ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ
เลขทะเบียน : นพ.บ.115/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 4.5 x 53 ซ.ม. : ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 65 (204-208) ผูก 3 (2564)หัวเรื่อง : ธรรม 3 ไตร--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.147/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 58 หน้า ; 4 x 51 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 90 (377-391) ผูก 4 (2564)หัวเรื่อง : ธมฺมปปทวณฺณนา ธมฺมปทฎกถา ขุทฺทกนิกายฎฐกถา (ธรรมบท)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.126/1กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 46 หน้า ; 4.5 x 50.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 73 (257-266) ผูก 1 (2564)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์ (8 หมื่น)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. เที่ยวเมืองพระร่วง. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2521. เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วงนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2450 ซึ่งในเวลานั้นยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ได้เสด็จขึ้นไปประพาสเมืองกำแพงเชร เมืองสุโขทัย เมืองสวรรคโลก เมืองอุตรดิตถ์ และเมืองพิษณุโลก ได้ทรงตรวจตราโบราณวัตถุสถานและสอบสวนเรื่องตำนานของเมืองเหล่านั้นซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือเก่ามาทรงพระราชวินิจฉัยชี้แจง
ข สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.15/1-5
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๓ (ประชุมพงศาวดารภาค ๓ และภาค ๔ ตอนต้น) ชื่อผู้แต่ง : -ปีที่พิมพ์ : 2506สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์คุรุสภา จำนวนหน้า : 420 หน้าสาระสังเขป : หนังสือชุดประชุมพงศาวดารเป้นหนังสือที่ได้รวบรวมเรื่องเก่าๆที่มีสาระและคำอธิบายของผู้มีความรู้ในวิชาดังกล่าวไว้โดยละเอียด หนังสือประชุมพงศาวดาร ภาค ๓ นี้ มีพงศาวดาร ๓ เรื่อง คือ พงศาวดารเมืองปัตตานีเรื่องหนึ่ง พงศาวดารเมืองสงขลาเรื่องหนึ่ง ทั้งสองเรื่องนี้ พระยาวิเชียรคิรี ผู้ว่าราชการเมืองสงขลา ได้เรียบเรียงไว้เมื่อยังเป็นพระยาสุนทรารักษ์กับ เริ่องพงศาวดารเชียงใหม่ พระยามหาอำมาตย์ (หรุ่น) แต่เมื่อยังเป็นพระยาศรีสิงหเทพ ได้เรียบเรียงทูลเกล้าฯ ถวายพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เรื่องหนึ่ง
ชื่อเรื่อง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารผู้แต่ง กรมศิลปากร.ครั้งที่พิมพ์ -ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๕ สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ กรมศิลปากรจำนวนหน้า ๔๑๔ หน้า
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เป็นหนังสือประมวลความรู้เกี่ยวกับประเพณีการสืบราชสันตติวงศ์ ตลอดจนพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร นับแต่อดีตกาลสืบมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน พร้อมด้วยภาพประกอบพระราชทาน และ ภาพเกี่ยวกับพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๙ เป็นภาพที่เก็บรักษาอยู่ที่กองโบราณคดี กรมศิลปากร ซึ่งได้อัญเชิญมาตีพิมพ์เพื่อประกอบเรื่องด้วย
ทับหลังชิ้นที่โดดเด่น ชิ้นที่ ๓ ซุ้มประตูรองทิศเหนือด้านใน โคปุระกำแพงแก้ว ของปราสาทสด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว สภาพของทับหลังคงเหลือภาพสลักเกือบสมบูรณ์ โดยสลักเป็นภาพบุคคลที่คงเหลือเฉพาะครึ่งตัวด้านล่างประทับนั่งในท่ามหาราชลีลาสนะ(มหาราชลีลา)เหนือฐานบัวที่ตั้งอยู่บนหน้ากาลซึ่งคล้อยต่ำลงมาจนถึงขอบล่างสุดของทับหลัง หน้ากาลใช้มือทั้งสองจับท่อนพวงมาลัยที่คายออกมา ท่อนพวงมาลัยโค้งขึ้นจนเกือบกึ่งกลางของทับหลัง และตกลงมาที่ปลายทับหลังทั้งสองด้านซึ่งปรากฏรูปสัตว์สันนิษฐานว่าเป็นสิงห์ หันหน้าเข้าหาจุดกึ่งกลางของทับหลัง ตรงกลางของท่อนพวงมาลัยทั้งสองด้านถูกแบ่งครึ่งโดยเฟื่องอุบะที่ด้านบนมีพระนารายณ์ทรงครุฑหรือพระนารายณ์ทรงสุบรรณ ด้านล่างของท่อนพวงมาลัยประดับลายใบไม้ม้วน ด้านบนของท่อนพวงมาลัยประดับลายใบไม้-------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : อุทยานประว้ติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว
มหามกุฎราชสันตติวงศ์ ๒๗ พฤษภาคม ๒๔๐๖ วันประสูติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๖๓ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบัว (ธิดาเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย ณ นคร)) ประสูติเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๔๐๖ มีพระเชษฐา พระเชษฐภคินีและพระอนุชาร่วมเจ้าจอมมารดา ๕ พระองค์ ได้แก่
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมลักษณเลิศ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนศิริธัชสังกาศ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดำรงฤทธิ์
ในรัชกาลที่ ๕ พุทธศักราช ๒๔๓๔ เป็นราชองครักษ์พิเศษ แล้วให้เป็นอัครราชทูตสำหรับประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และโปรตุเกส เสด็จไปประจำ ณ กรุงปารีสในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ครั้นพุทธศักราช ๒๔๓๘ เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ในขณะที่ทรงเป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่านั้น ทรงเป็นผู้แนะนำในที่ประชุมข้าหลวงฯ ให้จัดการเก็บภาษีอากรผลประโยชน์ในหัวเมือง จากเดิมที่มีเจ้าภาษีนายอากรเป็นผู้ผูกขาด มาเป็นของรัฐ ก่อเกิดผลประโยชน์เข้าสู่รัฐบาล ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๔๓๘ ต่อมาพุทธศักราช ๒๔๔๖ เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลปราจีณบุรี และโปรดให้เลื่อนยศทางฝ่ายทหาร ขึ้นเป็นนายพลตรี ถึงรัชกาลที่ ๖ เลื่อนเป็นพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๕ และในบั้นปลายพระชนม์ชีพ ได้ประทานที่ดินอันเป็นวังเดิม ใกล้วัดสุทัศนเทพวราราม ให้สร้างโรงเรียนเพื่ออุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัชกาลที่ ๖ ได้พระราชทานนามว่า "โรงเรียนเบญจมราชาลัย"
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๖๖ พระชันษา ๖๑ ปี เป็นต้นราชสกุล วัฒนวงศ์
ภาพ : มหาอำมาตย์โท พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์
พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายเฉลียว ภูมิจิตร ณ เมรุวัดธาตุทอง พระโขนง วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓