ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,827 รายการ

วันอังคารที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๔  เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๓๐ น. สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๔ ส่วนในช่วงบ่าย เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม "เสวนารังสรรค์" หัวข้อพระญามังรายหลวง : ชีวิตและผลาน (วาระ ๗๒๕ ปีการสถาปนานครเชียงใหม่) โดยมีคุณภูเดช แสนสา นักประวัติศาสตร์ล้านนา บรรยายในหัวข้อ พระราชประวัติของพระญามังราย จากหิรัญนครเงินยางสู่นครพิงค์ คุณไกรสิน อุ่นใจจินต์ อดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่  บรรยายในหัวข้อ ผลงานของพระญามังราย จากเวียงกุมกามถึงเวียงแก้ว และดร.เพ็ญสุภา สุขคตะ ที่ปรึกษาสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการรายการเสวนา ณ ห้องประชุม หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่




28 ธันวาคม วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วันคล้ายวันปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310





          วันจันทร์ที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๓๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในการตรวจงานจ้างงานโครงการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ในการนี้ นายเจษฏา ชีวะวิชวาลกุล ผู้อำนวยการสำนักสถาปัตยกรรม นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายสมพจน์ สุขาบูลย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ร่วมประชุมในครั้งนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารเครื่องทองอยุธยา กำหนดให้มีเนื้อหาเน้นเรื่องเครื่องทองอยุธยา รวมถึงเครื่องทองกรุวัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ และเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ มาเป็นสื่อจัดแสดงร่วมกับสื่อจัดแสดงสมัยใหม่เป็นการจัดแสดงนิทรรศการถาวรที่ทันสมัยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น




          วันเสาร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ของขวัญปีใหม่ จากใจกระทรวงวัฒนธรรม” โดยมีนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร และประชาชนเข้าร่วมงาน           เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๕ กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดโครงการ “ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยกรมศิลปากร ร่วมจัดกิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ เชิงสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ “ของขวัญปีใหม่ จากใจกระทรวงวัฒนธรรม” ดังนี้           ๑. กิจกรรมสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน : นบพระนำพร บวรสถาน พุทธปฏิมามงคล ๒๕๖๕ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๖.๐๐ น. โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เป็นประธาน และอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณอีก ๙ องค์ ซึ่งมีตำนาน การสร้างและนามอันเป็นสิริมงคล มาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา ได้แก่ พระพุทธรูปปางประทานพร พระไภษัชยคุรุ พระอมิตายุส พระพุทธรูปปางฉันสมอ พระหายโศก พระพุทธรูปปางห้ามญาติ (ปางประทานอภัย) พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร พระชัยเมืองนครราชสีมา และพระชัย เพื่อประทานพรให้เกิดสวัสดิมงคลในการเริ่มต้นศักราชใหม่           ๒. การแสดงดนตรีสำหรับประชาชน “เหมันต์บันเทิง รื่นเริงสังคีต” ณ สังคีตศาลา เวทีกลางแจ้ง บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตั้งแต่เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๙.๓๐ น. ๓. ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ (Night at the Museum) เปิดให้เข้าชมความงดงามของอาคารโบราณสถาน พระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสมนต์เสน่ห์สถาปัตยกรรมวังหน้า และความเป็นมาแห่งอารยธรรมไทยในช่วงเวลาค่ำ โดยมีวิทยากรนำชมการจัดแสดงนิทรรศการในพระที่นั่งต่างๆ ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ – ๒๐.๐๐ น.          นอกจากนี้ กรมศิลปากรยังเปิดให้ประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๕          กรมศิลปากร ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมและเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม พร้อมทั้ง ของความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) อย่างเคร่งครัด


          กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต ขอเชิญชมการแสดง “เหมันต์บันเทิง รื่นเริงสังคีต” โครงการ ดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๕ พบกับการบรรเลงดนตรีและการแสดงอันหลากหลาย โดยศิลปินของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และภาคเอกชน ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา ๑๗.๓๐ น. - ๑๙.๓๐ น. ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ณ สังคีตศาลา เวทีกลางแจ้ง บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร บัตรเข้าชมการแสดงคนละ ๒๐ บาท (วันที่ ๒๕ – ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ ชมฟรี)          กรมศิลปากรจัดโครงการดนตรีสำหรับประชาชนเพื่อนำเสนอความบันเทิงและความรู้สู่ประชาชน มาเป็นเวลาถึง ๖๕ ปี โดยมีรายการแสดงที่หลากหลายทั้งแบบมาตรฐาน แบบพื้นเมือง และแบบสากล สลับสับ เปลี่ยนกันไป ซึ่งได้เปิดการแสดงปีที่ ๖๕ “เหมันต์บันเทิง รื่นเริงสังคีต” ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ประกอบด้วย การรำอวยพร เปิดสังคีตศาลา ปีที่ ๖๕ การแสดงชุด สรรพศิลป์ถิ่นสยาม และการแสดงเบิกโรง ชุดปัญจเทพารักษ์หลักเมือง และจะจัดการแสดงทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทั้งการแสดงโขน ละคร การบรรเลงดนตรีไทย ดนตรีสากล ศิลปะการแสดงประเภทต่างๆ ซึ่งล้วนแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและของชาติ อันควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ เช่น การแสดงวิพิธทัศนา “ชมละครพระบวรราชนิพนธ์” รำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดกุเวรอาธรรม์อาฆาต การแสดงละครพันทาง เรื่อง ราชาธิราช การแสดงลิเก คณะกรณ์กัญจนรัตน์ การแสดงละครชาตรี คณะจงกลโปร่งน้ำใจ การบรรเลงขับร้องดนตรีไทย “เชิดชู บรมครู เพลงครูไทย” การบรรเลงขับร้องดนตรีสากล ชุดชมวังฟังเพลงบรรเลงร้อง ฯลฯ          ผู้สนใจสามารถเข้าชมการแสดงได้ ณ สังคีตศาลา เวทีกลางแจ้ง บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา ๑๗.๓๐ น. - ๑๙.๓๐ น. ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ บัตรเข้าชมการแสดงคนละ ๒๐ บาท ติดตามรายละเอียดได้ทาง เฟสบุ๊ก สำนักการสังคีต กรมศิลปากร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักการสังคีต โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒ และ ๐ ๒๒๒๑ ๐๑๗๑ ในวันและเวลาราชการ


          เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๖.๓๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร ร่วมสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๖๕ เป็นปฐมฤกษ์ ณ พระที่นั่ง พุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรม พิเศษ สักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน : นบพระนำพร บวรสถานพุทธปฏิมามงคล ๒๕๖๕ โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่ง พุทไธสวรรย์ เป็นประธาน พร้อมทั้งอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณอีก ๙ องค์ ซึ่งมีตำนานการสร้างและนามอัน เป็นสิริมงคล มาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา เพื่ออำนวยความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลในวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ รวมทั้งจัดนิทรรศการพิเศษขนาดเล็กให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาและรูปแบบทางศิลปกรรม ของพระพุทธรูปทั้ง ๑๐ องค์ ประกอบด้วย          พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะสุโขทัย - ล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๑           พระพุทธรูปปางประทานพร ศิลปะอินเดีย สมัยราชวงศ์ปาละ พุทธศตวรรษที่ ๑๔           พระไภษัชยคุรุ ศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ ๑๘           พระอมิตายุส ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๑           พระพุทธรูปปางฉันสมอ ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔           พระหายโศก ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๑           พระพุทธรูปปางห้ามญาติ (ปางประทานอภัย) ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๒๐           พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๒           พระชัยเมืองนครราชสีมา ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๒ - ๒๓           พระชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔          ขอเชิญพุทธศาสนิกชนสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน : นบพระนำพร บวร สถานพุทธปฏิมามงคล ๒๕๖๕ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันเสาร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ          ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน เจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา บริการเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ ที่มีการสัมผัสบ่อย พร้อมทั้งขอความร่วมมือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA และ Covid Free Setting



วันจันทร์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ


black ribbon.