กรมศิลปากรสำรวจความเสียหายน้ำท่วมโบราณสถาน พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
วันที่ประกาศ : 21/10/2564 00:00 น. จำนวนผู้เข้าชม 777


         นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก กรมศิลปากร เรื่อง สถานการณ์และสำรวจผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมต่อโบราณสถาน หากเกิดความเสียหายให้รีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน พร้อมเฝ้าระวังและเตรียมมาตรการป้องกันโบราณสถาน โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่
          จากรายงานสถานการณ์การสำรวจผลกระทบและความเสียหายต่อโบราณสถาน เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่น้ำลดลงเป็นปกติแล้ว แต่โบราณสถานหลายแห่งยังคงมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลคลองสระบัว เช่น โบราณสถานวัดพระงาม วัดปราสาท วัดพระยาแมน วัดกุฎีทอง ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา จะเข้าตรวจสอบพื้นที่และสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดต่อไป ด้านจังหวัดนครราชสีมา เกิดฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน พระนอน อำเภอสูงเนิน สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยทางวัดธรรมจักรเสมาราม และประชาชนในพื้นที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังโบราณสถาน และกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ ๒๑ (พัน ร.มทบ.๒๑) กองทัพภาคที่ ๒ ได้ดำเนินการก่อกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นเข้าสู่ตัวโบราณสถานแล้ว







          นอกจากนี้ ยังมีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงขึ้น ส่งผลให้วัดอรุณราชวรารามระบายน้ำไม่ทัน น้ำหนุนเข้าท่อระบายน้ำ และท่วมขังภายในเขตพุทธาวาส ส่วนวัดกำแพงบางจาก เขตภาษีเจริญ ได้รับความเสียหายจากฝนตก ทำให้น้ำฝนรั่วเข้าสู่ภายในอุโบสถ ส่งผลให้โครงสร้างไม้ภายในอาคารเสียหาย เช่นเดียวกับศาลเจาเกียน อัน เกง เขตธนบุรี มีน้ำฝนรั่วเข้าสู่ภายในอาคารศาลเจ้า ทำให้โครงสร้างไม้ภายในอาคารเสียหาย ซึ่งกองโบราณคดี ได้เข้าดูแลและแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น พร้อมเร่งดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟูโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายโดยด่วน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อไป
          ทั้งนี้ โบราณสถานทั่วประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย ส่วนโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังคงเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากมีความจำเป็นเร่งด่วน กรมศิลปากรพร้อมจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป