที่ชาวชุมพรเคารพสักการะ เป็นมิ่งขวัญกำลังใจของชาวชุมพร และพระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับชายทะเล จะมีศาลและอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เป็นจำนวนมาก 

(จำนวนผู้เข้าชม 67 ครั้ง)