...

บอกไฟปูจา (บูชา) พระพุทธเจ้า
บอกไฟปูจา (บูชา) พระพุทธเจ้า
ในงานเทศกาลนมัสการพระธาตุเขาน้อย จังหวัดน่าน
งานเทศกาลนมัสการพระธาตุเขาน้อย จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๘ เหนือ ของทุกๆปี หรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ของภาคกลาง
โดยบรรยากาศในอดีตของงานนมัสการพระธาตุเขาน้อย จากบันทึกความทรงจำสำราญ จรุงจิตรประชารมย์ มหาดเล็ก ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้าย (ครองนครในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ - ๒๔๗๔) โดยในงานจะมีการจุดบอกไฟเป็นพุทธบูชาและเป็นประเพณีสืบมา ซึ่งก๊างบอกไฟ (นั่งร้านที่จุดบอกไฟ) จะอยู่ ณ กลางทุ่งนา บริเวณเชิงดอยพระธาตุเขาน้อย โดยบรรยากาศในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ดังในบันทึก ดังนี้
“...ในงานนมัสการพระธาตุเขาน้อย ประจำปีในปีนั้น เจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน ท่านได้เสด็จไปนมัสการพระธาตุเขาน้อยตามปกติ ตามที่เคยทรงปฏิบัติมา และปรากฏว่าในปีนั้นมีบอกไฟที่นำไปจุดเป็นพุทธบูชามีจำนวนมาก จะจุดตามสาระคงจะจุดให้หมดในวันเดียวไม่ได้ คณะกรรมการจึงได้นำขึ้นไปจุดพร้อมกันหลายบอก ปรากฏว่าในการจุดครั้งนั้นมีบอกไฟนำขึ้นจุดพร้อมกันถึง ๑๐ บอก มีหลายขนาดบนค้างบอกไฟแน่นไปหมด เวลาจุดต้องใช้พลุลูดหนูแล่นตามสายเชือกขึ้นไปจุด ไม่มีใครกล้าขึ้นไปจุดเพราะกลัว ผมกางร่มนั่งดูบนหัวคันนากลางทุ่งนา แดดร้อนเปรี้ยง ห่างจากค้างบอกไฟไม่มากนัก ปรากฏว่าพลุลูกหนูที่จุดแล่นขึ้นไปนั้นไม่ติดเชื้อประทุ ที่หัวชนวนเงียบอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าขึ้นไปบันไดค้างบอกไฟ เพื่อดูว่าทำไมไม่ติดเพราะกลัว ขณะนั้นมีกระทาชายคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคนดูกลางทุ่ง ชายคนนั้นได้ถอดเสื้อออกแล้วปีนบันไดขึ้นไปดู คนดูโดยรอบต่างร้องห้ามปราม แต่แกไม่ฟัง พอปีนขึ้นไปถึงที่นั่งร้านสำหรับคนนำบอกไฟไปจุดเท้านั้น ไฟได้ลุกพรึบติดสายชนวนมะผาบขึ้นทันที ตอนนี้คนดูต่างอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆกัน เกรงว่าชายคนนั้นคงต้องตายแน่ ๆ เพราะบอกไฟตั้ง ๑๐ บอก บางบอกก็แตกคาค้างอยู่ บางบอกก็เยี่ยว บางบอกก็ขึ้น สับสนอลม่านไปหมด ควันเฝ่าดินปืนที่พ่นออกมามืดมิด มองไม่เห็นชายผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย แต่พอควันเริ่มจางลง จึงมองเห็นว่า ชายคนนั้นยืนรำป้ออยู่บนค้างบอกไฟนั้น ตัวดำมดหมี แล้วไต่บันไดลงมาอย่างคล่องแคล่วไม่แสดงอาการว่าเป็นอะไรเลย คนโดยรอบต่างวิ่งกรูเข้าไปดู ซึ่งรวมทั้งตัวผมด้วย ต่างคนต่างสำรวจดูตามเนื้อตัวของชายคนนั้นด้วยความเป้นห่วง ปรากฏว่าไม่ลวก ไม่ไหม้แม้แต่ผม บนศีรษะก็ไม่หงิกงอใดๆ ทั้งสิ้น งืดจริงๆ (ประหลาดใจ) ชายคนนั้นคือ นายธิ หนังแห้ง คนบ้านเจดีย์ ตำบลดู่ใต้ เป็นที่เลื่องลือในทางขมังเวทย์ ฟันแทงไม่เข้า จึงได้รับฉายา “หนังแห้ง” ผู้คนโจษขานกันวาที่ไฟไม่ลวก ไฟไม่ไหม้นั้นเพราะแกมีคาถา “โมคัลลานดับเปี๋ยว” (เปลวไฟ) ทั้งหมดนี้เรื่องจริงที่ผมได้เห็นมากับตา นับว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเลยทีเดียว งือบ่อครับ...”
ที่มา : บันทึกควาททรงจำ สำราญ จรุงจิตรประชารมย์. พิมพ์ครั้งที่ ๒. น่าน : สำนักพิมพ์องค์เบอร์รี. ๒๕๕๘.
ที่มาภาพ: หอจดหมายเหตุมหาวิทยาลัยพายัพ





(จำนวนผู้เข้าชม 208 ครั้ง)


Messenger