กรมศิลปากรถวายเทียนจำนำพรรษา
จำนวนผู้เข้าชม 845

กรมศิลปากรถวายเทียนจำนำพรรษา
  วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 กรมศิลปากรถวายเทียนจำนำพรรษา ณ พระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ-
ยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสมชาย  ณ นครพนม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโบราณคดี เป็นประธานในพิธีนำถวายเทียน และพระสุวิมลธรรมาภรณ์ พระราชาคณะ วัดมหาธาตุยุว-
ราชรังสฤษฎิ์ รับการถวายเทียน
 


 
                   สำหรับวันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ วันเข้าพรรษานั้น เป็นวันที่ให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการเผยแผ่ศาสนาไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้าน
ที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่
จำพรรษารวมกันภายในวัด เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วยการเข้าพรรษา ตามปกติการจำพรรษา เริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษา
 
                   วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร สร้างในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่าวัดสลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับและสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล และทรงโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลัก พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลัก เป็น”วัดนิพพานาราม” เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎกใน พ.ศ. 2331 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ” และใน พ.ศ. 2346 พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร” ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช 
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรม
โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร บูรณะวัดมหาธาตุฯ และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดมหาธาตุยุวราช
รังสฤษฎิ์”
 
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local
          http://th.wikipedia.org/wiki