ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ

อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1งเอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ขอเชิญชมนิทรรศการ "วาดศิลป์แผ่นดินชุมพรครั้งที่ ๑" จัดแสดงผลงานของศิลปินสีน้ำระดับประเทศและระดับนานาชาติกว่า ๑๐๐ ชิ้น แต่ละชิ้นก็มีเอกลักษณ์อันงดงามแตกต่างกัน ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร เปิดทำการวันพุธ - วันอาทิตย์  เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปิดทุกวันจันทร์ - วันอังคารตัวอย่างผลงาน


ชื่อผู้แต่ง          ปราโมทย์  ทัศนาสุวรรณ ชื่อเรื่อง           เที่ยวภาคใต้ ครั้งที่พิมพ์        พิมพ์ครั้งที่ ๒ สถานที่พิมพ์      กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์        มิตรภาพ ปีที่พิมพ์           ๒๕๒๐ จำนวนหน้า       ๑๘๒ หน้า รายละเอียด      เที่ยวภาคใต้เป็นสารคดีการท่องเที่ยว ๑๔ จังหวัดภาคใต้จากนักเขียนสารคดีท่องเที่ยวของภาคใต้จากประสบการณ์การท่องเที่ยวหลายครั้งแล้วนำเสนอข้อมูลแต่ละจังหวัดที่น่าสนใจ





เลขทะเบียน : นพ.บ.407/10ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 56 หน้า ; 4.5 x 55.5 ซ.ม. : ชาดทึบ-รักทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 146  (58-70) ผูก 10 (2566)หัวเรื่อง : เอกนิปาต--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.536/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4 x 51 ซ.ม. : ล่องรัก-รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 180  (292-302) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : ลำปาฏิโมกข์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร ฉบับความสำคัญ เล่ม ๒ หลวงวิจิตรวาทการ ชื่อผู้แต่ง : วิจิตรวาทการ ปีที่พิมพ์ : 2493 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : เพลินจิตต์ จำนวนหน้า : 796 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดาร ฉบับความสำคัญ เป็นการศึกษาพงศาวดารและประวัติศาสตร์ รวมถึงการเชิดชูบุญญาบารมีของสมเด็จพระมหากษัตราธิราชทุกพระองค์ เป็นหนังสือชุดใหญ่ ๑๒ เล่มจบ เล่มนี้จะกล่าวถึงประชุมพงศาวดาร ฉบับความสำคัญ เล่ม ๒ มีเนื้อหาทั้งหมด ๕ ภาค โดยเริ่มตั้งแต่ ภาคที่ ๓ เรื่องที่ ๓ ภาคที่ ๔ เรื่องที่ ๑-๓ ภาคที่ ๕ เรื่องที่ ๑-๔ ภาคที่ ๖ และ ภาคที่ ๗ เรื่องที่๑




ครบรอบ ๑๐๐ ปี วันสิ้นพระชนม์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด พระนามเดิม คือ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติเมื่อ วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๔๒๓ ทรงรับการศึกษาขั้นต้นในพระบรมมหาราชวัง และทรงศึกษาต่อในวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ หลังจากทรงสำเร็จการศึกษา จึงเสด็จกลับประเทศไทยและทรงเข้ารับราชการในกรมทหารเรือ โดยทรงดำรงตำแหน่ง เป็นผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ทรงทำนุบำรุงส่งเสริมกองทัพเรือจนอยู่ในชั้นมาตรฐานสากล อันเป็นรากฐานแก่กองทัพเรือในสมัยต่อมาใน พ.ศ.๒๔๖๓ ทรงได้รับสถาปนาพระอิสริยยศเป็น กรมหลวง มีพระนามตามพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์สิงหนาม และทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖ ต่อมาทรงประชวรพระโรคภายใน จึงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการ และเสด็จไปประทับที่ชายทะเลหาดทรายรี ทางใต้ปากน้ำเมืองชุมพร ในระหว่างที่ทรงพำนักอยู่ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ ทรงรักษาประชาชนทั่วไปที่ป่วยไข้ อันเป็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อชาวชุมพร จวบจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๖๖ กองทัพเรือไทยได้กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันอาภากร พร้อมกับขนานพระนามพระองค์ท่านเป็น "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๖



-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : เล่าเรื่องเมืองพิจิตร จากรายงานตรวจราชการ (ตอนจบ) -- หลังจากที่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ได้เสด็จฯ ถึงเมืองพิจิตร และได้ทรงตรวจตราสภาพบ้านเมืองของเมืองพิจิตรแล้ว ลำดับต่อไปคือการเสด็จฯ ตรวจราชการ ณ สถานที่ราชการสำคัญของเมืองพิจิตร ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้------------------------------------------------------------------------------แผ่นไม้ปริศนา วันที่ 31 ตุลาคม ร.ศ. 117 กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ได้เสด็จฯ ไปทรงตรวจคุกเมืองพิจิตร ตามด้วยโรงเรียนหลวงสำหรับเมือง จากนั้นจึงเสด็จฯ ไปยังที่ว่าการเมืองซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลากลางหลังเดิม ณ ที่แห่งนี้ทรงพบแผ่นไม้แกะสลักรูปวงกลมกว้าง 14 นิ้ว 3 แผ่น แผ่นแรกสลักภาพพระมหามงกุฎมีฉัตร แผ่นที่สองสลักภาพช้างในวงจักร และแผ่นที่สามสลักภาพราชสีห์จำลองจากตราพระราชสีห์ใหญ่ ทั้งสามแผ่นติดตั้งไว้ที่จั่วข้างในที่ว่าการเมือง ทรงเล่าว่าเมื่อครั้งเสด็จฯ เมืองพรหมก็ทรงพบตราพระราชสีห์ในลักษณะนี้ติดไว้ที่ศาลากลางหลังเดิม พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตรทูลเล่าว่า ได้ทราบจากคำบอกเล่าว่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการพระราชทานเงินเพื่อสร้างศาลากลางเมือง เมืองละ 10 ชั่ง ตราบนแผ่นไม้แกะสลักเหล่านี้จึงมาพร้อมกับการสร้างศาลากลางในคราวนั้น ทรงสันนิษฐานถึงความหมายของตราแกะสลักว่าแต่ละตราว่า ตราพระมงกุฎหมายถึงพระเจ้าแผ่นดิน ตราช้างหมายถึงกรุงสยาม ตราพระราชสีห์หมายถึงกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ยังได้รับสั่งให้แกะตราออกจากหน้าจั่วแล้วนำไปติดไว้ภายในศาลากลาง เพราะหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็จะได้ย้ายหนีออกไปได้ง่าย ------------------------------------------------------------------------------ปล่อยญวนพ้นคุก หลังจากทรงตรวจกิจการของที่ว่าการเมืองแล้ว ได้ทรงตรวจกิจการของศาลซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับที่ว่าการเมือง ศาลเมืองพิจิตรนี้มีข้าหลวงพิเศษเป็นผู้พิจารณาตัดสินคดี โดยในขณะนั้นมีคดีค้างในอยู่ศาลรอการพิจารณาจำนวน 8 เรื่อง แม้ว่าการดำเนินงานของศาลจะมีคดีที่ค้างอยู่ไม่มาก แต่กรมหมื่นดำรงราชานุภาพทรงตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินคดีของข้าหลวงพิเศษยังสู้ศาลเมืองกรุงเก่าไม่ได้ ตัวอย่างเช่น กรณีคดีของญวนเข้ารีตชื่อสำอาง ซึ่งกระทำผิดในข้อหาฆ่าหมูเซ่นเจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยไม่ขออนุญาตต่อเจ้าภาษีหมู โดยข้าหลวงพิเศษตัดสินปรับญวนสำอางเป็นเงิน 90 บาท ญวนสำอางไม่สามารถจ่ายได้จึงต้องถูกขังเพื่อเร่งเงินพินัย ทรงเห็นว่าเงินค่าปรับ 90 บาทนั้น “แรงเหลือเกินนัก” ประกอบกับการที่เจ้าภาษีหมูไม่ติดใจเอาเงินสินไหม และญวนสำอางเองก็ติดคุกมาร่วมเดือนแล้ว จึงมีรับสั่งให้ปล่อยญวนสำอางพ้นโทษไป อย่างไรก็ตาม ทรงเห็นว่า แม้จะมีตัวอย่างจากคดีญวนสำอาง ก็ยังไม่อาจที่จะยืนยันได้ว่าข้าหลวงพิเศษตัดสินบกพร่องจริง เพราะไม่ได้ดูการพิจารณาคดีจริงๆ ว่าทำกันอย่างไร------------------------------------------------------------------------------พระดำริต่อเมืองพิจิตร จากที่ว่าการเมือง เสด็จฯ ไปตรวจบริเวณที่จะทำตลาดใหม่ทางตอนเหนือของเมือง จากนั้นไปตรวจที่ว่าการอำเภอเมือง แล้วจึงเสด็จฯ ลงเรือออกเดินทางจากเมืองพิจิตรเวลา 3 โมงเช้า. ในตอนท้ายของรายงานตรวจราชการเมืองพิจิตร กรมหมื่นดำรงราชานุภาพทรงมีพระดำริว่า เมืองพิจิตรนี้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ดีกว่าเมื่อครั้งเสด็จฯ มาตรวจราชการเมื่อ ร.ศ. 111 หลายเท่า เนื่องจากในครั้งนั้นเมืองพิจิตรยังประสบปัญหาอย่างเช่นโจรผู้ร้ายชุกชุม และปัญหาที่ราษฎรร้องทุกข์ว่าได้รับความเดือดร้อนในการถูกเกณฑ์ไปทำงานต่างๆ ของทางราชการ ซึ่งได้รับการแก้ไขจนดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งนี้ ทรงเห็นว่าการยกย่องเมืองพิจิตรเช่นนี้ หากเป็นคนที่ไม่รู้เห็นปัญหามาก่อน ก็จะหัวเราะเยาะว่าเชิดชูกันเกินไป เพราะขณะนั้นเมืองพิจิตรยังคงเป็นที่ลุ่มเต็มไปด้วยป่าพง ทำให้มียุงชุมมาก หากใครแปลกหน้าขึ้นมาถูกยุงกัดก็จะพาลเกลียดชังเมืองพิจิตรไปได้ง่ายๆ.ผู้เขียน: นายธัชพงศ์ พัตรสงวน (นักจดหมายเหตุปฏิบัติการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)เอกสารอ้างอิง: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ 5 กระทรวงมหาดไทย. ร.5 ม 2.14/82 เรื่อง รายงานกรมหมื่นดำรงฯ ตรวจราชการ เมืองพิจิตร เมืองพิษณุโลก [ 12 ต.ค. – 26 พ.ย. 117 ].#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ


          หนังสือ : เด็กหญิงนางฟ้า           ผู้เขียน  : ดาราราย           "เด็กหญิงนางฟ้า" เป็นเรื่องแนวจริงผสมจินตนาการ เล่าถึง 'เดี่ยว' เด็กชายลูกคนหาเช้ากินค่ำที่มีโอกาสได้พบกับเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นนางฟ้าตัวน้อยที่หล่นมาจากฟ้า ในช่วงเวลาที่เด็กหญิงนางฟ้ามาอยู่เป็นเพื่อนกับเดี่ยว ได้มีส่วนช่วยให้เดี่ยวและเพื่อนเรียนรู้ความจริงของชีวิต และผ่านเหตุการณ์ที่จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับการดำเนินชีวิตในภายหน้า           วรรณกรรมเรื่องนี้สื่อความหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ การจะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการนั้น เป็นเรื่องที่ต้องมาจากความคิดและการกระทำของตนเองเป็นหลัก มิใช่สิ่งที่นางฟ้าบันดาลให้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าทำไมเด็กหญิงนางฟ้าในเรื่องนี้จึงไม่มีคนอื่นมองเห็นได้นอกจากเดี่ยวและเพื่อนเท่านั้น รายละเอียดหนังสือ             ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ           เลขหมู่ :  895.913 ด426ด


ชื่อเรื่อง                         ปริวารปาลิ(ปริวาร)อย.บ.                            297/10หมวดหมู่                       พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                  52 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 55 ซม.หัวเรื่อง                         พระไตรปิฏก                                                        บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา


black ribbon.