...

ตราประจำจังหวัดตรัง
องค์ความรู้จากหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง
ขอนำเสนอเรื่อง “ตราประจำจังหวัดตรัง” 
  ๑. ความเป็นมาของตราประจำจังหวัด
  ในปี ๒๔๘๓ โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ริเริ่มให้มีการจัดทำตราประจำจังหวัดขึ้นใช้นอกเหนือจากตราประจำตัวและตราประจำตำแหน่งข้าราชการที่มีมาแล้วแต่โบราณ แนวคิดการสร้างตราประจำจังหวัดมาจากเหตุผลหลัก ๒ ประการคือ ๑) ต้องการมีเครื่องหมายประจำจังหวัดดังเช่นประเทศในยุโรป และ ๒) ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นมีความภาคภูมิใจและรักในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ก่อให้เกิดความเป็นปึกแผ่นและส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง 
 รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีจึงมอบนโยบายให้กรมศิลปากรออกแบบดวงตราประจำจังหวัด ขณะนั้นมีพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ดำรงตำแหน่งอธิบดี ออกแบบดวงตราประจำจังหวัดทุกจังหวัด โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิของกรมศิลปากร ๒ ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) เป็นผู้คิดความหมายจากชื่อจังหวัด หรือจากสิ่งสำคัญในแต่ละจังหวัด เพื่อจำลองออกมาเป็นภาพในดวงตรา และ
พระพรหมพิจิตร (อู๋ ลาภานนท์) เป็นผู้ร่างแบบตามแนวคิด ทั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดมีส่วนร่วมเสนอแนวคิดเพื่อประกอบการพิจารณาเขียนตราประจำจังหวัดด้วย ส่วนการเขียนลงเส้นมีช่างอาวุโสในแผนกหัตถศิลป กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากรเป็นผู้เขียนรวม ๔ นายคือ นายปลิว จั่นแก้ว นายทองอยู่ เรียงเนตร นายปรุง เปรมโรจน์ และนายอุ่ณห์ เศวตมาลย์
  จังหวัดต่าง ๆ ได้นำดวงตราไปใช้ในปี ๒๕๘๕ ต่อมาเพื่อให้ดวงตราของแต่ละจังหวัดมีความชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นของจังหวัดใด กรมศิลปากรจึงได้เพิ่มแถบชื่อจังหวัดหรือบางดวงได้เพิ่มทั้งรูปครุฑและแถบชื่อไว้ด้วยกัน โดยวางในตำแหน่งที่เหมาะสมของลักษณะตราแต่ละดวง
  ต่อมาในภายหลังมีบางจังหวัดต้องการเปลี่ยนแปลงแบบดวงตราใหม่และได้ขอให้กองหัตถศิลป กรมศิลปากรออกแบบให้ใหม่ และบางจังหวัดได้มอบให้กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทยแก้ไข หรือออกแบบขึ้นเอง ดังนั้นจึงมีหลายจังหวัดที่ยังคงใช้ตราประจำจังหวัดตามแบบเดิมที่กรมศิลปากรออกแบบให้เมื่อปี ๒๔๘๓ และมีดวงตราประจำจังหวัดของหลายจังหวัดที่เปลี่ยนแปลงไป 
  ในปัจจุบันจังหวัดที่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งขึ้นใหม่ กรมศิลปากรได้ออกแบบตราประจำจังหวัดให้เฉพาะบางจังหวัดที่ขอความร่วมมือเท่านั้น
  ๒. ตราประจำจังหวัดตรัง
  กรมศิลปากรออกแบบตราประจำจังหวัดตรังเป็นภาพสะพานท่าเรือ ทะเลมีระลอกคลื่น ภูเขาและต้นไม้ พร้อมทั้งอธิบายความหมายไว้ดังนี้
  “สะพานท่าเรือมีเสาโคมไฟ” หมายถึง การเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ
  “ทะเลมีลูกคลื่น” มาจากคำว่า "ตรังค์" ซึ่งแปลว่า คลื่น
   “ภูเขา” หมายถึง ลักษณะพื้นที่ของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ สลับกับภูเขา
  “ต้นไม้” หมายถึง ต้นยางพารา ซึ่งพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) ได้นำมาปลูกในจังหวัดตรังเป็นแห่งแรก
  ทั้งนี้ปัจจุบันจังหวัดตรังยังคงใช้ตราตามแบบของกรมศิลปากร แต่ได้เพิ่มชื่อจังหวัดตรังไว้ตอนล่างของดวงตรา 
 ในสมัยก่อนเคยมีการนำรูปครุฑมาไว้ตอนบนของดวงตราด้วย
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. ตราประจำจังหวัด. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๒.
สุนทรี สังข์อยุทธ์.  ตรัง เมืองท่าอันดามัน. ตรัง: ศาลากลางจังหวัดตรัง กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๕๙.
อาณัติ บำรุงวงศ์.  เหลียวหลัง แลหน้า : ทับเที่ยง ๙๐ ปี เทอดพระเกียรติครองราชย์ ๖๐ ปี. 
  สงขลา : เค.ยู.การพิมพ์ , ๒๕๔๙. 
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร. (๒๕๖๓). ตราประจำจังหวัด. สืบค้นเมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๖๔, 
  จาก https://www.nat.go.th
ที่มาของภาพ
ภาพที่ ๑ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จากเพจ S. Phormma's Colorizations https://www.facebook.com/sphormmacolorization/
ภาพที่ ๒ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ จากเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_918
ภาพที่ ๓ ศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) จากหนังสือบรรณานุกรมงานนิพนธ์ของศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธน
ภาพที่ ๔ พระพรหมพิจิตร (อู๋ ลาภานนท์) จาก https://www.pinterest.com/pin/117797346476310550/
ภาพที่ ๕ – ๘ ภาพตราประจำจังหวัด จากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ภาพที่ ๙ – ๑๐ ภาพตราประจำจังหวัดตรัง จากหนังสือตรัง เมืองท่าอันดามัน.

(จำนวนผู้เข้าชม 1839 ครั้ง)