หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา
for w3c
for w3c
KING RAMA IX COMMEMORATIVE NATIONAL LIBRARY, NAKHON RATCHASIMA
เว็บท่ากรมศิลปากร
Thai
English
ก
ก
ก
C
C
C
search
search
หน้าหลัก
เกี่ยวกับหน่วยงาน
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
ประวัติและบทบาทหน้าที่
โครงสร้างและบุคลากร
หน่วยงานในสังกัด
ข่าวและกิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์
คลังภาพกิจกรรม
ข่าวกิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรม
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวรับสมัครงาน
คลังวิชาการ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ความรู้ทั่วไป
คลังภาพทรงคุณค่า
วีดีทัศน์
นิทรรศการ
บริการ
ฐานข้อมูล Single Search
ฐานข้อมูลห้องสมุดดิจิทัล D-Library
E-Newspaper หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสารออนไลน์
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จากสำนักพิมพ์
คลังดิจิทัลมรดกทางศิลปวัฒนธรรม
ฐานข้อมูลเอกสารโบราณ จารึก สมุดไทย ตู้พระธรรมและคัมภีร์ใบลาน
Link เครือข่าย
หอสมุดแห่งชาติ
หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หอสมุดแห่งชาติ ชลบุรี
หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
หอสมุดแห่งชาติกาญจนาภิเษก สงขลา
หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สงขลา
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ตรัง
ประชาชนควรรู้
กฎหมายและระเบียบ
เรื่องน่ารู้
ติดต่อเรา
หน้าแรก
คลังวิชาการ
ความรู้ทั่วไป
ประติมากรรมดินเผารูปสตรี ประดับศาสนสถานสมัยทวารวดี
ประติมากรรมดินเผารูปสตรี ประดับศาสนสถานสมัยทวารวดี
ดินเผา สูงประมาณ ๒๖ เซนติเมตร
ศิลปะทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔ (ประมาณ ๑,๒๐๐ – ๑,๓๐๐ ปีมาแล้ว)
พบที่เมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องอู่ทองศรีทวารวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
ประติมากรรมดินเผารูปสตรี ใบหน้ากลม คิ้วต่อกันเป็นปีกกา ตาเหลือบมองลงต่ำ จมูกโด่ง ปากอมยิ้ม ไว้ผมแสกกลาง มัดผมเป็นจุกกลางศีรษะ ลักษณะคล้ายทรงผมที่พบในประติมากรรมศิลปะอินเดีย สวมเครื่องประดับ ได้แก่ ตุ้มหูรูปห่วงกลม ส่วนปลายของตุ้มหูโค้งเข้าหากัน ใบหูยาวจรดถึงบ่า สวมสร้อยลูกปัดที่มีจี้รูปโค้งประดับตรงกลาง ต้นแขนสวมเครื่องประดับ เครื่องประดับเหล่านี้มีรูปแบบคล้ายกับลูกปัดและเครื่องประดับที่พบภายในเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
ประติมากรรมดังกล่าวใช้สองมือเกาะขอบฐานด้านล่าง เนื่องจากรอบข้างของประติมากรรมหักหายไป สันนิษฐานว่าหากมีสภาพที่สมบูรณ์ อาจมีลักษณะเป็นรูปวงโค้งเพื่อใช้ประดับศาสนสถานแบบเดียวกับวงโค้งรูปบุคคลที่เรียกว่า”กุฑุ”ซึ่งนิยมใช้ประดับขั้นหลังคาศาสนสถานแทนความหมายของชั้นวิมานในศาสนสถานสมัยทวารวดีที่พบภายในเมืองโบราณอู่ทอง เพื่อแสดงให้เป็นว่าเป็นวิมานของเหล่าเทพต่าง ๆ เป็นรูปแบบศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียสมัยคุปตะ และสมัยหลังคุปตะ (ราวพุทธศตวรรษที่ ๙ - ๑๓ หรือเมื่อประมาณ ๑,๓๐๐ - ๑,๗๐๐ ปีมาแล้ว) ทั้งนี้มีหลักฐานการค้นพบ “กุฑุ” ดินเผา ในเมืองโบราณอู่ทอง จำนวนอย่างน้อย ๓ ชิ้น จัดแสดงอยู่ ณ ห้องบรรพชนคนอู่ทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จำนวน ๒ ชิ้น และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี จำนวน ๑ ชิ้น
------------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
------------------------------------------------------
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. ศิลปะทวารวดี ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด, ๒๕๕๒. พนมบุตร จันทรโชติ และคณะ. นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง และเรื่องราวสุวรรณภูมิ. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ๒๕๕๐.
(จำนวนผู้เข้าชม 7537 ครั้ง)