ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,673 รายการ
***บรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
ทำเนียบข้าราชการหัวเมือง รัตนโกสินทรศก 126. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๕๐.
ชื่อเรื่อง ประชุมพงศาวดาร เล่ม 49 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 78 (ต่อ) - 79) ปราบเงี้ยว ตอนที่ 2 จดหมายเหตุวันวลิต (ฉบับสมบูรณ์)ผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ประวัติศาสตร์ทวีปเอเชียเลขหมู่ 959.3057 ป247 ล.49สถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าวปีที่พิมพ์ 2513ลักษณะวัสดุ 276 หน้าหัวเรื่อง ไทย -- ประวัติศาสตร์ -- กรุงรัตนโกสินทร์,รัชกาลที่ 5ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกเนื้อหาภายในประกอบด้วย ในส่วนที่ 1 ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 77 (ต่อ) ว่าด้วยเรื่องปราบเงี้ยว ตอนที่ 2 และในส่วนที่ 2 ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 79 ว่าด้วยเรื่องจดหมายเหตุวันวลิต (ฉบับสมบูรณ์)
ชื่อผู้แต่ง บ๊วย ศิวพฤกษ์
ชื่อเรื่อง โหรประจำบ้าน
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์สยามสปอร์ตพับลิชชิ่ง
ปีที่พิมพ์ 2518 จำนวน 40 หน้า
หมายเหตุ พิมพ์ในงานฌาปนกิจศพ คุณแม่ บ๊วย ศิวพฤกษ์
หนังสือโหรประจำบ้านเป็นงานรวบรวมของคุณบ๊วย ศิวพฤกษ์ จากตำราและคำบอกเล่าจากผู้ที่ท่านนับถือ ส่วนใหญ่เป็นตำราการดูฤกษ์ยามวันยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ วันแต่งงาน วันขึ้นบ้านใหม่
หมวดหมู่ นิทานพื้นเมืองภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง นิทานพื้นเมือง นิทาน -- ไทยประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 32 หน้า : กว้าง 6.5 ซม. ยาว 60 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
สาระสังเขป : บันทึกการจาริกไปอินเดีย-ลังกา ภาคที่สอง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน-วันที่ 30 เมษายน 2508ผู้แต่ง : พระเทพกวี (ประยูร สนฺตงฺกุโร)โรงพิมพ์ : มหามกุฎราชวิทยาลัยปีที่พิมพ์ : 2509ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น. 32 บ. 4835 จบเลขหมู่ : 915.4 พ 328 จ
เตาเผาสังคโลกเป็นอย่างไร?
เตาที่ใช้เผาเครื่องสังคโลกที่พบจากเมืองศรีสัชนาลัยและเมืองสุโขทัยมีอยู่ด้วยกัน ๒ ชนิดคือ เตาประทุน เป็นเตาที่ระบายความร้อนในแนวนอน ลักษณะเตามีรูปร่างรี พื้นเรียบแบน ก่อหลังคาโค้งบรรจบกันคล้ายประทุนเรือ จึงเป็นที่มาของชื่อ “เตาประทุน” มักวางตัวลาดเอียงจากส่วนหน้าขึ้นไปยังส่วนท้ายประมาณ ๑๐ - ๓๐ องศา ส่วนประกอบของเตาประทุนแบ่งเป็น ห้องใส่ไฟ อยู่ส่วนหน้าในระดับต่ำที่สุด ตอนหน้ามีช่องใส่ไฟเจาะเป็นช่องโค้งรูปเกือกม้า ถัดมาเป็น ห้องบรรจุภาชนะ อยู่บริเวณตอนกลางเตา เป็นส่วนที่กว้างที่สุดและลาดเทจากส่วนหน้าเตาไปยังปล่องไฟ บนพื้นมักโรยทรายหนาประมาณ ๑๐ - ๑๕ เซนติเมตร เพื่อใช้ฝังกี๋ท่อสำหรับรองรับภาชนะ และ ปล่องไฟ เป็นส่วนสุดท้ายของเตามีรูปร่างกลม
ส่วนเตาตะกรับเป็นเตาที่ระบายความร้อนในแนวดิ่ง ลักษณะเตามีรูปร่างกลม ส่วนประกอบของเตาตะกรับมีอยู่ ๒ ส่วนคือ ห้องบรรจุภาชนะ อยู่ตอนบนสุด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ เมตร ใช้วางภาชนะที่จะเผาแล้วใช้เศษภาชนะดินเผาวางสุมทับด้านบนอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ความร้อนไหลผ่านกลุ่มภาชนะได้ช้าลงและ ห้องใส่ไฟ เป็นบริเวณใส่เชื้อเพลิงเพื่อให้ความร้อนลอยขึ้นสู่ด้านบนมักมีช่องใส่เชื้อเพลิงยื่นออกมาด้านหน้าเพื่อใส่เชื้อเพลิงได้สะดวกและกันความร้อนในเตาให้ไหลสู่ด้านบนได้มากขึ้น ระหว่างห้องบรรจุภาชนะและปล่องไฟจะมีแผ่นดินเหนียวกลมหนาประมาณ ๑๕ - ๒๐ เซนติเมตร เจาะรูกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง ๕ - ๑๐ เซนติเมตร จำนวนมากคั่นอยู่ เรียกว่า “แผ่นตะกรับ” ทำหน้าที่ให้ความร้อนไหลผ่านจากด้านล่างสู่ห้องบรรจุภาชนะด้านบนมักวางอยู่บนค้ำยันที่ทำจากดินเหนียวอยู่เบื้องล่างภายในพื้นที่ห้องใส่ไฟ
เตาเผาสังคโลกหมายเลข ๖๑ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
เลขทะเบียน : นพ.บ.27/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4.7 x 53 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 14 (152-160) ผูก 3หัวเรื่อง : ธมฺมปาลชาตก (ธรรมบาล) --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.46/13ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 64 หน้า ; 4.6 x 51.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 28 (282-294) ผูก 13หัวเรื่อง : ธรรมบท --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เรือนเครื่องสับ คือ เรือนที่สร้างด้วยไม้จริง โดยการประกอบเครื่องไม้เป็นส่วน ๆ เช่น ทำฝา ทำหน้าจั่วให้เสร็จก่อน แล้วจึงเตรียมโครงสร้างส่วนอื่น ๆ เช่น เสา รอด พื้น โครงหลังคา เสร็จแล้วจึงนำส่วนประกอบทั้งหมดเหล่านั้นมาประกอบกันเป็นเรือน . เรือนเครื่องสับ หรือเรือนหลังคาจั่ว เป็นเรือนใต้ถุนสูง พื้นยกสูงจนเดินรอดได้ ใช้เป็นที่พักผ่อน หรือเลี้ยงสัตว์ เก็บเครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตร ฝาเรือนเป็นไม้จริง ส่วนมากเป็นไม้สัก ทำเป็นแผง มีหลายแบบ เช่น ฝาปะกน หรือฝาปะกนลูกฟัก ฝาสำหรวด ฝามักสอบเข้าเล็กน้อย หน้าต่างเปิดเข้าด้านใน หลังคาจั่วลาดชัน มุงด้วยจาก กระเบื้อง หรือสังกะสี มีไม้ปิดเครื่องมุงด้านสกัดเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียก “ป้านลม” (ปั้นลม) เรือนเครื่องสับมีทั้งแบบที่สร้างเป็นเรือนเดี่ยว ประกอบด้วยเรือนนอน ครัว ระเบียง และชาน หรือสร้างเป็นเรือนหมู่ มีเรือนนอนมากกว่าหนึ่งหลัง มีชานเชื่อมถึงกัน มีเรือนครัว หอนั่ง หรือหอนก เรือนหมู่ เป็นเรือนสำหรับครอบครัวขยาย หรือเรือนคหบดี หรือผู้มีฐานะทางสังคมสูง ปัจจุบัน เรือนไทยภาคกลางแบบดั้งเดิมเหลือน้อย แม้มีการสร้างเรือนไทยสำหรับผู้ต้องการสร้างบ้านใหม่ในสมัยปัจจุบัน แต่รูปแบบนั้นเปลี่ยนไปจากแบบแผนเดิม ภาพจาก รูปตัด เรือนทับขวัญ ที่มา ศาสตราจารย์ น.อ. สมภพ ภิรมย์ ร.น.,ราชบัณฑิต, ๒๕๓๘ *หมายเหตุ ภาพจากการ scan จากหนังสือตัวอักษรจึงไม่ชัด ผู้เรียบเรียงจึงได้เขียนด้วยลายมือทับเพื่อความชัดเจนของตัวอักษร สรุปและเรียบเรียง : นางสาวภัทรา เชาว์ปรัชญากุล ภัณฑารักษ์ชำนาญการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย สุพรรณบุรี สำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ที่มาข้อมูล : รวบรวม เรียบเรียง และสรุปจาก - โครงการจัดทำองค์ความรู้ด้านการสำรวจสถาปัตยกรรมเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน (อาคารเรือนทรงไทย) โดยกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร - บ้านไทยภาคกลาง ศาสตราจารย์ พลเรือตรี สมภพ ภิรมย์ - สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 13 เรื่องที่ 1 เรือนไทย/เรือนไทยภาคกลาง - สืบค้น online www.royin.go.th (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา) “เรือน” หมายเหตุ : เผยแพร่ข้อมูล วันที่ 1 พ.ค. 2563 Facebook Page : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย Thaifarmersnationalmuseum
องค์ความรู้ เรื่อง สถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี ตอนที่ ๕ โบราณสถานที่ตั้งอยู่นอกเมืองโบราณอู่ทอง : เจดีย์หมายเลข ๙ จัดทำข้อมูลโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
โคมคำ. อาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 เหรียญทรงผนวช 2508 มงคลรำลึก-วัดบวรนิเวศ. มติชนสุดสัปดาห์. 37 , (1889) :70 ;28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2559.
ภายในเล่ม เป็นห้วงแห่งโศกาดรูฯ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ผู้เขียนจึงได้นำเสนอเหรียญแห่งประวัติศาสตร์รัชกาลที่ 9 เหรียญล้ำค่าประจำรัชกาล ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเหรียญเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช นั่งขัดสมาธิ ด้านบนพระบรมรูปเขียนคำว่า " ทรงผนวช 2499 "ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเหรียญเป็นรูปพระมหาเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร ขอบเหรียญด้านบน เขียนคำว่า "เสด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองวัดบวรนิเวศ 29 สิงห์ 2508 " ขอบเหรียญด้านล่าง เขียนคำว่า " ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอพระราชบิดา " "เหรียญทรงผนวช "แยกได้เป็น 2 บล็อก คือ บร็อกธรรมดา (บร็อกปกติ) และบร็อกนิยม (มีรอยเว้าที่ขอบเหรียญตรงหูห่วง)
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘นายขจร มุกมีค่า ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา(ประธานตรวจการจ้าง) พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจการจ้างตรวจรับงานบูรณะเสริมความมั่นคงกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนืออุทยานประวัติศาสตร์พิมาย (งวดที่๑)ณ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯ กรมพระยา และ ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. สาส์นสมเด็จ (ภาค 5). พระนคร : กรมศิลปากร, 2498.
หนังสือเรื่องสาส์นสมเด็จ ภาค 5 นี้ เป็นลายพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ กับสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงมีโต้ตอบกันในบั้นปลายแห่งพระชนมชีพเมื่อทรงวางจากภาระทางราชการการเมือง และทรงพักผ่อนอย่างเงียบ ๆ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอทั้งสองพระองค์นี้ เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปในหมู่นักศึกษา โบราณคดี ศิลปและวรรณคดี และการปกครอง สาส์นสมเด็จนี้มีอยู่มากมายด้วยกัน ภาคนี้เป็น ภาค 5