ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรื่อง : จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2434
หัวเรื่อง : สงวน จันทรสาขา, 2461-2514
ไทย -- ประวัติศาสตร์ -- กรุงรัตนโกสินทร์ -- รัชกาลที่ 5
หนังสืออนุสรณ์งานศพ
คำค้น : -
รายละเอียด : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายสงวน จันทรสาขา ม.ว.ม., ป.ช., ต.จ.ว. ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พุทธศักราช 2515
ผู้แต่ง : จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, 2396-2453.
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ โรงพิมพ์/ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์พระจันทร์
ปีที่พิมพ์ : 2515
วันที่เผยแพร่ : 22 พฤษภาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : กรมศิลปากร
ลิขสิทธิ์ : สำนักหอสมุดแห่งชาติ
รูปแบบ : PDF.
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฉบับปีเถาะ ตรีศก พ.ศ. 2434 เป็นพระราชนิพนธ์ที่ทรงบันทึกเรื่องราวพระราชกรณียกิจขณะเสด็จประพาสสถานที่ต่างๆ ทั้งเรื่องราวส่วนพระองค์ และพระราชกรณียกิจต่างๆ
เลขทะเบียน : น. 32 บ. 1617 จบ.
เลขหมู่ : 959.3057
จ247จส
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ขอเชิญชมผลงานศิลปะร่วมสมัยในพื้นที่โบราณสถาน "สิ่งที่มีอยู่อย่างเงา" ความหวังจากร่องรอยสัมพันธภาพระหว่างความตายและการเกิดใหม่ ณ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 (ปฏิบัติการสร้างสรรค์ผลงาน ระหว่าง วันที่ 1 - 15 มิถุนายน 2568 ชมผลงานฉบับสมบูรณ์ ระหว่างวันที่ 16 - 30 มิถุนายน 2568) งานวิจัยสร้างสรรค์ โดยนายสุริยา นามวงษ์ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
บนผืนแผ่นดินไทยอันงดงาม ทอดตัวยาวตามแนว เทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เราจะพบเห็นร่องรอยของ อารยธรรมขอมโบราณ อันยิ่งใหญ่ นั่นคือ ปราสาทหิน โบราณสถานเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตา แต่ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงการเข้ามาของอารยธรรมขอมบนผืนแผ่นดินที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน และเป็นความภาคภูมิใจในฐานะ มรดกของชาติไทย ที่ได้รับการดูแลและขึ้นทะเบียนมาอย่างยาวนาน
รากฐานแห่งอารยธรรมบนแผ่นดินสยาม
ปราสาทหินที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย เป็นเครื่องยืนยันถึงอิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณที่แผ่ขยายมายังดินแดนแห่งนี้ สถาปัตยกรรมที่โอ่อ่า การแกะสลักหินที่ประณีตงดงาม และความเชื่อทางศาสนาที่ฝังลึกอยู่ในตัวปราสาท ล้วนสะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางศิลปะและวัฒนธรรมในอดีต อารยธรรมขอมได้หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทย ปราสาทเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่ "ของกัมพูชา" แต่เป็น มรดกร่วมทางอารยธรรม ที่นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญชาวไทยได้ศึกษา บำรุงรักษา และนำเสนอมาอย่างยาวนาน เป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ไทยกับความรุ่งเรืองของอารยธรรมในภูมิภาค
ปราสาทชายแดน : มรดกที่ท้าทายและเป็นข้อพิพาท
แม้ว่าปราสาทหินเหล่านี้จะเป็นมรดกอันล้ำค่า แต่หลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงมีประเด็นข้อพิพาทหรือเคยเป็นพื้นที่อ่อนไหวระหว่างสองประเทศ
• ปราสาทเขาพระวิหาร: เป็นกรณีที่โด่งดังที่สุด ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ตัดสินให้ตัวปราสาทอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชาในปี พ.ศ. 2505 และมีคำตัดสินเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2556 [1] อย่างไรก็ตาม พื้นที่โดยรอบปราสาทยังคงเป็นจุดที่มีความอ่อนไหวและมีการถกเถียงเรื่องเขตแดน
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาเมือน) จังหวัดสุรินทร์: กรมศิลปากรของไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 [1] และยืนยันว่าเป็นดินแดนของไทย 100% [3.1, 3.2] แต่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 กัมพูชาได้ประกาศว่าจะนำประเด็นเรื่องปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าสู่ศาลโลกอีกครั้ง [2.1, 2.3] ซึ่งสร้างความตึงเครียดตามแนวชายแดน
• ปราสาทตาควาย (จังหวัดสุรินทร์): เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มปราสาทตาเมือน และกำลังเป็นเป้าหมายที่กัมพูชาเตรียมนำเข้าสู่ศาลโลกเช่นกัน [2.1]
• ปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ): ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน มีรายงานข่าวล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 เกี่ยวกับการเสริมกำลังทหารของกัมพูชาใกล้ปราสาทโดนตวล [5.1, 5.3, 5.4] ซึ่งสะท้อนความตึงเครียดและประเด็นเรื่องเขตแดน นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหารด้วย [5.2]
• อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม (จังหวัดสระแก้ว): ปราสาทแห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของประเทศไทยอย่างชัดเจน และกรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์มาโดยตลอด [4.2] แม้จะเคยถูกหยิบยกมาเป็นกรณีศึกษาในบริบทความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่ปัจจุบันไม่มีข้อพิพาทเรื่องอธิปไตย
การยืนยันความเป็นชาติไทยผ่านการพิทักษ์มรดก
ประเทศไทย โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของโบราณสถานเหล่านี้มาโดยตลอด จึงได้ดำเนินการ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติไทย อย่างเป็นทางการ ภายใต้พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นการยืนยันสิทธิในการดูแล บำรุงรักษา และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ในฐานะส่วนหนึ่งของแผ่นดินไทย ดังตัวอย่างที่ชัดเจน
• ปราสาทเขาพระวิหาร: แม้คำตัดสินศาลโลกจะทำให้ตัวปราสาทอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา แต่ประเทศไทยยังคงรักษาผลประโยชน์ในพื้นที่โดยรอบที่เป็นส่วนหนึ่งของไทย และเป็นผู้ดูแลเส้นทางขึ้นสู่ปราสาทมาอย่างยาวนาน
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาเมือน) จังหวัดสุรินทร์: กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2478 [1] มีการประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา [2] และกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• ปราสาทตาควาย (จังหวัดสุรินทร์): ได้รับการดูแลและอยู่ภายใต้การกำกับของกรมศิลปากรในฐานะโบราณสถานของไทยเช่นกัน [3] การดำเนินการทางกฎหมายและการบริหารจัดการพื้นที่ได้ยืนยันถึงความรับผิดชอบของประเทศไทย
• ปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ): การดูแลปราสาทโดนตวลนี้ ยิ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ไทยมีต่อมรดกขอมโบราณบนผืนแผ่นดินของตน [3, 4]
โบราณสถานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความเป็นชาติไทยในหลายมิติ
• มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า: เป็นหลักฐานแสดงถึงความหลากหลายและวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม รวมถึงอารยธรรมที่เคยรุ่งเรืองบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน
• ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จับต้องได้: เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทยที่แสดงถึงการขยายตัวและการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรต่างๆ ในภูมิภาค และปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนชาติ
• แหล่งเรียนรู้และสร้างความตระหนัก: เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และโบราณคดีที่สำคัญยิ่ง สำหรับคนไทยทุกยุคสมัยได้เข้าใจรากเหง้า อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
• การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน: ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น อีกทั้งยังสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม
• ความภาคภูมิใจและเอกราชของชาติ: การดูแลรักษาและอนุรักษ์ปราสาทเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในมรดกของชาติ และความรับผิดชอบต่อคนรุ่นหลัง ซึ่งสะท้อนถึงอธิปไตยและความสามารถของประเทศไทยในการพิทักษ์มรดกทางวัฒนธรรมบนผืนแผ่นดินของตน
การที่ประเทศไทยได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนและดูแลรักษาปราสาทโบราณเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการยืนยันถึงสิทธิอันชอบธรรมในการเป็นผู้ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้บนแผ่นดินของตน และเน้นย้ำถึงความเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของชาติไทย ที่แม้กาลเวลาจะผ่านไป ปราสาทหินเหล่านี้ยังคงยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์และความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป
สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับ โบราณสถานในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และความรู้รูปแบบทางศิลปะของปราสาทเหล่านี้ได้ที่ #ห้องค้นคว้า ชั้น 2 หอสมุดเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา เราขอแนะนำหนังสือบางส่วนที่น่าสนใจดังนี้
1.ชื่อหนังสือ : ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 3 จังหวัดสุรินทร์.
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.334025 ศ528ท
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร. กองโบราณคดี. ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 3 จังหวัดสุรินทร์. กรุงเทพฯ: กรม, 2538.
อ่านออนไลน์ : https://digitalcenter.finearts.go.th/ebook/6450bac38d7c5
2.ชื่อหนังสือ : ปราสาทขอมในดินแดนไทย ความเป็นมาและข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ
เลขทะเบียนหนังสือ : 959.3 ร636ป
บรรณานุกรม : รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง. ปราสาทขอมในดินแดนไทย ความเป็นมาและข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ. กรุงเทพฯ: มติชน, 2551.
3.ชื่อหนังสือ : ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 4 จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.33025 ศ528ก ล.4
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร. สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ. งานกลุ่มวิจัยพัฒนาโบราณคดีและพิพิธภัณฑสภานแห่งชาติ. ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 4 จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี. กรุงเทพฯ: กรม, 2539.
อ่านออนไลน์ : https://digitalcenter.finearts.go.th/ebook/6450bac9744aa
4.ชื่อหนังสือ : คู่มือท่องเที่ยว-เรียนรู้ ปราสาทหิน พิมาย-พนมรุ้ง-เมืองต่ำ-ตาเมือน-เขาพระวิหาร
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.3 ธ395ค
บรรณานุกรม : ธวัชชัย องค์วุฒิเวทย์. คู่มือท่องเที่ยว-เรียนรู้ ปราสาทหิน พิมาย-พนมรุ้ง-เมืองต่ำ-ตาเมือน-เขาพระวิหาร. กรุงเทพฯ: มิวเซี่ยมเพรส, 2550.
5.ชื่อหนังสือ : ประวัติศาสตร์-โบราณคดี กัมพูชา
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.6 ศ528ป
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร. กองโบราณคดี. ประวัติศาสตร์-โบราณคดี กัมพูชา. กรุงเทพฯ: กรม, 2536.
อ่านออนไลน์ : https://digitalcenter.finearts.go.th/ebook/6450f5f92e268
อ้างอิง:
[1] สำหรับกรณีปราสาทเขาพระวิหารและกลุ่มปราสาทตาเมือน (ขึ้นทะเบียนโดยไทย):
• ปราสาทเขาพระวิหาร:
o International Court of Justice (ICJ). (1962). Case Concerning the Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand), Merits, Judgment of 15 June 1962, I.C.J. Reports 1962, p. 6.
o ICJ: Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand) - Merits (1962)
o International Court of Justice (ICJ). (2013). Request for interpretation of the judgment of 15 June 1962 in the case concerning the Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand) (Cambodia v. Thailand), Judgment of 11 November 2013, I.C.J. Reports 2013, p. 257.
o ICJ: Request for Interpretation of the Judgment of 15 June 1962 in the Case concerning the Temple of Preah Vihear (2013)
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ขึ้นทะเบียนโดยไทย):
o กรมศิลปากร. (2478, 8 มีนาคม). ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 , หน้า 3712.
o https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/3679.PDF
[2] สำหรับประเด็นการอ้างสิทธิ์ล่าสุดของกัมพูชา (ต้นเดือนมิถุนายน 2568):
• [2.1] ผู้จัดการออนไลน์. (2568, 5 มิ.ย.). เขมรเบี้ยว! ถก JBC 14 มิ.ย.ไม่คุยปมชายแดนกับไทย อ้างเตรียมขึ้นศาลโลกแล้ว
o เขมรเบี้ยว! ถก JBC 14 มิ.ย.ไม่คุยปมชายแดนกับไทย อ้างเตรียมขึ้นศาลโลกแล้ว - ผู้จัดการออนไลน์ (เผยแพร่ 5 มิ.ย. 2568)
• [2.2] ไทยรัฐออนไลน์. (2568, ). ทัพภาค 2 แจงข้อพิพาทเขตแดน ปราสาทตาเมือน-ช่องบก รอดูผลเจรจา. https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2862743
• [2.3] PPTV HD 36. (2568, มิ.ย.). กัมพูชาเตรียมยื่น ICJ ขอคำวินิจฉัยพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย.
o ปราสาทชายแดนร้อน! กัมพูชาอ้างสิทธิ์ 3 โบราณสถาน 1 พื้นที่ฝั่งไทย - Thai PBS (เผยแพร่ 1 มิ.ย. 2568 - จาก Thai PBS)
[3] สำหรับการยืนยันความเป็นดินแดนของไทย (กลุ่มปราสาทตาเมือน):
• กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). ข้อมูลโบราณสถาน: ปราสาทตาเมือน.
o ปราสาทตาเมือน - ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
[4] สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม (จังหวัดสระแก้ว):
• [4.1] กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม.
o อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม - กรมศิลปากร
• [4.2] วารสารวิชาการ มรดกโลกและวัฒนธรรม. (ม.ป.ป.). บทความที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาปราสาทสด๊กก๊อกธมในบริบทของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา.
o SADOK KOK THOM 2 INSCRIPTION: SIGNIFICANT EVIDENCE of ANCIENT KHOM - KHMER HISTORY - วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
[5] สำหรับปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ):
• [5.1] TOP NEWS LIVE (2568, 13 พฤษภาคม.) สะพัด!ชายแดน เขมรขยับกำลังประชิด "ปราสาทโดนตวล" กระตุกไทยขึ้นลำปืน เสริมกำลังทันควัน https://www.youtube.com/watch?v=oKUpmlOpEBY
• [5.2] ไทยรัฐออนไลน์. (2568, 12 พฤษภาคม). ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทโดนตวล.
o ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด! ล่าสุดเสริมทหารใกล้ปราสาทโดนตวล - PPTV HD 36 (เผยแพร่ 12 พ.ค. 2568 - จาก PPTV HD 36)
• [5.3] PPTV ออนไลน์ (2568, 12 พฤษภาคม). ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด! ล่าสุดเสริมทหารใกล้ปราสาทโดนตวล
o http://pptv36.news/1ra0
.
เรียบเรียงข้อมูลและแนะนำโดย นางแพรว ธนภัทรพรชัย เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน
ออกแบบกราฟิกโดย นายพีรยุทธ กษิติบดินทร์ชัย บรรณารักษ์ปฏิบัติการ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกจากต้นทุนทางวัฒนธรรม (Museum Souvenir & Gift) ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ได้แก่ เสื้อยืดวาระการครบรอบ ๔๐ ปี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี (๒๕๒๘ - ๒๕๖๘) เสื้อยืดลายพระคเณศ กระเป๋าผ้าลายมกร กระเป๋าผ้าปักลวดลายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จากโบราณสถานสระแก้ว เมืองศรีมโหสถ และผลงานสร้างสรรค์ร่วมกับ Little Turtle Studio ได้แก่ พวงกุญแจพระคเณศ ที่หนีบผมรูปมกร มาสกิ้งเทปลายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จากโบราณสถานสระแก้ว เมืองศรีมโหสถ
ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกได้บริเวณจุดจำหน่ายบัตรและของที่ระลึก โถงต้อนรับด้านหน้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี (ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกไม่มีการจัดจำหน่ายทางออนไลน์) เปิดให้บริการ วันพุธ - อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. (และเปิดเป็นกรณีพิเศษในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๘ เป็นต้นไป) ปิดวันจันทร์ - อังคาร สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๗๒๑ ๑๕๘๖ Facebook "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี : Prachinburi National Museum"
หอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชมละครโทรทัศน์ ย้อนวันวานละครไทยในอดีต ในวันศุกร์ เวลา 13.30 น. ณ ห้องจัดแสดง ชั้น 2 หอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สำหรับวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2568 นี้ รับชมละครโทรทัศน์ ปากกาทอง ตอน “ง่ายนิดเดียว” บทประพันธ์ โดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (รับจำนวนจำกัด 100 ที่นั่ง) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2280 9828 - 32 สามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ของหอสมุดแห่งชาติ ได้ทาง Facebook : National Library of Thailand https://www.facebook.com/NationalLibraryThailand
เลขทะเบียน : นพ.บ.689/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 26 หน้า ; 4.5 x 55 ซ.ม. : ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 217 (202-207) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : มนุสสวินยวณฺณนา--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
พี่บรรณนี่ขอชวนผู้อ่านไปค้นพบเรื่องราวความรู้ที่น่าสนใจจากหนังสือดีที่มีให้บริการในหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “หอคองคอเดีย พิพิธภัณฑ์แห่งแรกของไทย”
“หอคองคอเดีย” ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2413 อยู่ในบริเวณพระราชฐานชั้นนอกในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดตั้งขึ้นตามแบบอย่างสโมสรคองคอเดียในเมืองปัตตาเวีย พระราชทานแก่ทหารมหาดเล็กในพระองค์เพื่อใช้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ในงานเฉลิมพระชนมายุครบ 20 พรรษา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “หอมิวเซียม”ณ หอคองคอเดีย ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงสำหรับประชาชนเพื่อใช้จัดแสดงศิลปโบราณวัตถุต่างๆ ที่นำมาจากพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพิธีเปิดหอมิวเซียม เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 กรมศิลปากรจึงถือว่าวันนี้เป็นวันกำเนิดพิพิธภัณฑสถานแห่งแรกของไทย และต่อมารัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 19 กันยายนของทุกปี เป็น “วันพิพิธภัณฑ์ไทย”
ต่อมาใน พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายหอมิวเซียมจากหอคองคอเดียไปไว้ในพระที่นั่งตอนหน้าของพระราชวังบวรสถานมงคล เรียกกันว่า “พิพิธภัณฑ์วังหน้า” หรือ “มิวเซียมหลวงที่วังหน้า” และใช้เป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจนถึงปัจจุบัน ส่วน หอคองคอเดียนั้นภายหลังในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ใช้เป็นสถานที่พระราชทานเลี้ยงในงานสโมสรสันนิบาต และพระราชทานนามใหม่ว่า “ศาลาสหทัยสมาคม” ต่อมา พ.ศ. 2483 รัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัฐบาลสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้ศาลาสหทัยสมาคม จัดเป็นราชพิพิธภัณฑ์นำเครื่องราชภัณฑ์ต่างๆ ของพระมหากษัตริย์จัดแสดงให้ประชาชนชมเป็นครั้งแรก และในสมัยนี้ยังใช้ศาลาสหทัยสมาคมเป็นห้องลงนามถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษาและวันขึ้นปีใหม่ จวบจนมาถึงรัชกาลปัจจุบันก็ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ศาลาสหทัยสมาคมในโอกาสและวาระต่างๆ ตามความเหมาะสมเรื่อยมา
ผู้อ่านที่สนใจเรื่องราวของหอคองคอเดียและการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ เรื่อง “อาไคฟ ขอให้เก็บให้จงดี” ซึ่งจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในวาระครบ 70 ปี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร และสามารถอ่านได้ที่ห้องศิลปากรและหนังสือหายาก หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หรืออ่านในรูปแบบออนไลน์ได้ที่ https://www.finearts.go.th/main/view/46626
ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ
กรมศิลปากร สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. อาไคฟ ขอให้เก็บให้จงดี = Archive : please keep itproperly preserved. กรุงเทพฯ: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2567.
ศ.ว. หอคองคอเดีย. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2568, จาก https://clah.finearts.go.th/content/372
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ขอเชิญชมนิทรรศการหมุนเวียน เนื่องในวันพิธภัณฑ์ไทย ประจำปี ๒๕๖๘ เรื่อง "น่าน การเดินทางในอดีต" จัดแสดงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘ พบกับนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวการเดินทางในอดีตของน่าน ผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนัง บันทึกการเดินทาง และภาพถ่ายเก่า พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้มรดกศิลปวัฒนธรรมในเมืองน่าน กับกิจกรรมตอบแบบสอบถามจากนิทรรศการ รับฟรี! ของที่ระลึก (มีจำนวนจำกัด) ได้แก่ 1. แผ่นภาพแผนที่จังหวัดน่าน พร้อมคิวอาร์โค้ดคู่มือการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดน่าน 2. โปสการ์ดภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดหนองบัว
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน เปิดให้บริการทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ (ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00 น. - 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร)สอบถามเพิ่มเติมที่กล่องข้อความเพจเฟซบุ๊ก : Nan national Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน https://www.facebook.com/NanNationalMuseum1987 หรือ โทร. 0 5477 2777 และ 0 5471 0561
สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ขอเชิญชมประมวลภาพ การจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยประติมากร นายภราดร เชิดชู ประติมากรเชี่ยวชาญ (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านประติมากรรม) และคณะ ผู้สนใจสามารถชมภาพได้ทางลิ้งค์ https://datasipmu.finearts.go.th/portfolio/1527 (ข้อมูลโดยนายภราดร เชิดชู ประติมากรเชี่ยวชาญ (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านประติมากรรม), บันทึกภาพเฉพาะเผยแพร่ โดยนายพยนต์ รัตนกุล) “ระบบศูนย์ข้อมูลงานศิลปกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร” เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้ด้านศิลปกรรมของสำนักช่างสิบหมู่ ผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีองค์ความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะไทย ในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) อาทิ งานช่างปิดทองประดับกระจก การสร้างลวดลายในงานโลหะ การจัดสร้างหุ่นหลวง การเขียนภาพจิตรกรรมไทย การตอกกระดาษตอกฉลุหนัง การแกะแม่พิมพ์หินสบู่ การประดับมุกแบบญี่ปุ่น ฯลฯ และชมผลงานของสำนักช่างสิบหมู่ได้อีกมากมาย ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้งานด้านศิลปกรรม ของสำนักช่างสิบหมู่ ผ่านทางเว็บไซต์ https://datasipmu.finearts.go.th
กรมศิลปากรได้จัดพิมพ์หนังสือ เรื่อง “เทวสตรี: คติพุทธ พราหมณ์ และความเชื่อในประเทศไทย”ประกอบนิทรรศการเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๕๘ จัดพิมพ์สี่สีพร้อมภาพประกอบสวยงาม จำหน่ายราคาเล่มละ ๓๕๐ บาท
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาแบ่งเป็น ๕ บท ได้แก่ บทที่ ๑ เทวสตรี: คติความเชื่อจากอดีตกาล บทที่ ๒ เทวสตรีในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู: พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของสตรี นำเสนอเรื่องราวของเทวสตรี ๓ องค์ได้แก่ พระนางปารวตี พระลักษมี และพระสรัสวดี บทที่ ๓ เทวสตรีในศาสนาพุทธ: ผู้ทรงพลังแห่งพุทธิปัญญา นำเสนอเรื่องราวของเทวสตรี ๔ องค์ ได้แก่ พระนางปรัชญาปารมิตา พระนางโยคินี พระนางตารา และพระนางจุนทา บทที่ ๔ พระแม่ เจ้าแม่ ในความเชื่อท้องถิ่น: ขุมพลังแห่งธรรมชาติ นำเสนอเรื่องราวของพระแม่ธรณี พระแม่โพสพ และพระแม่คงคา และบทที่ ๕ รายการโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ จำนวน ๕๕ ชิ้น ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าชมนิทรรศการและผู้สนใจให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทวสตรีในประเทศไทยได้เป็นอย่างดียิ่ง
ผู้สนใจติดต่อซื้อได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างการจัดแสดงนิทรรศการในวันที่ ๒๙ เมษายน - ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ หลังจากนั้นสามารถซื้อได้ที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. ๐ ๒๒๘๑ ๐๔๓๓, ๐ ๒๒๘๑ ๖๗๖๖
ผู้แต่ง : สมถวิล เทพยศปีที่พิมพ์ : 2532สถานที่พิมพ์ : แพร่ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ไทยอุตสาหการพิมพ์ ประวัติและผลงานของศรีวิใจ (โข้) เป็นหนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของศรีวิใจ ศรีวิใจโข้ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2400 เป็นบุตรคนที่สี่ ของเจ้าน้อยเทพและนางแก้ว เทพยศ ศรีวิใจโข้ เป็นนักกลอนหรือนักกวี ได้ประพันธ์บทกวีว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ค่าวประวัติเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ และยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การฮ่ำบอกไฟ (บ้องไฟ) (จรวดไม้ไผ่) การฮ่ำฉลองวัดร่องกาศ
แบ่งการจัดแสดงออกเป็นหัวข้อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
๑. มรดกดีเด่นทางวัฒนธรรม เช่น สถานที่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยว ปูชนียวัตถุที่สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ประเพณีวัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณีอาหารพื้นบ้านและหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น ๒. มรดกดีเด่นทางธรรมชาติ ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติ เช่น อุทยานหินเขางู โป่งยุบ แก่งส้มแมว เป็นต้น รวมทั้งต้นไม้และพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดราชบุรี ๓. บุคคลสำคัญ ได้แก่ บุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงและทำคุณประโยชน์ให้แก่จังหวัดในด้านต่าง ๆ เช่น ปูชนียบุคคลที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญทางด้านทหาร การเมืองและการปกครอง รวมทั้งบุคคลสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศิลปินเพลงพื้นบ้านต่าง ๆ