โบราณวัตถุจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงตั้งอยู่ในเขตอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงพัฒนาการทางวัฒนธรรมและสังคมของชุมชนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ย้อนหลังไปกว่า 4,300 ปี โดยมีภาชนะดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์ในการเขียนสีแดงบนพื้นสีนวลซึ่งมีลวดลายงดงามเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตเครื่องมือเครื่องใช้โลหะที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก
ถ้วยน้ำชาพร้อมจานรอง ประดับตราประจำพระองค์ทูนกระหม่อมบริพัตร
ถ้วยน้ำชาพร้อมจานรองขอบทองเขียนลายสีเขียว ประดับตราประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต หรือทูนกระหม่อมบริพัตร เจ้าของวังบางขุนพรหม ถ้วยน้ำชาชุดนี้เป็นมรดกจากต้นราชสกุลบริพัตร และเป็นหนึ่งในหลักฐานของความนิยมเครื่องถ้วยแบบตะวันตกที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในราชสำนักสยาม สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่มีการติดต่อกับชาติตะวันตกมากขึ้น และรับอารยธรรมของชาติตะวันตกมาปรับใช้ในหลายด้าน รวมถึงวัฒนธรรมการกินแบบตะวันตก
ตลับงา
ตลับงาช้าง เป็นหนึ่งในของสะสมที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในราชสำนักฝ่ายในของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยชุดตลับงาทรงลูกพลับในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ชุดนี้ มีทั้งสิ้น 20 ตลับ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งโปรดให้ช่างกลึงงาช้าง ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นตลับงารูปลูกพลับขนาดไล่เรียงกันตั้งแต่ใบใหญ่จนถึงใบเล็ก และพระราชทานนามตลับงาเป็นชื่อที่คล้องจองไล่เรียงตามขนาด โดยทั้งหมดเป็นชื่อนก
หอเขียนวังสวนผักกาด
อาคารไม้ทรงไทย อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 24 ภายในตกแต่งด้วยภาพลายรดน้ำเรื่องพุทธประวัติ รามเกียรติ์ และภาพวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตอย่างงดงาม ซึ่งเสด็จในกรมฯ และคุณท่าน ทรงกระทำผาติกรรมไถ่ถอน จากวัดบ้านกลิ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมบูรณะและย้ายมาเก็บรักษาที่วังสวนผักกาดแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502
ประติมากรรมพระอุมา
ประติมากรรมเทวสตรี สร้างขึ้นในศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าคือ พระอุมา ศิลปะลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือราว 1,400 ปีมาแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นหลักฐานด้านประติมากรรมขอมที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในดินแดนไทย