ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ


องค์ความรู้ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “น้ำตกเขาสอยดาว” น้ำตกเขาสอยดาว ขื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมีความสูงมากจึงจะสอยดาวได้ น้ำตกแห่งนี้มีจำนวนชั้นน้ำตกมากที่สุด นับความสูงแล้วจะมีความสูงมากที่สุดในจำนวนน้ำตกทุกแห่งของจันทบุรี น้ำตกเขาสอยดาว อยู่ในเทือกเขาสอยดาวเหนือ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีไปตามเส้นทางถนนสายจันทบุรี – สระแก้ว 70 กิโลเมตร แยกเข้าทางซ้ายมือระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 62-63 เข้าไปอีก 3 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยาน เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินขึ้นไปชมน้ำตก จากที่ทำการอุทยาน เดินเท้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงริมลำธารน้ำตก สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอมตลอดทาง บางตอนต้องปีนป่ายไปตามโขดและผาหิน ตัวน้ำตกเขาสอยดาวมี 16 ชั้น ต้องเดินตามทางที่เขาจัดไว้ให้ ชั้นที่สวยที่สุด คือ ชั้นที่ 9 และ 10 เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากหน้าผามหึมา แล้วทิ้งสายลงมางดงามเบื้องล่างที่เรียกว่า วังพญางิ้วดำ จนได้ฉายาว่า “น้ำตกสอยดาว เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของภาคตะวันออก” นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะค้างแรมสามารถกางเต็นท์ได้ แต่ไม่มีบ้านพักรับรอง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาเดินชมน้ำตกชั้นล่างๆ นั่งกินส้มตำ เดินดูนกดูไม้ หรือปูเสื่อนอนเล่นกัน การท่องเที่ยวในพื้นที่นี้จะต้องเข้าไปศึกษาธรรมชาติ เพราะที่นี่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่เหมาะมากคือการดูผีเสื้อตามลำธารที่มีหลากหลายพันธุ์สวยๆงามๆ อ้างอิง : ที่ระลึกในพิธีเปิดหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี : อัมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ. 2533. มัทธิว เจ. (2542, เมษายน). “เที่ยวป่าจันท์.” Trips Magazine. ปีที่ 3 ฉบับที่ 30 : หน้า 85. ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี





องค์ความรู้ สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี เรื่อง หอไตรหนองขุหลุ ผู้เรียบเรียง : นางสาวนิตยา ลาภมาก นักศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม



 ท้าววสวัตตีมาร และเหล่าบริวาร จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติ ตอน"มารผจญ" ผนังด้านหลังองค์พระประธาน ภายในอุโบสถ วัดบางขนุน ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี



            กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญผู้สนใจร่วมโครงการนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2567 เรื่อง เอกสารล้ำค่าจารึกสยาม "กิจกรรม : อวดของสะสม วิทยากรโดย นายวีระ  โรจน์พจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  นางสาวพิมพ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจริญ นักอักษรศาสตร์คุณวุฒิ กรมศิลปากร ดำเนินรายการโดย นายทัตพล  พูลสุวรรณ นักอักษรศาสตร์ชำนาญการ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ในวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2567 ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานตาม QR Code นี้ หรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ https://forms.gle/UqQpFEy5sRvFzFtK9 รับจำนวนจำกัด 110 ท่าน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้ หรือจนกว่าจะเต็ม  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2280 9828-32 ต่อ 112-113


ชื่อเรื่อง                                ธรรมดาสอนโลก (ธรรมดาสอนโลก)สพ.บ.                                  472/1ประเภทวัสดุมีเดีย                   คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                              พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                          30 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                พุทธศาสนา                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ลานดิบ ไม่มีไม้ประกับ ได้รับบริจาคมาจากวัดด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี



            นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เป็นโครงการต่อเนื่อง 5 ระยะ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2568 โดยซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารจัดแสดงและนิทรรศการถาวรให้มีความทันสมัย ด้วยเทคนิคการจัดแสดงสมัยใหม่ที่น่าสนใจดึงดูดผู้เข้าชม และปรับปรุงข้อมูลการจัดแสดงให้เป็นปัจจุบัน มีมาตรฐานระดับสากล นำเสนอเรื่องราวของเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ              นิทรรศการภายในนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทองและพื้นที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ กระทั่งเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์ในประเทศไทย จัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมที่มีคุณค่าทางวิชาการจำนวนมาก และเก็บรักษาโบราณวัตถุวัฒนธรรมทวารวดี  ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรมศิลปากร หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือ การจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยม ธรรมจักร แท่น และเสา พบจากการขุดแต่งเจดีย์หมายเลข 11 เมืองโบราณอู่ทอง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 13 หรือประมาณ 1,300 – 1,400 ปีมาแล้ว ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงการประดิษฐานธรรมจักรที่สมบูรณ์ที่สุดที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ทำให้สันนิษฐานได้ว่าในสมัยทวารวดี มีการสร้างธรรมจักรประดิษฐานบนเสา ตั้งอยู่ด้านหน้าศาสนสถาน ทั้งนี้ ห้องจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ประกอบด้วย             1. ทวารวดี ปฐมบทแห่งประวัติศาสตร์ไทย ห้องวีดีทัศน์บรรยายสรุปเรื่องเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดี กล่าวถึงการติดต่อกับดินแดนภายนอก ทำให้เกิดการรับอารยธรรมจากอินเดียเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การนับถือศาสนา การปกครองโดยระบบกษัตริย์ การสร้างงานศิลปกรรม และการใช้ตัวอักษรและภาษา              2. เมืองโบราณอู่ทอง : ศูนย์กลางแรกเริ่มของวัฒนธรรมทวารวดี จุดเชื่อมโยงเส้นทางการค้าในดินแดนสุวรรณภูมิ โบราณวัตถุสำคัญได้แก่ เหรียญโรมันจักรพรรดิวิคโตรินุส ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจากตะวันออกกลางประดับบนปูนปั้นสมัยทวารวดี เหรียญอาหรับ เครื่องถ้วยจีน และปูนปั้นรูปใบหน้าพ่อค้าชาวต่างชาติ และมีสื่อวีดีทัศน์ประกอบโมเดลภูมิประเทศ บอกเล่าเรื่องราวของเมืองโบราณอู่ทอง              3. โบราณคดีเมืองอู่ทอง: พ.ศ.2446 - ปัจจุบัน ศตวรรษสำคัญงานโบราณคดีในประเทศไทยจัดแสดงเรื่องงานโบราณคดีที่เมืองโบราณอู่ทอง ตั้งแต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจราชการเมืองอู่ทองใน พ.ศ.2446 จนถึงการดำเนินงานทางโบราณคดีโดยกรมศิลปากรในปัจจุบัน และจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดแต่งโบราณสถานเมืองโบราณอู่ทองซึ่งมีทั้งเจดีย์และวิหารเนื่องในศาสนาพุทธ และศาสนสถานเนื่องในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น พระพุทธรูปปางแสดงธรรม สมัยทวารวดี จากเจดีย์หมายเลข 11                4. เจดีย์ วิหาร โบราณสถานทวารวดี: สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธา ปฐมบทของพุทธศาสนาในดินแดนไทย จัดแสดงสถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยแรกของประเทศไทย โบราณวัตถุสำคัญ เช่น อิฐฤกษ์ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมวางฤกษ์เมื่อเริ่มสร้างศาสนสถาน และประติมากรรมปูนปั้นและดินเผาประดับศาสนสถาน               5. ลูกปัดและเครื่องประดับทองคำ: วัตถุล้ำค่า ความงามที่สะท้อนความรุ่งเรืองของเมืองโบราณอู่ทอง จัดแสดงลูกปัดและเครื่องประดับ ซึ่งพบบริเวณเมืองโบราณอู่ทองเป็นจำนวนมาก โบราณวัตถุสำคัญ เช่น ลูกปัดหินคาร์เนเลียนและอาเกต ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากอินเดีย เครื่องประดับทองคำ สมัยทวารวดี และแผ่นดินเผารูปบุคคลฟ้อนรำ แสดงถึงการสวมใส่เครื่องประดับของผู้คนในสมัยทวารวดี             6. ศาสนาและความเชื่อ: จากพุทธภูมิสู่สุวรรณภูมิ อรุณรุ่งแห่งยุคประวัติศาสตร์ไทย จัดแสดงเรื่องศาสนาและความเชื่อที่เมืองโบราณอู่ทอง สันนิษฐานว่ามีการนับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาทเป็นหลัก โดยมีการนับถือศาสนาพุทธแบบมหายานร่วมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการนับถือศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และพบโบราณวัตถุที่แสดงถึงความเชื่อท้องถิ่นที่พบเฉพาะในวัฒนธรรมทวารวดี ที่ยังไม่สามารถสรุปคติในการสร้างอย่างแน่ชัด โบราณวัตถุสำคัญ ได้แก่ แผ่นดินเผารูปพระภิกษุอุ้มบาตร จารึกคาถาเย ธฺมมา ซึ่งเป็นคาถาหัวใจสำคัญของศาสนาพุทธ พระพิมพ์ภาพพระสาวกมีจารึก เศียรพระพุทธรูปทองคำ เอกมุขลึงค์ ตุ๊กตารูปคนจูงลิง              พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดให้บริการวันพุธ – อาทิตย์ วันหยุดราชการพิเศษและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท สอบถามเพิ่มเติมโทร 0 3555 1021




black ribbon.