ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,831 รายการ
นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานเปิดการประชุมผู้แทนพิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ เพื่อพัฒนามาตรฐานการดำเนินงานขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในครอบครองของวัดและเอกชน และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จัดโดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ณ ห้องประชุมคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า ๙๐ คน อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรมีหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคที่ดูแลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในครอบครองของวัดและเอกชน โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รวม ๔๑ แห่ง มีภัณฑารักษ์และเจ้าพนักงาน พิพิธภัณฑ์ที่นอกจากดูแลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากรแล้ว ยังมีหน้าที่ในการทำนุบำรุง ปกป้อง สงวนรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่แม้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร แต่มีคุณค่าเชิงโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ เทคนิคศิลปกรรมโบราณไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน สมควรได้รับการคุ้มครองในฐานะสมบัติของชาติ โดยดำเนินการภายใต้โครงการสำรวจขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุในครอบครองของวัด ภาครัฐและเอกชน ทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องมายาวนานกว่า ๓๐ ปี ทั้งนี้ กรมศิลปากรให้ความสำคัญกับการปกป้องโบราณสถาน โบราณวัตถุอันทรงคุณค่า โดยมีการ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ ด้วยจุดมุ่งหมายป้องกันมิให้โบราณวัตถุเหล่านั้นถูกทำให้เสื่อมค่า ชำรุด หรือสูญหายจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ครอบครอง และเป็นหลักฐานว่าโบราณสถานและโบราณวัตถุเหล่านั้นมีใครเป็นเจ้าของ ปัจจุบันมีโบราณวัตถุได้รับประกาศขึ้นทะเบียนในราชกิจจานุเบกษาไปแล้วทั้งสิ้น ๗,๑๔๗ รายการ มีผู้ครอบครองทั้งสิ้น ๑,๖๐๗ ราย กรมศิลปากรได้ติดตามตรวจสอบสภาพ ความเปลี่ยนแปลงสถานะของโบราณวัตถุเหล่านั้นโดยมีการยกระดับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโบราณวัตถุที่ประกาศขึ้นทะเบียนที่เกิดความชำรุดเสียหาย ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่รู้ว่าโบราณวัตถุในวัดได้รับประกาศขึ้นทะเบียน แล้วต้องปฏิบัติอย่างไรเมื่อมีการชำรุด เสียหาย เสื่อมสภาพ เปลี่ยนแปลงสถานที่ มีการโอนย้าย หรือสูญหาย เนื่องจากกรมศิลปากรแจ้งผู้ครอบครองให้ทราบเพียงครั้งเดียว คือ ครั้งแรกที่ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าอาวาสหรือผู้ครอบครองคนใหม่ จึงไม่รู้ระเบียบหลักเกณฑ์ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๖๓ จึงได้มอบนโยบายให้แต่ละหน่วยงานจัดทำหนังสือแจ้งผู้ครอบครองเป็นประจำทุกปี เพื่อทบทวนรายการโบราณวัตถุและเน้นย้ำให้ผู้ครอบครองทุกรายปฏิบัติตามระเบียบที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการติดตามตรวจสอบโบราณวัตถุที่เคยประกาศขึ้นทะเบียนแล้วทุกรายการเป็นประจำทุกปี ถือเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกให้ผู้ครอบครองตระหนักถึงความสำคัญของโบราณวัตถุในฐานะสมบัติของชาติ อธิบดีกรมศิลปากร ยังได้กล่าวถึงกรณีหนังสือบุด เอกสารโบราณที่ถูกโจรกรรมจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชจำนวนมาก ซึ่งมีการสอบถามว่ากรมศิลปากรเคยประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุเพื่อคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านเหล่านี้หรือไม่ ทางกรมศิลปากรเองก็ได้เล็งเห็นความสำคัญของเอกสารโบราณเหล่านี้ ในฐานะภูมิปัญญาของชาติแขนงหนึ่ง นับวันจะถูกทำลายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงได้มีนโยบายให้สำรวจและพิจารณาโบราณวัตถุกลุ่มสมุดไทย หนังสือบุด คัมภีร์ใบลาน ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติเช่นเดียวกับโบราณวัตถุชนิดอื่น เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองในฐานะโบราณวัตถุที่ประกาศขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่อไป
กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมศิลปากร เปิดรับสมัครนักวิชาการโสตทัศนศึกษา และเจ้าพนักงานธุรการ รวมจำนวน ๓ ตำแหน่ง (ลูกจ้างชั่วคราว) สมัครได้ตั้งแต่วันที่ ๒๓ - ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ในวันเวลาราชการ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัคร (รายละเอียดดังเอกสารที่แนบ) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๒๒๒๒ ๐๙๓๔, ๐๒๒๒๔ ๒๐๕๐
วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. คณะคุณจตุพร เหลือสนุก จำนวน ๗๒ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยแบ่งการบรรยายนำชมออกเป็น ๒ กลุ่มย่อย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ โดยมีนางสาวกมลรัตน์ ชวนสบาย ภัณฑารักษ์ปฏิบัติงาน นายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ และ ๔ สาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวนอาจารย์และนักศึกษา ๓๖ คน เข้าเยี่ยมชมโบราณสถานปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การบรรยายนำชม
กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชม “นิทรรศการวารสาร และนิตยสารฉบับแรก” ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องวชิรญาณ ๒ - ๓ ชั้น ๑ อาคาร ๒ สำนักหอสมุดแห่งชาติ ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ นิทรรศการวารสาร และนิตยสารฉบับแรก เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมหอสมุด แห่งชาติ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยนำวารสาร และนิตยสารฉบับแรก หรือฉบับปฐมฤกษ์ ที่จัดเก็บและให้บริการที่สำนักหอสมุดแห่งชาติ มาจัดแสดงแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๕ ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ ประวัติความเป็นมาของวารสารในประเทศไทย จัดแสดงวารสาร นิตยสารหายาก ที่เผยแพร่ ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ อาทิ บางกอกรีคอร์เดอร์ จัดทำโดยหมอบรัดเลย์และคณะมิชชันนารีชาวอเมริกา หนังสือราชกิจจานุเบกษา ที่จัดพิมพ์ขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ นิตยสารดรุโรนาท นิตยสารฉบับแรกของคนไทย ที่จัดพิมพ์โดยคนไทย ส่วนที่ ๒ วารสารและนิตยสาร จัดแสดงตามช่วงระยะเวลา ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๕๙ ส่วนที่ ๓ วารสารและนิตยสาร แบ่งตามประเภทเนื้อหา ส่วนที่ ๔ วารสารของหน่วยงานภาครัฐ เช่น นิตยสารศิลปากร วารสารวิชาการหอสมุดแห่งชาติ ส่วนที่ ๕ วารสาร นิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ และผลงานของอาจารย์ศุภชัย ราชพิตร ผู้ที่มอบวารสาร และนิตยสารฉบับปฐมฤกษ์ที่สะสมไว้ให้กับสำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญผู้สนใจชมความเป็นมาของวารสารและนิตยสารในประเทศไทยตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ และการเปลี่ยนแปลงของวารสารและนิตยสารในช่วงเวลาต่าง ๆ ว่ามีความแตกต่างจากวารสาร และนิตยสารในยุคปัจจุบันอย่างไร ณ ห้องวชิรญาณ ๒ - ๓ ชั้น ๑ อาคาร ๒ สำนักหอสมุดแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓
วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563 นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานเปิดงาน “นิทรรศการวารสาร และนิตยสารฉบับแรก” พร้อมด้วยนายพนมบุตร จันทรโชติ รองอธิบดีกรมศิลปากร นายอรุณศักดิ์ กิ่งมณี รองอธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรร่วมในพิธีเปิด ณ ห้องวชิรญาณ 2 - 3 ชั้น 1 อาคาร 2 สำนักหอสมุดแห่งชาติ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยปฏิบัติตามมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า - ๑๙ (COVID - 19) ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ มีผู้เข้าชมทั้งสิ้น ๙๔๗ คน
โครงการกิจกรรมเชิงปฏิบัติการแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ให้ครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันพร้อมศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดสุรินทร์
ประกาศสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิคัดเลือกเป็นลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนเงินนอกงบประมาณ (เงินกองทุนโบราณคดี) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔