...

กรมศิลปากรเปิดงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๔
พร้อมเผยโฉมนิทรรศการใหม่ในอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
          วันศุกร์ที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายอิทธิพล คุณปลี้ม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการถาวรภายในอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ และเปิดงานสัปดาห์ วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๔ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดี กรมศิลปากร กล่าวรายงาน ร่วมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงาน
          ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ ๒ เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย เพื่อเทิด พระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่องานด้านศิลปวัฒนธรรม และทรงเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ และสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงกำหนดจัดงานสัปดาห์วัน อนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๔ ระหว่างวันที่ ๒ – ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ตระหนักในความสำคัญของการอนุรักษ์ มรดกทางวัฒนธรรม และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ประกอบด้วย การเสวนาทางวิชาการ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ เป็นวิทยากร ระหว่างวันที่ ๓ - ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ และการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ระหว่างวันที่ ๒ – ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ เวทีสังคีตศาลา บริเวณสนามหญ้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
           นอกจากนี้ กรมศิลปากรยังได้เปิดห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรภายในอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งดำเนินงานบูรณะพร้อมการจัดแสดงห้องต่างๆ ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๓ ตามโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ จัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่พบบนผืนแผ่นดินไทย หลัง พ.ศ. ๑๘๐๐ เป็นต้นมา อันเป็นช่วงเวลาของการก่อกำเนิดบ้านเมืองขนาดใหญ่ระดับรัฐ หรืออาณาจักรในแต่ละภูมิภาค โดยจัดแสดงโบราณวัตถุรวม ๙๑๘ รายการ แบ่งเป็น
          ห้องล้านนา นำเสนอเรื่องราวอาณาจักรที่ พญามังราย สถาปนาเมื่อ พ.ศ. ๑๘๓๙ โดยมีศูนย์กลาง อยู่ที่เมืองเชียงใหม่ โบราณวัตถุสำคัญ อาทิ ศิลปโบราณวัตถุประเภทเครื่องพุทธบูชา ที่พบจากวัดร้างในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ และหลวงพ่อนาก พระพุทธรูปซึ่งพระยายุธิษฐิระ เจ้าเมืองพะเยาเป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๐๑๙
          ห้องสุโขทัย จัดแสดงความรุ่งเรืองของรัฐขนาดใหญ่นามว่า สุโขทัย แห่งราชวงศ์พระร่วง ซึ่งสถาปนา เมื่อ พ.ศ. ๑๗๙๒ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่จัดแสดงในห้องนี้คือ ศิลาจารึกหลักที่ ๑ สมัยพ่อขุนรามคำแหง
          ห้องกรุงศรีอยุธยา นับจากการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ ปรากฏโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นประจักษ์พยานสำคัญถึงความรุ่งเรืองมั่นคงทางการเมืองการปกครอง ความเจริญทางเศรษฐกิจ และความรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา เป็นรากฐานให้กับศิลปกรรมรัตนโกสินทร์ซึ่งพัฒนาต่อมาเป็นศิลปะประจำชาติไทยในปัจจุบัน โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ อาทิ ธรรมาสน์สังเค็ด วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี และตู้พระธรรมวัดเซิงหวาย ซึ่งมีลวดลายรดน้ำปิดทองประณีตงดงามเป็นเลิศ
          ห้องกรุงธนบุรี – รัตนโกสินทร์ตอนต้น โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ อาทิ พระแท่นของสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช พระเก้าอี้พับของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งทรงใช้ในยามราชการสงคราม ฉากลับแลลายกำมะลอเรื่องอิเหนา เป็นต้น
          ห้องกรุงรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงตระหนัก ถึงความสำคัญของการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาชาติ จึงทรงส่งราชทูตไปยังราชสำนักชาติมหาอำนาจตะวันตก ทรงวางรากฐานในการยอมรับศิลปวิทยาการสมัยใหม่ และนำมาพัฒนาให้สังคมไทยมีความทันสมัยเช่นสากล จากการติดต่อกับต่างชาติตะวันตกโดยเฉพาะยุโรป อเมริกา การสร้างสรรค์งานศิลปกรรมจึงมีอิทธิพลตะวันตกเพิ่มขึ้นโดยลำดับ ทั้งนี้ สถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์ นอกจากเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทย ยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยธำรงรักษาวัฒนธรรมประเพณีของชาติ ที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ได้จนถึงปัจจุบัน โบราณวัตถุสำคัญที่จัดแสดงในห้องนี้ อาทิ ลูกโลกและรถไฟจำลอง สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย แห่งสหราชอาณาจักร ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘ พระโธรน พระราชอาสน์สำหรับประทับให้ข้าราชการยืนเข้าเฝ้า ซึ่งสร้างขึ้นเป็นองค์แรกใน พ.ศ. ๒๔๑๖
          กรมศิลปากร จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๔ และชมห้องจัดแสดงนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒ – ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

(จำนวนผู้เข้าชม 1039 ครั้ง)