...

แรกมีไม้ขีดไฟในสยาม

 



หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี ชวนผู้อ่านไปค้นพบหลากหลายเรื่องราวความรู้ที่น่าสนใจจากหนังสือกรมศิลปากร วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “แรกมีไม้ขีดไฟในสยาม”

 

“ไม้ขีดไฟ” ถูกนำเข้ามายังสยามผ่านทางบาทหลวงที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นไม้ขีดไฟของบริษัท Swedish Match จากสวีเดน ต่อมาเริ่มมีการวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะไม้ขีดไฟของญี่ปุ่น ซึ่งมีตราต่างๆ จำนวนมากหลายพันแบบ มีลักษณะบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามและมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น ตราและสลากบนกล่องไม้ขีดไฟเป็นภาพวาดหลากหลายลวดลาย เหมาะสำหรับการเก็บสะสม เช่น ภาพวาดคน สัตว์ ผลไม้ ดอกไม้ บุคคลสำคัญ รวมทั้งภาพวาดเหตุการณ์ต่างๆ

 

ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว การนำเข้าไม้ขีดไฟเริ่มลดลงเนื่องจากประเทศไทยได้จัดตั้งโรงงานผลิตไม้ขีดไฟใช้เอง เช่น บริษัท มิ่นแซ จำกัด, บริษัท ตังอา จำกัด, บริษัท ไทยไฟ จำกัด, บริษัท ไม้ขีดไฟไทย จำกัด (เดิมคือบริษัท สยามแมตซ์แฟ็กตอรี่ จำกัด) เป็นต้น จนทำให้ต้องมีการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยไม้ขีดไฟขึ้นเป็นครั้งแรก ประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 เพื่อควบคุมการดำเนินกิจการโรงงานไม้ขีดไฟ และจัดเก็บภาษีไม้ขีดไฟที่ผลิตภายในพระราชอาณาเขต ปัจจุบันความสำคัญของไม้ขีดไฟได้ลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีสินค้าอื่นที่สามารถใช้ในการจุดไฟได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า ไม้ขีดไฟที่เรายังคงสามารถพบเห็นได้ทั่วไปที่คุ้นตาและยังคงมีจำหน่ายถึงทุกวันนี้คือ ตราพระยานาค ของบริษัทไม้ขีดไฟไทย

 

ผู้อ่านที่สนใจเรื่องราวของไม้ขีดไฟ และหน้ากลักไม้ขีดไฟ ซึ่งเป็นของสะสมที่มีคุณค่าและหายาก สามารถอ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ เรื่อง “อาไคฟ ขอให้เก็บให้จงดี” ซึ่งจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในวาระครบ 70 ปี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ที่ห้องศิลปากรและหนังสือหายาก หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หรืออ่านในรูปแบบออนไลน์ได้ที่ https://www.finearts.go.th/main/view/46626

 

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ

กรมศิลปากร สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ.  อาไคฟ ขอให้เก็บให้จงดี = Archive : please keep it properly preservedกรุงเทพฯ: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
     กรมศิลปากร
, 2567. 

เอนก นาวิกมูล.  แรกมีในสยาม ภาค 1.  กรุงเทพฯ: แสงดาว, 2559. 

(จำนวนผู้เข้าชม 104 ครั้ง)


black ribbon.